วัดพุทธปัญญา

You are visitor

บทความ\สงกรานต์งานเย็นๆ

English

สงกรานต์งานเย็นๆ

เวลามีเทศกาล หรือวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา พุทธศาสนิกชนมักจะถามข่าวคราวเข้ามาที่วัดพุทธปัญญาเสมอว่า ทางวัดจะจัดงานนั้นหรือเปล่า จะจัดงานนี้หรือเปล่าอยู่เป็นประจำ โดยปกติทางวัดก็จัดทุกวันสำคัญหรือเทศกาลแต่พยายามจะจัดแบบเรียบง่ายได้สาระส่งเสริมให้มีการปฏิบัติธรรมร่วมกันในหมู่พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงานมากกว่าความสนุกสนานบันเทิง

งานสงกรานต์ปีนี้ก็จะจัดเหมือนกัน เพราะชาววัดพุทธปัญญาและชาวชุมชนคนรักธรรมได้ทวงถามว่าจะจัดงานหรือไม่ก็บอกว่า ลองปรึกษากันดู จัดแบบเรียบๆง่ายๆ ได้สาระ ถ้าทำได้ก็ช่วยๆกันทำ เพราะประโยชน์ในเชิงศาสนธรรมจะเกิดตรงที่ช่วยๆกันทำนี่แหละ

เมื่อปรึกษาหารือถึงความสะดวกและความร่วมมือก็มีอยู่อย่างหนาแน่น จึงตกลงว่า จัดงานสงการนต์ทั้งสองแห่งเสียเลย คือ วันเสาร์ที่ 10 เมษายน 2553 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไปจัดงานสงกรานต์ที่กริฟฟิตพาร์คแน่นอน ใครที่มีภารกิจยุ่งๆไม่ได้มาเยี่ยมเยือนกันเป็นเวลาแรมเดือนแรมปีแล้ว ถ้ามีเวลาพอว่าง ไม่ติดธุรกิจการงานเหนียวแน่นมากจนเกินไปขอเชิญคืนสู่เหย้าชาวชุมชนคนรักธรรมอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันสักครั้ง โดยการเดินทางกันมาง่ายๆมีอะไรก็ติดไม้ติดมือกันมาคนละเล็กละน้อยเพื่อแบ่งกันรับประทานเหมือนที่เคยปฏิบัติกันมา

หากท่านผู้ใดติดงานวันเสาร์พอจะมีเวลาว่างวันอาทิตย์ วัดพุทธปัญญาก็จะจัดงานวันสงกรานต์ในวันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2553 เริ่มตั้งแต่เวลา 10 นาฬิการ่วมกันสวดมนต์ทำวัตรเช้าบำเพ็ญภาวนาร่วมกันเสียก่อนโดยใช้เวลาสักสี่สิบห้านาที จากนั้นก็จะทำพิธีบังสุกุลบรรพบุรุษ ถวายสังฆทาน อนุโมทนาทาน กรวดน้ำ รับพร ตักบาตรพระสงฆ์จำนวนเจ็ดรูป ถวายภัตตาหารเพลแก่พระสงฆ์ จากนั้นพุทธศาสนิกชนรับประทานอาหารร่วมกัน

พอรับประทานอาหารเสร็จแล้วจัดเก็บสิ่งของต่างๆเป็ที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะร่วมกันสรงน้ำพระพุทธรูป สรงน้ำพระสงฆ์ รดน้ำผู้สูงอายุและผู้ที่เคารพนับถือ ตามอัธยาศัย คือใครรักจะรดน้ำให้ใครก็ขออนุญาตรดให้เลย ทางวัดจะจัดเตรียมน้ำรดผสมน้ำอบไทยและกลีบดอกไม้ไว้ให้ หรือใครจะเตรียมน้ำอบไทยมาเองก็จะเป็นการดี เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีไทยให้สวยงามครบถ้วนสื่อความหมายแห่งความสงบเย็นได้ทุกกิจกรรม

ความหมายสำคัญของการสรงน้ำคือการมอบความสดชื่น ความเย็นให้แก่กันและกัน เพราะน้ำมีปกติเย็นและทำให้ผู้ที่ได้สัมผัสไม่ว่าอาบหรือดื่มรู้สึกได้ถึงความสดชื่นเบิกบาน น้ำเป็นสัญลักษณ์ของการรวมตัวที่สอดประสานกันอย่างกลมกลืนแม้อัตราที่มาผสมจะไม่เท่ากันระหว่างไฮโดรเจนสองโมเลกุล และออ๊กซิเจนหนึ่งโมเลกุล ก็สามารถรวมตัวกันได้อย่างเยือกเย็นเป็นประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติและพืชพันธุ์ธัญญาหารไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ

การจัดงานก็คือการนำเอาความปรารถนาดี ความคิดดีๆมารวมกันเพื่อก่อให้เกิดความเกื้อกูลเอื้อเฟื้อเติมเต็มให้แก่กันและกันให้กำลังใจแก่กันและกันได้แสดงความสามารถและยอมรับความสามารถของกันและกันผ่านกระบวนการทำงานเพื่อส่วนรวมอย่างไม่มีตัวตน

พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนหลักการแห่งการอยู่ร่วมกันด้วยสันติไว้ว่า สังคมน้อยหรือใหญ่จะมีความผาสุกต้องประกอบไปด้วยการแสดงออกทางกายที่ประกอบไปก้วยความเมตตา หรือ ความรัก ความปรถนาดีต่อกัน การแสดงความเคารพ แสดงความอ่อนน้อมต่อกันตามสถานะที่ยอมรับกันเป็นการแสดงออกซึ่งความเมตตาที่นำมาปฏิบัติกันอยู่ในสังคมโดยทั่วไป รอยยิ้มที่ส่งให้แก่กันยอมได้เจอะเจอหรือเวลาจากกันล้วนเป็นการแสดงความเมตตาทางกายที่สัมผัสได้

การพูดจาไพเราะเพราะพริ้งเป็นที่ไพเราะจับจิตจับใจยามได้พบกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันยอมรับความเห็นที่แสดงออกมาด้วยความเคารพล้วนเป็นความเมตตาทางวาจาที่แสดงออกทั้งผู้สื่อและผู้รับตลอดจนถึงการตอบรับที่ดีต่อกัน วาจาที่ดีอ่อนโยนมักจะออกมาจากจิตใจที่ประกอบด้วยเมตตา ที่เรียกว่า เมตตามโนกรรม การทำจิตใจให้ดีต้องฝึกฝนให้คุ้นเคยใกล้ชิดกับเมตตาอยู่เสมอทั้งผ่านกระบวนการภาวนาคือย้ำถึงความเมตตาไว้บ่อยๆและผ่านการแสดงออกที่เอื้อเฟื้อ ผ่านการพูดที่ดีมีเหตุผลไพเราะน่าฟังปลูกฝังความรัก

ความผาสุกของสังคมจะมีได้ง่ายๆอีกทางหนึ่งคือ ต้องมีความเห็นตรงกัน คนที่มีความเห็นตรงกันลงรอยกันว่า อะไรดี อะไรชั่ว อะไรควร อะไรไม่ควร ย่อมสนทนากันอย่างเป็นสุขสนุกสนาน แม้บางคราวอาจจะเป็นไปไม่ได้ที่คนที่มาจากหลายที่จะมีความเห็นตรงกันก็ตามเถอะ แต่หากปรับความเห็นที่คล้ายกันให้เข้ากันได้ เคารพความเห็นต่าง ไม่สร้างความรุนแรง ใจกว้างมองเห็นเพื่อนเป็นทุกข์ไม่ซ้ำเติมใครให้ทุกข์ เคารพกฎเกณฑ์หรือกฎหมายวัฒนธรรมประเพณีที่ร่วมกันสร้างขึ้นมาเพื่อประโยชน์สุขของสังคม

หลักธรรมเหล่านี้คือ หลักการแห่งการอยู่ร่วมกันด้วยสันติอย่างสอดประสานและผาสุก ในโอกาสที่เทศกาลวันสงกรานต์เวียนมาบรรจบครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ขอเชิญชวนพี่น้องชาวพุทธได้ร่วมกันยกระดับการปฏิบัติธรรมสันตินุขให้เข้มข้นมากขึ้นเพื่อความสุขสงบเย็นจะได้เพิ่มมากขึ้นในสังคมอย่างยั่งยืนตลอดไป