ราชธรรม
วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม 2552 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุ 82 พรรษา รัฐบาลได้เชิญชวนประชาชนชาวไทยที่มีความจงรักภักดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมกันเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษาด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆที่เป็นกุศลอันส่งเสริมให้ประชาชนได้มีความสุขก่อนที่จะส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ทั่วประเทศหรืออาจจะทั่วโลก ทุกถิ่นดินแดนที่ประชาชนชาวไทยตั้งหลักปักฐานทำมาหากินอยู่
วันเฉลิมพระชนมพรรษาปีนี้ เป็นวันที่นำความสุขสงบเย็นมาสู่ปวงชนชาวไทย พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวช่วยปกป้องคุ้มครองมิให้ประเทศชาติและปราชาชนต้องเดือดร้อนวุ่นวายระส่ำระสายภายในเดือนธันวาคมนี้อย่างน้อยในช่วงที่มีการเฉลิมฉลองสิบห้าวัน
ที่กล่าวว่า ประเทศชาติ และประชาชนได้รับความสงบร่มเย็นเพราะพระบารมีก็เพราะมีข้อพิสูจน์ชัดเจนว่า ก่อนหน้านั้นชาวเสื้อแดงได้นัดชุมนุมขับไล่รัฐบาลในวันที่ 28 พศจิกายน 2552 – วันที่ 2 ธันวาคม 2552 นั้นก็หมายความว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวประชาชนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครบริเวณถนนราชดำเนิน พระบรมรูปทรงม้า หรือ ทำเนียบรัฐบาลต้องพบกับความยากลำบากในการเดินทางสัญจรไปมาเพราะต้องหลบขบวนไปทางอื่น
ทหารตำรวจต้องละทิ้งหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองจากจุดอื่นๆทั้งหมดมาคอยรักษาความปลอดภัยในจุดที่กำลังชุมนุมกันอยู่ เพื่อมิให้มีการกระทบกระทั่งเบียดเบียนใช้ความรุนแรง หรือ หากผู้ชุมนุมขาดความอดทน หรือ ขาดความยั้งคิดขึ้นมาอาจจะต้องมีการป้องกันปราบปรามกันอีก ไม่ว่าจะโดยวิธีใดล้วนเสี่ยงต่อการบาดเจ็บล้มตายด้วยกันทั้งนั้น
ต่อมาแกนนำของชาวเสื้อแดงได้ประชุมกันพิจารณาถึงผลดี ผลเสีย ของการชุมนุมในเวลาดังกล่าวอย่างรอบด้านจึงได้ประกาศงดการชุมนุมชั่วคราว เมื่อวันเฉลิมพระชนมพรรษาผ่านพ้นไปแล้ว จึงจะกลับมาชุมนุมกันใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทางรัฐบาลและประชาชนได้จัดงานเฉลิมฉลองกันด้วยความผ่อนคลายสบายใจ ไม่ต้องหวั่นวิตกว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่พึงปรารถนาขึ้น
ทางพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นหุ้นส่วนสำคัญของชาวเสื้อแดง ก็ออกมาแถลงชัดถ้อยชัดคำย้ำอีกว่า เพื่อให้เดือนธันวาคม เป็นเดือนแห่งความสุขทั้งเดือน คณะกรรมการพรรคเพื่อไทยมีมติให้หยุดพักรบกับรัฐบาลไปจนสิ้นปี
คำประการศทั้งของชาวเสื้อแดงยุติการชุมนุม และคำประกาศยุติรบของพรรคเพื่อไทยที่ปรารภวันเฉลิมพระชนมพรรษา ต่างแสดงออกถึงความจงรักภักดีและต้องการให้พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้แผ่บริบาลให้ปวงชนชาวไทยได้เป็นสุขทุกทั่วหน้า ดังคำที่ว่า เย็นศิระ เพราะพระบริบาล นั่นเอง
ส่วนชาวเสื้อเหลืองซึ่งเคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับชาวเสื้อแดง ก็นัดกันมาร่วมงานเฉลิมฉลองงานวันเฉลิมพระชนมพรรษาโดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ความรู้สึกของปวงชนชาวไทยที่เคยอาฆาตแค้นกันได้เย็นลงชั่วคราวในวาระวันเฉลิมพระชนมพรรษานี้ เป็นนิมิตหมายที่ดีแก่ประเทศชาติและประชาชนยิ่งนัก เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า พสกนิกรทุกหมู่เหล่ายังมีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างไม่เสื่อมคลาย
ความจงรักภักดีต่อองค์พระประมุขจะต้องเผื่อแผ่เจือจานแก่พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ใครจะผูกขาดไว้เฉพาะตนหรือเฉพาะกลุ่มมิได้
เมื่อปวงชนทุกหมู่เหล่า รำลึกถึงพระบารมีแล้วเริ่มสงบจิตใจลงแล้ว ควรจะถือโอกาสนี้มานั่งทบทวนความคิดเคียดแค้นชิงชังที่เคยแสดงออกต่อกันมาว่าเป็นสิ่งที่นำมาแต่ความเร่าร้อนแก่ประเทศชาติและประชาชน ไม่มีประโยชน์อันใดเลย ในทางตรงข้ามเมื่อคิดถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว เลิกทะเลาะ เลิกรบกัน ทุกคน ทุกฝ่ายทำได้เลย ความสงบเย็นของบ้านเมืองก็เกิดขึ้นให้เห็น เยือกเย็นให้สัมผัสกันได้ทันทีอย่างนี้แล้ว ทุกฝ่ายทุกสีน่าจะมาช่วยกันขยายความรัก ความสามัคคีกันสันติสุขต่อไปโดยอาจจะประกาศกันใหม่ว่า จะยุติการสู้รบกันอีกเพื่อเฉลิมฉลองปีใหม่ จึงไม่มีการเดินขบวนในเดือนมกราคมอีกหนึ่งเดือน
เดือนมกราคมก็จะกลายเป็นเดือนแห่งความสุขอีกหนึ่งเดือน
เมื่อได้ลิ้มรสแห่งสังคมที่สงบเย็นสองเดือนแล้ว พิสูจน์ได้แล้วว่า พอบ้านเมืองสงบนักท่องเที่ยวก็จะมาเที่ยวบ้านเรา เศรษฐกิจก็ดีขึ้นเพราะแต่ละคนไม่ต้องเสียเวลาไปเดินขบวนแต่ตั้งใจทำมาหากินเกี่ยวข้าว ทำสวนปลูกผัก ส่งเสริมเศรษฐกิจในครัวเรือนในสังคมและประเทศชาติ
ทหารตำรวจก็จะได้กระจายไปรักษาความปลอดภัยในที่อื่นๆอย่างทั่วถึง ความสงบก็แผ่กว้างออกไปอีก เป็นความสงบที่ประชาชนทุกหมู่เหล่าช่วยกันสร้างขึ้นมาด้วยจิตสำนึกแห่งความรักสงบหรือจิตสำนึกแห่งความจงรักภักดี ก็สุดที่จะนำมาเป็นอารมณ์ แต่ความสงบเป็นสิ่งที่ทุกคนได้รับกันจริงๆ
หากเดือนมกราคมผ่านไปด้วยดี ลองจัดเดือนกุมภาพันธ์ให้เป็นเดือนแห่งความรักดูซิ ยุติการก่อความวุ่นวายทุกรูปแบบ สร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นอีกวาระหนึ่ง ประชาสัมพันธ์ให้คนในชาติร่วมกันจัดวันแห่งความรักเริ่มตั้งแต่รักพ่อ รักแม่ รักคนรัก รักเพื่อนมนุษย์ รักสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตาย รักแขกบ้านแขกเมืองที่จะมาเยือน
เมื่อบ้านเมืองสงบ ข่าวความสงบขยายออกไป นักท่องเที่ยวทั้งหลายทราบข่าวเหล่านี้ ต่างต้องการสัมผัสเมืองไทยที่แสนสงบและอุดมสมบูรณ์ เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยว ชาวบ้านร้านตลาดหรือนักธุรกิจใหญ่ๆก็ทำธุรกิจสอดคล้องแบ่งปันกระจายเงินทองกันออกไปอย่างกว้างขวางจากโรงแรมใหญ่ไปยังท้องไร่ท้องนา ข้าวน้ำ ผลไม้นานาชนิดที่ติดอยู่กับต้นก็จะกลายเป็นเงินเป็นทองไปในไม่ช้า เพราะมีผู้ซื้อเดินเข้ามาอุดหนุนมากมาย
การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของชาติ ไม่ควรตั้งความหวังไว้กับอัศวินคนใดคนหนึ่งที่จะเดินมาเนรมิตความร่ำรวยให้ภายในชั่วข้ามคืน แต่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจต้องร่วมมือกันทุกคนและเกียวข้องไปหลายๆเรื่อง เมื่อความสงบเกิดขึ้นก่อนเรื่องอื่นก็จะสามารถจัดการต่อไปได้ไม่ยากนัก
สิ่งที่สำคัญที่สุดถ้าพสกนิกรทั้งปวงน้อมนำเอาทศพิธราชธรรมที่องค์พระมหากษัตริย์ไทยต้องปฏิบัติเพื่อความเป็นพระมหากษัตริย์ที่แท้ตามคติทางพระพุทธศาสนามาปฏิบัติกันอย่างกว้างขวาง จะเป็นการสร้างความสุขสงบให้สังคมโดยตรงเพราะราชธรรมประกอบไปด้วยคุณธรรมต่างๆเพื่อการฟื้นฟูความสงบในชาติอย่างครบถ้วน
ทาน แปลว่า การให้ หมายถึงการแบ่งปันทรัพยากรอย่างทั่วถึง ไม่ตระหนี่หรือ ฉ้อโกง ให้คำแนะนำความรู้เรื่องความสงบอย่างสม่ำเสมอ ให้อภัยแก่เพื่อนร่วมชาติหรือเพื่อนร่วมโลกที่เคยขัดข้องหมองใจกันบ้างทั้งที่ตั้งใจและมิได้ตั้งใจ
ศีล แปลว่า ปกติ สุข สงบ เย็น เป็นระเบียบ หมายถึง ความปกติของกายและวาจา ที่ไม่เบียดเบียนใคร การเคลื่อนไหวทุกครั้งเป็นไปอย่างสงบสุขุมรอบคอบ เคารพระเบียบในการทำและการพูด ตนเองก็เป็นระเบียบ เคารพระเบียบของสัคมที่จะสร้างสรรค์ความสงบอย่างหนักแน่น
ปริจจาคะ แปลว่า เสียสละอย่างรอบด้าน มีความลึกซึ้งมากกว่าทานธรรมดา รวมถึงการละกิเลสระดับหยาบ ระดับกลางและระดับละเอียดได้ สละความเคยชินที่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่นได้เช่น เลิกเหล้าได้ เลิกบุหรี่ได้ เลิกการพนันได้ เลิกเกียจคร้านได้ นำเงินที่เหลือจากค่าใช้จ่ายกับสิ่งชั่วร้ายเหล่านั้นมาเลี้ยงตนเอง มาเลี้ยงครอบครัวหรือจุนเจือสังคม
อาชชวะ แปลว่า ความซื่อตรง หมายถึง ซื่อตรงในการทำหน้าที่ทุกอย่าง ไม่คด ไม่โกง เพื่อประโยชน์ของตนและพวกพ้อง หากนักการเมืองผู้มีอำนาจอยู่ใกล้เงินทองเพื่อการพัฒนาประเทศได้เจริญธรรมข้อนี้กันอย่างจริงจัง ก็จะไม่มีปัญหาการทุจริตในโครงการต่างๆกันอย่างดาดดื่น เรื่องที่น่าละอายเช่นเรื่องนมบูด เรื่องปลากระป๋องบูด เรื่องข้าวสารเน่าไปแจกเด็กและประชานจะไม่เกิดขึ้น เรื่องโกงเงินในโครงการเศรษฐกิจพอเพียงจะไม่เกิดขึ้น เมื่อคนดำเนินโครงการเศรษฐกิจพอเพียงไม่พอเสียเองแล้วประชาชนจะผาสุกได้อย่างไร
มัททวะ แปลว่า ความอ่อนโยน ความอ่อนน้อมถ่อมตน ประชาชนชาวไทยคงจะประทับใจพระจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เวลาเสด็จทรงงานในโครงการต่างๆ พระองค์จะทรงโน้มพระองค์ลงหาประชาชนผู้มานั่งเฝ้าพระองค์เพื่อถามสารทุกข์สุกดิบอย่างใกล้ชิด จึงทำให้พระองค์ทรงทราบปัญหาต่างๆอย่างละเอียดทั้งแผ่นดินจนพระองค์ได้รับการเรียกขานจากอาณาประชาราษฎร์ว่า พระเจ้าแผ่นดิน
ตปะ แปลว่า ความพากเพียรเป็นเครื่องเผากิเลส การทำงานตามปกติธรรมดายังไม่ชื่อว่าความพากเพียร แบบตะบะ แต่การเฝ้าทำความเพียรค้นคว้าหาความรู้หรือปรับปรุงงานใหม่ๆอย่างหามรุ่หามค่ำอย่างไม่ย่อท้อไม่กลัวความลำบากเรียกว่า ความเพียรระดับตะบะ ดังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงงานในโครงการต่างๆหลายๆชั่วโมงติดต่อกันอย่างหามรุ่งหามค่ำ เวลาเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมประชาชนแม้ดึกดื่นเที่ยงคืนไม่เสร็จไม่เลิก ควรที่ประชาชนผู้รักความก้าวหน้าจะพึงทำงานแบบตะบะเพื่อให้งานต่างๆบรรลุผลอย่างสูงสุด
อักโกธะ แปลว่า ความไม่โกรธ หมายถึง ไม่โกรธ แม้ใครจะมากล่าวร้าย หรือแม้แต่การทำร้าย พระบาทสมเด็จะพระเจ้าอยู่หัวได้ปฏิบัติธรรมข้อนี้เป็นที่ประจักษ์ในคราวที่นักเขียนชาวออสเตรเลียเขียนหมิ่นพระองค์อย่างแรง เมื่อชายคนนั้นรับโทษตามกฎหมายแล้ว ไม่นานพระองค์ก็ทรงมีพระราชทานอภัยโทษให้ทันที นั่นหมายความว่าพระองค์ไม่ผูกโกรธแม้กับคนที่ตั้งใจและจงใจกล่าวร้ายพระองค์
อหิงสา แปลว่า ไม่เบียดเบียน หมายถึง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ทางกาย วาจา และใจ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ทรงเบียดเบียนใครทางกาย วาจา และใจ แม้พระองค์จะทรงมีพระราชอำนาจมากมาย แต่ไม่เคยใช้พระราชอำนาจนั้นเพื่อกดขี่ข่มแหงใคร มีแต่จะใช้พระราชอำนาจที่พระองค์มีอยู่สร้างสรรค์ประโยชน์แก่พสกนิกรของพระองค์อย่างกว้างขวางมากมายเข้าตำราว่า ใช้อำนาจโดยธรรม นี่คือตัวอย่างที่พสกนิกรชาวไทยไม่จำกัดสี ไม่จำกัดหมู่เหล่าต้องช่วยกันสร้างสรรค์วัฒนธรรมแห่งการไม่เบียดเบียนให้เกิดขึ้น เลิกด่า เลิกกล่าวร้าย เลิกใส่ร้ายป้ายสีแก่กันและกันเพราะการกล่าวร้ายโกหกมดเท็จเป็นความรุนแรงทางวาจาชนิดหนึ่ง ปวงชนชาวไทยแม้ปฏิบัติธรรมข้อนี้ย่างจริงจังก็จะสร้างความสงบได้
ขันติ แปลว่า ความอดทน หมายถึง ทนร้อน ทนหนาว ทนลำบาก ทนตรากตรำและทนเจ็บใจ ในบรรดาความอดทนทั้งหลาย ความอดทนเจ็บใจหากใครปฏิบัติได้จะได้รับยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่า เป็นยอดแห่งความอดทน การปกครองในระบอบประชาธิปไตยหรือวิถีแห่งประชาธิปไตย ความอดทนคือ แกนนำของธรรมะทั้งปวง เพราะหากอดทนได้ ก็จะรักษาอหิงสาธรรมได้ เพราะหัวใจของประชาธิปไตยอยู่ที่การจัดการสังคมให้เรียบร้อยได้โดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อหรือไม่ต้องมีการเบียดเบียน
อวิโรธนะ แปลตรงตัวว่า ไม่คลาดเคลื่อน หมายถึงไม่คลาดเคลื่อนจากธรรม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปกครองประเทศโดยธรรมทรงใช้อำนาจผ่าน ฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการอย่างไม่ผิดเพี้ยน ผู้นำทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นผู้นำประเทศ ผู้นำฝ่ายค้าน พ่อบ้านแม่เรือน ผู้บริหารในภาครัฐและเอกชนที่มีผู้ตามจำนวนหนึ่งมากบ้าง น้อยบ้าง คอยติดตามดูพฤติกรรมแล้วนำมาเป็นแบบอย่างพึงเดินให้ถูกทาง ไม่กระทำผิดกฎหมาย วัฒนธรรมหรือประเพณีอันดีงาม
เมื่อบ้านเมืองอยู่ในสภาพโกลาหลวุ่นวายไร้ความสงบ ปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าต้องลุกขึ้นประสานมือ ประสานงาน ประสานใจไว้ให้มั่น น้อมนำเอาทศพิธราชธรรมมาปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังก่อเป็นกระแสธรรมที่กว้างใหญ่ไพศาลดับไฟทุกข์ไฟระทมให้ดับเย็นด้วยพระธรรมเถิด
© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple