วัดพุทธปัญญา

บทความ\นัดวันพุทธบูชา

นัดวันพุทธบูชา

            ญาติโยมหลายคนเวียนวนมาที่วัดพุทธปัญญา ถามข่าวคราวว่า จะจัดงานวิสาขบูชาเมื่อไร เพราะวันวิสาขบูชาปีนี้แทนที่จะเป็นวันเพ็ญขึ้นสิบห้าค่ำเดือนหก ก็เลื่อนมาเป็นวันเพ็ญขึ้นสิบห้าค่ำเดือนเจ็ดเพราะปีนี้ นับตามจันทรคติเป็นเดือนแปดสองหนวันสำคัญๆจะต้องเลื่อนช้าตามไปเดือนหนึ่งด้วย

            วันวิสาขบูชาก็คือวันที่พุทธศาสนิกชนร่วมกันกระทำการบูชาเพื่อระลึกถึงวันคล้ายกับวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระบรมครูในพระพุทธศาสนาที่เป็นแสงสว่างนำทางพวกเราทั้งหลายสู่วิถีชีวิตที่สุขสันติ

            เมื่อญาติโยมถามข่าวคราวมาก็จะขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันดังต่อไปนี้ว่า แม้วันวิสาขบูชาจริงๆจะตรงกับวันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม 2553 ในวันเวลาดังกล่าวพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่คงจะไปร่วมงานพุทธบูชาไม่ได้ หากใครว่างจริงๆตอนเย็นๆจะมาร่วมทำวัตรสวดมนต์เย็นนั่งสมาธิซึ่งใช้เวลาตั้งแต่ 19.00-20.30 น. หลังจากนั้นก็จะเวียนเทียนร่วมกันเลย

            เป็นที่ทราบกันดีว่า พุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่มักจะสะดวกในวันอาทิตย์ เพื่อเปิดโอกาสให้ญาติโยมอีกกลุ่มหนึ่งที่มีเวลาว่างในวันอาทิตย์ได้มาร่วมกิจกรรมวันวิสาขบูชากันได้อย่างสะดวกจึงขอนัดว่า วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม 2553 เวลา 10.00 น. ร่วมกันทำวัตร สวดมนต์ ทำสมาธิ สมาทานศีล ฟังธรรม ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารแก่พระภิกษุ พุทธบริษัทรับประทานอาหารร่วมกัน

            เสร็จสิ้นการรับประทานอาหารเสร็จแล้วร่วมกันเวียนเทียน หากใครมีเวลาว่างจะสนทนาธรรมต่อเพื่อเป็นการฉลองวันประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพานของพระพุทธเจ้าก็จะเป็นการเพิ่มพูนบุญกุศลให้มากขึ้นแก่ตนเองและบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดก็พลอยมีจิตใจสดชื่นเบิกบานไปด้วย

            เมื่อทราบกำหนดการนัดหมายที่จะได้มาปฏิบัติบูชากันแล้ว ต้องปิดท้ายด้วยพระพุทธภาษิตบทสั้นๆว่า จิตตัสสะ ทะมะโถ สาธุ การฝึกจิตเป็นความดี ความหมายเบื้องต้นในที่นี้คือ การฝึกจิต เป็นการทำความดีชนิดหนึ่งในบรรดาการทำความดีทั้งหลายและที่สำคัญก็คือ เป็นการทำความดีที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสไว้ด้วย การฝึกจิตทุกวันก็เป็นการทำความดีทุกวัน

            การฝึกจิต ทำได้โดยการระวังจิตไม่ให้เผลอไผลไหลไปตามอารมณ์ที่มากระทบ ไม่ว่าอารมณ์นั้นจะเป็นที่ยินดี หรือ เป็นที่ยินร้าย เพราะเมื่อยินดีมากก็จะทำให้ยึดติดมาก ความทุกข์ก็จะเกิดมาจากการยึดติดแกะไม่ออก ยึดติดมากจะมีผลข้างเคียงตามมาเป็นความลุ่มหลงมัวเมา ประมาทขาดสติ ทำความชั่วร้ายอื่นๆได้เหมือนกัน

            หากปล่อยใจให้ไหลไปตามอารมณ์ที่ยินร้าย ที่แสดงออกมาในรูปของการโกรธแค้น เกลียดชัง คลั่งไคล้ อาฆาต พยาบาท จองเวร ทำความเสียหาย ทำลายล้าง ชีวิตของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ทำลายทรัพย์สินสิ่งของต่างๆได้อย่างไม่ยับยั้ง

            พระพุทธเจ้าจึงสอนให้ระวังจิตว่า ผู้ใดจักระวังจิต ผู้นั้นจักพ้นจากบ่วงแห่งมาร

            ความยินดี ถ้ามีมากๆก็จะแปรสภาพเป็นมารร้ายได้หากถึงขั้นลุ่มหลงมัวเมา

            ความยินร้ายหรือความชังเป็นความชั่วขั้นหยาบเป็นมารร้ายที่เห็นได้ง่ายแสดงออกมาครั้งใด ไม่น่ารัก น่าเกลียดน่ากลัว หากทำตามแรงปรารถนาแห่งความยินร้าย ก็คือทำตามคำสั่งของมารร้ายที่คอยทำลายความดีของทุกคนที่มันสิงสถิตย์ หากมองไม่เห็นกำหนดรู้ไม่ได้มารจะผูกมัดเอาไว้ในบ่วงของมันจนดิ้นไม่หลุด

            พระพุทธเจ้าชี้ทางรอดจากบ่วงไว้ชัดเจนว่า ผู้ใดจะระวังจิตผู้นั้นจักพ้นจากบ่วงแห่งมาร  บ่วงมารจะเข้ามาผูกทางไหน

จุดที่บ่วงมารจะเข้ามาผูกมัดรัดรึงอยู่ที่จิต

            การระวังมิให้มารเอาบ่วงมาผูกมัดได้จึงต้องระวังที่จิต

            วันวิสาขบูชาปีนี้ ใครที่ไปทำความดีโดยร่วมกิจกรรมทำวัตรสวดมนต์เจริญสมาธิภาวนาแล้ว อย่าลืมทำความดีด้วยการระวังจิตด้วย หรือหากใครปรารถนาจะไปร่วมงานกิจกรรมของวัดเหมือนกันแต่ไม่สะดวกก็ทำความดีอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงานด้วยการระวังจิต หรือเมื่อเข้าใจว่า การระวังจิต เป็นการฝึกจิตชนิดหนึ่งที่ก่อให้เกิดความดี จะฝึกจิตตลอดไปโดยไม่จำกัดฤดูกาลก็ได้ เพราะเป็นการทำดีที่ทำได้ง่ายที่สุดแต่ได้ผลสูงสุด

            วันวิสาขบูชาและวันเวลาอื่นๆขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนได้ทำความดีอย่างเต็มสติกำลังและมีความดีสถิตย์ที่กาย วาจาและใจ นำให้พบความสุขสงบชั่วกาลนานเทอญ

© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple