วัดพุทธปัญญา

บทความ\พุทธบูชา

พุทธบูชา

เมื่อวันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม 2553 พุทธศาสนิกชน ชาววัดพุทธปัญญา หลายสิบคนพากันมาวัดพุทธปัญญาเพื่อร่วมกันปฏิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชาตั้งแต่ย่ำค่ำเวลาประมาณ 19.00 น. โดยทำวัตรสวดมนต์เย็นเจริญสมาธิภาวนาร่วมกับพระสงฆ์ เพื่อเป็นการพักใจรำลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณและพระสังฆคุณอย่างเต็มเปี่ยมจนกระทั่งเวลา 20.30 น.จึงได้แสดงธรรมเรื่องพระพุทธคุณสามประการคือ พระมหากรุณาธิคุณ พระวิสุทธคุณ และพระปัญญาคุณ เสร็จแล้วร่วมกันเวียนเทียนรอบอุโบสถศาลาสามรอบ

เพื่อนร่วมธรรมทั้งหลายที่มีภารกิจต้องทำก็พากันแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนหรือพักผ่อนหลับนอนกันตามอัธยาศรัย พวกเราเหลืออีกสามคนคือ คุณเพ็ญสุข คุณจวน คุณศรีนุชได้ร่วมกันเจริญภาวนาเพื่อถวายเป็นพุทธบูชากันต่อจนกระทั่งย่างเข้าสู่วันใหม่จึงแยกย้ายกันไปพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวไปทำพุทธบูชาต่อที่กริฟฟิตพาร์คในวันรุ่งขึ้น

ทุกวันเสาร์พวกเราก็จะไปทำกิจกรรมของชุมชนคนรักธรรมที่กริฟฟิตพาร์คกันเป็นประจำอยู่แล้ว วันวิสาขบูชาปีนี้สมาชิกชุมชนคนรักธรรมต่างตั้งใจเต็มที่ในการเตรียมการต้อนรับวันวิสาขบูชาอย่างเต็มที่จึงเตรียมตัวบอกข่าวประสานงานกันเป็นอย่างดี

เวลา 8.00 น. ตรงคณะสงฆ์และญาติโยมที่อาสาสมัครมาขับรถให้ได้ออกจากวัดมุ่งสู่ไทยแลนด์พลาซ่า อาสาสมัครนำพระไปบิณฑบาตที่บริเวณตลาดไทยแลนด์พลาซ่า และกริฟฟิตพาร์ประจำวันเสาร์นี้ คือ คุณบุญเลิศ จิตผ่องใส ซึ่งได้เสียสละเวลามาถวายความสะดวกแก่พระงฆ์มาเป็นเวลาแปดปีมาแล้ว คือจำง่ายๆวันที่อาตมาลงจากเครื่องบินที่สนามบินออนตาริโอเพื่อมาประจำที่วัดพุทธปัญญา คุณบุญเลิศนี้เองที่ขับรถไปรับมาเข้าวัด ตั้งแต่นั้นมาก็มาช่วยเหลือพระสงฆ์มิได้ขาด นับเป็นผู้หนึ่งในขบวนเผยแผ่พระพุทธศาสนาของวัดพุทธปัญญาทีเดียว

การเดินทางวันเสาร์ที่  29 พฤษภาคม 2553 เป็นไปอย่างสะดวก จึงเดินทางถึงไทยแลนด์พลาซ่าอย่างรวดเร็ว จึงนำตะกร้าสำหรับถ่ายบาตร ซีดีและหนังสือธรรมะภาคภาษาอังกฤษจำนวนหนึ่งไปวางไว้ตรงที่พระสงฆ์นั่งก่อน หนังสือภาษาอังกฤษนี้เป็นงานแปลจากเรื่องการทำภาวนาเบื้องต้นที่บรรยายไว้โดยหลวงพ่อพุทธทาส ท่านจ้อยที่พำนักอยู่ที่สวนโมกข์ส่งมาให้คุณสมพงษ์ซึ่งเป็นญาติโยมใกล้ชิดวัดพุทธปัญญามานาน คุณสมพงษ์ทราบว่า ทางวัดก็ชอบแจกหนังสือธรรมะมากจึงได้นำมาไว้ให้แจกญาติโยมตามอัธยาศัย

เมื่อบิณฑบาตที่ไทยแลนด์พลาซ่าเสร็จแล้ว คณะญาติโยมและพระสงฆ์จึงได้พากันเดินทางขึ้นไปกริฟฟิตพาร์คเพื่อร่วมกันทำกิจกรรมวันวิสาขบูชาตามที่ได้นัดหมายกันไว้

คุณณรงค์ ศุภโยธิน หัวเรี่ยวหัวแรงคนสำคัญของชุมชนคนรักธรรมได้นำอาหารว่าง น้ำชา กาแฟมาเลี้ยงสมาชิกเพื่อเป็นน้ำหล่อเลี้ยงมิตรภาพอยู่มิได้ขาด วันนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้นได้นำขนมและกาแฟมาเลี้ยงกันอย่างทั่วถึง คุณนิกิและคุณนครสองสามีภรรยาผู้ใจดีและใจถึงได้นำอาหารหม้อใหญ่ๆมาเป็นประจำทุกวันเสาร์สลับปรับเปลี่ยนไปตามความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นขนมจีนน้ำยา แกงจืดหัวไชเท้า ผัดไทย ไม่ว่างเว้น

ฝ่ายอาสาล้างภาชนะอย่างคุณพเยาว์และคุณมณีก็ไม่เคยท้อถอยเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ญาติธรรมทุกท่าน

ทีมงานรักโลกรักน้องก็ยังแข็งแกร่งเหนียวแน่น ไม่ว่าจะเป็น คุณอี๊ด คุณนพ คุณเพ็ญสุข คุณจวน คุณชาลี คุณเกสร ทั้งฝ่ายเก็บ ฝ่ายจัดขวด ฝ่ายขายเข้าประจำที่ไม่ขาดตกบกพร่อง ได้นำเงินกลับไปช่วยเด็กที่เมืองไทยปีละหลายหมื่นหลายปีผ่านไปก็หลายแสนบาทอาจจะถึงล้านในไม่ช้านี้ ที่พูดถึงจำนวนหมื่นแสนหรือล้าน อย่าเข้าใจผิดว่า มีหน่วยเป็นดอลล่าร์เชียวนะ แค่บาทเท่านั้นแหละ

แต่สิ่งที่ล้ำค่ามากกว่า หน่วยที่เป็นบาทหรือดอลล่าร์คือ จิตสำนึกของการรักโลก ที่ฝังลึกลงในใจของสมาชิกทุกคนที่เห็นขวดเห็นกระป๋องตรงไหนต้องรี่เข้าไปเก็บต่างหาก หากทุกคนคิดได้อย่างนี้ โลกใบนี้ก็ต้องสะอาดไปเกินครึ่งโลกแน่ๆ

วันนี้คุณนิกิได้เตรียมดอกกล้วยไม้งามๆมาถาดใหญ่เพื่อแจกญาติมิตรร่วมธรรมได้นำไปร่วมเวียนเทียนพุทธบูชา พร้อมกับจัดดอกไม้ชุดเล็กสำหรับบูชาพระพุทธรูปปางลีลาที่แสดงถึงความตื่นตัว ว่องไว และก้าวหน้ามาด้วย ธูปเทียนก็บรรจงผูกติดมาให้อย่างดี

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว พุทธศาสนิกชนเลือกที่นั่งกันตามชอบใจ จะนั่งเสื่อก็ได้ จะนั่งบนกำแพงเล็กๆที่ทางพาร์คทำไว้ก็ได้ หรือหลายท่านมีเก้าอี้ส่วนตัวไปด้วยก็ยิ่งดี ใครสะดวกอย่างไรก็นั่งกันอย่างนั้น

แน่นอนที่สุดวันนี้พวกเรามานั่งพร้อมกันที่กริฟฟิตพาร์คเพื่อกระทำการบูชาพระพุทธเจ้าเป็นพิเศษ ก่อนอื่นต้องระลึกถึงพระชนม์ชีพของพระพุทธเจ้าที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติที่สุด กล่าวคือ พระพุทธเจ้าประสูติ กลางดิน ตรัสรู้กลางดิน และปรินิพพานกลางดิน หรือหากจะนำเอาใต้ร่มไม้มาเป็อนุสรณ์สถานก็จะได้ภาพอย่างครบถ้วนว่า พระพุทธเจ้า ประสูติใต้ต้นไม้ ตรัสรู้ใต้ต้นไม้ และปรินิพพานใต้ต้นไม้ ต้นไม้ทุกต้นจึงเป็นอนุสรณ์สถานให้รำลึกถึงพระพุทธเจ้า วันนี้พวกเราทั้งหลายได้มานั่งใต้ต้นไม้ ก็ได้นั่งใกล้ๆกับพระพุทธเจ้า ทำให้เราระลึกถึงพระพุทธเจ้าได้อย่างคุ้นเคยใกล้ชิดแนบสนิทยิ่งกว่า นั่งในมหาวิหารต่อหน้าพระพุทธรูปทองคำองค์ใหญๆ อย่างเทียบกันไม่ได้

ลานดินที่เราช่วยกันเปลี่ยนเป็นลานธรรมอาจจะขรุขระไปบ้างแต่ทว่าใจของผู้นั่งบนพื้นกลับราบรื่นและเกลี้ยงเกลายิ่งนัก ใครถนัดที่จะนั่งหลับตาเพื่อจดจ้องเพียงเสียงธรรมที่มากระทบข้างหูก็ได้ หรือใครจะลืมตาประสานสายตากับผู้บรรยายธรรมเป็นบางครั้งก็ทำได้อย่างเสรีไม่มีข้อห้าม หรือใครอาจจะฟังธรรมไป ส่ายสายตาจับจ้องมองยอดไม้ที่เขียวชอุ่มในฤดูกาลปลายฤดูใบไม้ผลิและต้นฤดูร้อนก็จะได้สัมผัสกลิ่นอายธรรมชาติเต็มตาเต็มใจ

ท้องฟ้าวันนี้เป็นสีครามสดใสไม่มีเมฆหมอกพัดผ่านมาเลย จึงชีชวนให้เพื่อร่วมธรรมได้ตระหนักรู้ว่า จิตใจที่บริสุทธิ์เกลี้ยงเกลาของพวกเราก็เปรียบประดุจฟากฟ้า เมฆหมอกที่ลอยมาบดบังเป็นบางครั้งบางคราเปรียบเสมือนกกิเลสตัณหาที่เยื้องกรายเข้ามาเยี่ยมเยือนใจ เมฆหมอกมักจะบังฟ้าอยู่บ่อยๆแต่อย่าลืมว่า เมื่อบังฟากฟ้าไปชั่วขณะแล้วก็เคลื่อนคล้อยไป ไม่เคยได้ตั้งอยู่อย่างจีรังยั่งยืน

ใจของเราละเห็นไหม บางวันช่างสดใสไร้ไฝฝ้ามามาเกาะติด บางวันช่างหม่นหมองยิ่งกว่าฟากฟ้าเดือนธันวาหน้าหนาวเสียอีก แต่อย่าลืมว่า ฟ้ายังมีวันใสใจก็มีวันเกลี้ยง อย่าตกใจในวันหม่นหมอง ปล่อยให้มันผ่านไปอย่าได้ยึดเกียวเหนี่ยวรั้งเอาไว้ เมื่อยังตั้งอยู่ก็ดูให้รู้ว่า ยังตั้งอยู่ เมื่อเคลื่อนคล้อยหายไปก็เข้าใจว่า มันเคลื่อนคล้อยผ่านไปแล้ว

อย่าลืมจับความรู้สึกที่กิดขึ้นกับจิตที่ไม่มีม่านหมอกเมฆบัง ว่า เป็นอย่างไร

เวลาที่หมอกบังก็จะรู้สึกไปอย่างหนึ่ง อาจจะหนักใจ หรือใจหนัก

เวลาที่ใจไร้เมฆหมอกก็จะรู้สึกไปอีกอย่างหนึ่งคือ เบาใจ หรือ ใจเบา

พระพุทธเจ้าสอนพวกเราให้เฝ้ามองจิตที่มีลักษณะต่างๆอย่างใกล้ชิด การเฝ้ามองจิตอย่างใกล้ชิดเสมอๆนี่แหละเป็นพุทธบูชาอย่างหนึ่ง

            เมื่อสาธุชนฟังธรรมจบแล้วพระสงฆ์ออกเดินรับอาหารบิณฑบาตจากท่านสาธุชนที่เตรียมมาอย่างเหมาะสม เมื่อรับอาหารบิณฑบาตเสร็จแล้ว พระสงฆ์จึงนำอาหารตามสมควรแก่การดำรงชีวิตไปฉันใต้โคนต้นไม้

            พุทธศาสนิกชนรับอาหารที่พระสงฆ์แบ่งให้แล้ว ไปนั่งล้อมวงรับประทานตามใจชอบเพื่อกระชับความรักความผูกพันระหว่างมิตรให้แนบสนิทยิ่งขึ้น

            เมื่อทุกคนรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงร่วมกันเวียนรอบๆองค์พระพุทธปฏิมาปางลีลาอันเป็นสัญลักษณ์แห่งความ ตื่นตัวว่องไว ก้าวหน้า เพื่อบูชาพระพุทธคุณอันได้แก่ความกรุณา บริสุทธิ์และปัญญา

            เวียนเทียนเป็นพุทธบูชาแล้ว ไม่ลืมรับเอาพระคุณของพระพุทธเจ้ามาประดิษฐานไว้ที่กาย วาจาและใจ เพื่อคอยปกป้องคุ้มครองรักษาให้ชีวิตจิตใจปลอดภัยจากความโหดร้าย ทุกข์ทนหม่หมอง ลุ่มหลงมัวเมา แต่ให้เป็นสื่อแห่งความสะอาด สว่าง สงบเย็น เป็นนิรันดร์

 

© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple