ศรัทธา ความเชื่อ
ศรัทธา ความเชื่อ
คำว่า ศรัทธา แปลตรงตัวว่า ความเชื่อ ได้แก่สภาพจิตที่ยึดเหนื่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างเหนียวแน่นด้วยความมั่นใจว่า เมื่อมีสิ่งนั้นอยู่ในชีวิตแล้วความสำเร็จหรือความสุขจะเกิดขึ้นใน ชีวิตของคนแต่ละคนจึงต้องมีศรัทธาต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือ อาจจะมีศรัทธาต่อหลายๆสิ่งเพื่อสร้างพลังใจอันเป็นพลังสำคัญที่จะขับเคลื่อนชีวิตไปสู่ความสำเร็จในหน้าที่การงานหรืออุดมคติอย่างใดอย่างหนึ่ง
หากจะพูดถึงศรัทธาในกรอบแคบๆแค่เรื่องศาสนาเรื่องเดียว มนุษย์ก็มีศรัทธาได้หลายรูปแบบ เช่น มีศรัทธาในองค์ศาสดาพยากรณ์ของแต่ละศาสนา มีศรัทธาในผู้ประกาศศาสนา มีศรัทธาในองค์กรของศาสนา มีศรัทธาในพิธีกรรม หรือมีศรัทธาในสิ่งสูงสุดของศาสนานั้นๆว่าสามารถปกป้องคุ้มครองจากทุกข์โศรกโรคภัยได้หรือส่งเสริมให้ตนเองได้รับสิ่งที่ปรารถนา หรือ ช่วยให้หน้าที่การงานที่ตนกระทำอยู่ประสบความสำเร็จ ช่วยให้สมหวังในรักที่กำลังดำเนินไปอย่างลุ่มๆดอนๆใจหายใจคว่ำ ให้ราบรื่นลื่นไหลประดุจขับรถบนทางด่วนแปดช่องทางหรือสิบช่องทางในชั่วโมงที่รถว่างสุดๆ
ศรัทธา เป็นทั้งวิถีทางและเป็นปัจจัยเสริมของชีวิต ศรัทธาที่เป็นวิถีจะบอกชัดเจนว่า ต้องทำอะไรบ้าง อะไรถูก อะไรผิด ต้องมีศรัทธาอย่างไรเช่นความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ส่วนศรัทธา ที่เป็นปัจจัยเสริมไม่ต้องการวิธีการดำเนินการแต่อย่างใด ขอเพียงได้ศรัทธาก็พอแล้ว ส่วนเรื่องอื่นๆต้องจัดการหรือแสวงหาเอาเองเช่นความศรัทธาในทางไสยศาสตร์และโหราศาสตร์ที่คอยเติมความเชื่อมั่นโดยไม่สนใจว่า สิ่งที่เชื่อนั้นจะช่วยเสริมมากน้อยแค่ไหนเช่นเวลาเดินทางไกลขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองด้วย เมื่อเดินทางไปถึงแล้วก็ไม่สนใจมากนักว่า การเดินทางถึงจุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพนั้นเป็นเพราะพลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือสติปัญญาของคนขับรถ แต่ถ้าหากมีวิกฤตกาลขึ้นขณะเดินทาง เช่นคนที่เดินทางไปด้วยกันบาดเจ็บล้มตายเพราะอุบัติเหตุรถชนกัน เหลือเพียงคนนั้นผู้เดียวที่รอดปลอดภัยมาได้ก็จะหันไปโยนความผิดให้คนขับรถและจะยกย่องความดีทั้งหมดให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนนับถือ จะเห็นได้ว่า เวลาจะโฆษณาขายสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเครื่องรางของขลังใดๆจะต้องบรรยายสรรพคุณของสิ่งนั้นในทางที่ลึกลับมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติทั้งสิ้น
เพื่อจะให้ชาวพุทธที่ยังมีความเชื่อสะเปะสะปะได้หันมาเข้าใจความเชื่อในศาสนาของตนเองอย่างถูกต้องจึงขอนำเสนอเรื่องศรัทธาสี่ประการดังต่อไปนี้ โดยเขียน ศรัทธา เป็นภาษาบาลีในรูป สัทธา แล้วเมื่อแปลเป็นไทย จะเขียนในรูป ศรัทธา
ตถาคตโพธิสัทธา แปลว่า เชื่อมั่นในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ความเชื่อนี้จะนำไปสู่การศึกษาและการปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าในเรื่องต่างๆที่พระพุทธเจ้าสอนเกี่ยวการดำเนินชีวิตและการฝึกฝนจิตใจเพื่อให้สุขภาพกายและสุขภาพจิตดีอย่างครบถ้วน
กัมมสัทธา แปลว่า เชื่อการกระทำ ซึ่งตรงกันข้ามกับเชื่อการอ้อนวอน ปรารถนาจะทำงานหรือศึกษาเล่าเรียนสิ่งใด ทำความเข้าใจสิ่งนั้นๆให้ถ่องแท้ครบถ้วนทั้งกระบวนการแล้วลงมือทำด้วยตัวเองไม่ต้องอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆมาฉุดกระชากความสำเร็จมามอบให้ เช่นต้องการเดินทางด้วยความปลอดภัย ต้องใช้สติและปัญญาควบคู่กัน สติ ทำหน้าที่ระวังอุบัติเหตุ อุบัติภัย ปัญญาจะช่วยบอกทางและวิธีขับรถที่ถูกต้องปลอดภัย เพื่อการบรรลุถึงเป้าหมายอย่างปลอดภัย
วิปากสัทธา คือ เชื่อว่า ผลจากการกระทำทุกอย่างจะเกิดขึ้นอย่างเหมาะสมกับเหตุที่ทำลงไปทุกอย่างไม่มีผิดเพี้ยนลักลั่นดังที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ว่า หว่านพืชเช่นใดได้ผลเช่นนั้น คือปลูกพืชชนิดใดลงไป เวลาเจริญเติบโตก็จะได้รับผลของต้นไม้นั้นเช่นปลูกมะพร้าวก็จะได้ผลมะพร้าวออกมา ปลูกทุเรียนก็จะได้รับผลทุเรียนออกมา ปลูกมังคุดก็จะได้มังคุดออกมา ทั้งนี้ผลไม้ทุกอย่างกว่าจะให้ผลต้องใช้เวลาแตกต่างกันออกไป เหมือนกับทำสิ่งใดลงไปย่อมได้รับผลของสิ่งนั้นจะช้าจะเร็วก็ขึ้นอยู่กับชนิดของการกระทำนั้นๆ
กัมมสกตาสัทธา เชื่อว่า ใครทำอะไรไว้คนนั้นก็จะได้รับผลการกระทำของตนๆ เช่นบางคนขยันทำงาน ขยันเก็บทรัพย์อย่างถูกทาง คบคนดีเป็นเพื่อน ดำรงชีวิตพอดีๆไม่ฟุ่มเฟือยหรือฝืดเคืองเกินไป ก็จะมีทรัพย์สิน พอมี พอกิน พออยู่ พอใช้พอใจ อยู่เย็น เป็นสุข เย็นเอกเย็นใจ
เมื่อทราบว่า พุทธศาสนาวางหลักศรัทธาไว้อย่างนี้ เวลามีเหตุการณ์หรือสถานการณ์แปลกๆที่ท้าทายให้ตัดสินใจว่าจะศรัทธาในเรื่องนั้นๆหรือไม่ ก็นำเอาหลักการนี้วงลงเป็นกรอบแล้วพิจารณาเลือกสรรแล้วตัดสินใจให้สอดคล้องกับหลักการเหล่านี้ก็จะไม่เสียหลักของความเป็นชาวพุทธที่คงความศรัทธาในพระตถาคตไว้อย่างไม่หวันไหว พระพุทธเจ้าเรียกผู้ศรัทธาเช่นนี้ว่า ไม่ยากจน ใช้ชีวิตอย่างมีสาระ มีคุณค่าแก่การเกิดมาครั้งหนึ่งทีเดียว
© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple