วัดพุทธปัญญา

เยือนเพื่อนทุกข์ตอนที่ 10 เสียงสะท้อน

เมื่อไปสอนผู้ต้องขัง หลายอาทิตย์ผ่านไป ผู้ต้องขังหลายคนต้องจากไปเพราะพ้นโทษบ้างหรือ ต้องย้ายไปอยู่ที่เรือนจำอื่น แต่ผู้ต้องขังที่ยังอยู่และมาฟังธรรมอย่างต่อเนื่อง เริ่มมีความใกล้ชิดสนิทสนมมากขึ้น เมื่อมีผู้ต้องขังใหม่ๆเข้ามาก็มักจะไปบอกเล่าประชาสัมพันธ์ให้มาฟังธรรมกันมิได้ขาด

นักโทษชายสูงอายุท่านหนึ่ง ท่าทางสงบไม่ค่อยจะมีความทุกข์หรือเดือดร้อนใจอย่างคนอื่นๆ เวลามาฟังธรรมยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา เมื่อฟังธรรมเสร็จแล้วจะมากราบบนตักเสมือนชาวพุทธไทยที่มีความสนิทสนมกัน วันหนึ่งหลังจากฟังธรรมเสร็จแล้ว ได้เข้ามากราบเหมือนเดิมแล้วกระซิบเบาๆว่า ขอบใจมากๆ ชั่วโมงนี้ เป็นชั่วโมงที่มีความสุขที่สุดในรอบสัปดาห์

คราวหนึ่งคุณภาณุพล รักแต่งาม บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยทาวน์ ยู เอส เอได้ไปเยี่ยมและร่วมกิจกรรมกับชุมชนคนรักธรรมที่กริฟฟิตพาร์ค ทราบเรื่องการไปแสดงธรรมในเรือนจำได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษ เมื่อฟังธรรมเสร็จแล้ว ได้ขอสัมภาษณ์เป็นพิเศษเรื่อง การแสดงธรรมในเรือนจำว่า เกิดขึ้นได้อย่างไร และได้รับการตอบรับจากผู้ต้องขังอย่างไร การเดินทางไปกลับเป็นอย่างไร

เมื่อคุณภาณุพล สัมภาษณ์เสร็จอาทิตย์ต่อมาได้นำไปพาดหัวตัวรองในหน้าหนึ่งว่า พระไทยเข้าคุกของเคาน์ตี้ ด้วยตัวสีแดงเด่นชัด พร้อมภาพประกอบถือไมโครโฟนอยู่แล้วก็ไปอ่านรายละเอียดต่อหน้าสิบสี่

คนที่ได้พบข้อความนี้มีสองกลุ่ม คนที่ดูแบบผ่านตาจริงๆไม่ได้อ่านรายละเอียดก็มีไม่น้อย ได้อ่านแล้วก็ตกใจว่า เอ พระท่านเข้าคุกด้วยคดีอะไร ส่วนคนที่เป็นนักอ่านเมื่ออ่านพาดหัวแล้วก็ตามไปอ่านรายละเอียดในหน้าสิบสี่ ก็ได้รับทราบบทสัมภาณ์อย่างครบถ้วน

หลังจากได้ให้สัมภาณ์หนังสือพิมพ์ไปล้ว ก็มีปฎิกิริยามาจากทั่วทิศทีเดียว ที่เห็นได้ชัดคือ หลังจากหนังสือพิม์ไทยทาวน์ยู .เอส.เอ ได้ตีพิมพ์บทสัมภาณ์ไปแล้ว วันอาทิตย์ต่อมาญาติโยมมาวัดพุทธปัญญากันเต็มวัดเพื่อรับทราบข้อมูลกันชัดๆว่า เจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญาไปทำอะไรในคุก หรือ เข้าคุกด้วยเรื่องอะไร

วันอาทิตย์นั้นจึงต้องแสดงธรรมเรื่องประสบการณ์การแสดงธรรมในเรือนจำให้ฟังกันอย่างจุใจ ทุกคนฟังแล้วโล่งใจอนุโมทนากองการกุศลครั้งนี้อย่างทั่วหน้า กลับบ้านด้วยความชื่นใจ

เนื่องจากบทสัมภาษณ์ดังกล่าวได้ถูกนำไปตีพิมพ์ในเว็บไซด์ของหนังสือพิมพ์ไทยทาวน์ยู.เอส.เอ ด้วย จึงมีคนอ่านกันอย่างกว้างขวาง ไม่นานนักก็มีเสียงทักทายมาจากแดนไกล เช่น คุณธีระ ชีวะเกรียงไกร จากจังหวัดมหาสารคาม ได้โทรศัพท์มาพูดคุยว่า แหม อ่านพาดหัวข่าวแล้วตกใจหมดเลย คิดว่าเป็นอะไรไปเสียแล้ว

เมื่อคราวเดินทางไปแสดงธรรมที่วัดอตัมมยตารัฐวอชิงตัน คุณกรรณิการ์ สวนไพรินทร์ อุบาสิกาประจำวัดอตัมมยตา ได้มาพบแล้วบอกว่า ดีใจด้วยที่ได้ไปสร้างมหากุศลให้คนที่กำลังทุกข์อยู่ได้ผ่อนคลาย เป็นกิจกรรมที่ดีจริงๆ แล้วยังถามรายละเอียดต่างๆอย่างสนใจอีกเกือบสองชั่วโมง อุบาสก และ อุบาสิกา อีกหลายท่านเดินทางมาจากแคนาดาบอกว่า นอกจากจะมาร่วมงานกฐินของวัดแล้ว ตั้งใจจะมาถามข่าวเรื่องนี้ด้วย

วันนั้นก่อนที่จะแสดงธรรมในงานสมโภชกฐินก็ต้องแสดงปาฐกถาเรื่องการไปแสดงธรรมแก่ผู้ต้องขังให้ผู้สนใจฟังกันอย่างจุใจ ทุกคนฟังแล้วอนุโมทนาและอยากจะให้ไปแสดงธรรมที่เรือนจำซีแอตเติ้ลบ้าง ก็บอกพวกเขาว่า คงเดินทางไปกลับลำบากเพราะไม่สามารถเดินทางด้วยรถบัสอย่างที่เดินทางไปแสดงธรรมที่เรือนจำกลางแอเอได้ อีกประการหนึ่ง ท่านเจ้าอาวาสวัดอตัมมยตา พระครูสิทธิธรรมวิเทศก์ ก็เป็นนักเผยแผ่ที่ไร้เทียมทานในดินแดนแถบนั้นอยู่แล้ว หากทางเรือนจำต้องการย่อมไม่ปล่อยโอกาสให้ผ่านไปอย่างแน่นอน

เมื่อไม่กี่วันมานี้ หลังจากทำวัตรเย็นเสร็จแล้ว มีอุบาสิกาท่านหนึ่งโทรศัพท์มาพูดคุยด้วย จึงทราบว่า บ้านเกิดอยู่จังหวัดชุมพร มาทำร้านอาหารที่ชิคาโก้เกือบสิบปีแล้ว ภายหลังแนะนำให้รู้จักชื่อว่า จุ๊บแจง เล่าว่า ก่อนที่จะมาอเมริกา คุณแม่ที่บ้านได้สั่งว่า ให้ลองสืบหาท่านมหาจรรยาดูว่า อยู่ที่ไหนได้ทราบว่า มาเผยแผ่ธรรมอยู่ที่อเมริกานี้เหมือนกัน

อเมริกากว้างใหญ่ คุณจุ๊บแจงก็งงเป็นไก่ตาแตก ไม่เคยได้ยินชื่อพระภิกษุรูปนี้เพราะไม่เคยรู้จักมาก่อน อยู่มาวันหนึ่งได้พบหนังสือพิมพ์ไทยทาวน์ ยู.เอส.เอ ลงบทสัมภาษณ์ เรื่องพระไทยเข้าคุกเห็นว่าเป็นเรื่องแปลกก็อ่านจนจบและอนุโมทนาด้วย อ่านไปๆรู้สึกว่า จะเป็นพระรูปนี้หรือไม่ที่แม่บอกว่าให้สืบหา จึงหาเบอร์โทรศัพท์จนพบแล้วก็โทรศัพท์มาคุยด้วยนี่แหละ และยังบอกอีกว่า เมื่อคุยแล้วก็ต้องโทรศัพท์ไปรายงานข่าวดีนี้ให้แม่ฟังว่า พระที่แม่อยากให้ตามหา ลูกตามหาจนพบแล้ว แม่คงจะดีใจมาก

เมื่ออาทิตย์ก่อนญาติโยมกลุ่มหนึ่งโทรศัพท์มาจากแอลเอว่า วันนี้อย่าเพิ่งปิดประตูวัดนะ เดี๋ยวจะไปสนทนาธรรมด้วย เมื่อถามว่า ทำไมมาดึกๆดื่นๆอย่างนี้ เสียงโทรศัพท์ก็ตอบว่า มาจากซานตาโรซ่า จะต้องเดินทางกลับพรุ่งนี้เช้า ต้องรีบมาพบ จึงบอกว่า ยินดีต้อนรับสหายธรรมจากแดนไกล

เวลาประมาณสามทุ่ม มีอุบาสิกาสามคน อุบาสกหนึ่งคน เดินทางมาถึง อุบาสิกาคนหนึ่งรู้จักคุ้นเคยกันมานานคือ คุณพิมพ์ใจ เจ้าของร้านอาหารจานทอง ซานตาโรซซ่า อีกสองคน ได้รับการแนะนำชื่อว่า คุณเพลิน ผู้สนับสนุนกองทุนพิมพ์หนังสือธรรมะที่วัดอภัยคีรีและอีกคนหนึ่ง คือ คุณคำหล้า อุบาสิกาชาวลาว ส่วนอุบาสกหนึ่งเดียวที่ขับรถชื่อว่า คุณตุ๊ น้องชายคุณพิมพ์ใจนั่นเอง

คุณพิมพ์ใจเล่าว่า คุณคำหล้า อุบาสิกาชาวลาว ได้ทราบข่าวเรื่องพระเข้าคุกแล้วติดตามผลงานการแสดงธรรมมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นซีดีเรื่องอะไรของพระอาจารย์มหาจรรยา ที่เธอพอจะหาได้ เธอจะฟังแล้ว ฟังอีก แล้วจึงนำไปแจกเพื่อนบ้านให้ฟังกันอย่างกว้างขวาง

คุณคำหล้าเองเมื่อได้มาพบวัดที่มีสภาพเรียบง่ายอย่างนี้ ก็ดีอกดีใจเป็นการใหญ่ คุ้มค่ากับการเดินทางรอนแรมมาไกล จึงสนทนาธรรมกันแบบตักตวงเต็มที่จนเกือบจะหกทุ่มจึงลาเดินทางกลับไป

หลังจากเข้าไปสอนธรรมะแก่ผู้ต้องขังนานเข้า ผู้ต้องขังหลายคนนอกจากจะชอบทำสมาธิแล้ว ยังเรียกร้องให้มีการสวดมนต์ด้วย จึงเดินทางไปวัดอภัยคีรีที่ตั้งอยู่เหนือเมืองซานตาโรซ่าขึ้นไปด้วยการถวายความสะดวกของคุณพิมพ์ใจ และ คุณพเยาว์ทั้งในด้านการเดินทางและภัตตาหาร

เมื่อเดินทางไปถึงวัดอภัยคีรี อันเป็นวัดที่รักษาแนวทางการปฏิบัติธรรมแบบอาจารย์ชา สุภัทโท ได้เล่าจุดประสงค์การไปวัดอภัยคีรีว่า จุดประสงค์หลักคือ ขอหนังสือสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น ภาคภาษาอังกฤษ พร้อมด้วยซีดีเสียงสวดมนต์

ท่านอาจารย์ ปสันโน ภิกขุ เจ้าอาวาสวัดอภัยคีรี ได้ฟังก็ยินดียิ่งนักหลังจากฉันภัตตาหารเพลด้วยกันแล้ว จึงสนทนาถามไถ่การทำงานเผยแผ่ธรรมกันเป็นการใหญ่ โดยเฉพาะเรื่องการแสดงธรรมที่เรือนจำ เพราะท่านเองเคยได้รับนิมนต์ไปแสดงธรรมแก่นักโทษประหารคนหนึ่งแล้วนำมาเล่าได้พิมพ์เป็นหนังสือทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเผยแพร่กันอย่างกว้างขวาง

เมื่อได้เวลาใกล้จะลากลับนอกจากจะจัดหนังสือและซีดีสวดมนต์ภาคภาษาอังกฤษให้มาตามความต้องการแล้ว ยังเลือกหนังสือธรรมะภาคภาษาอังกฤษที่พิมพ์ออกมาใหม่ล่าสุดเพื่อมอบให้แก่ห้องสมุดของวัดและห้องสมุดเรือนจำอีกจำนวนสองลังใหญ่ๆ นับว่า ท่านอาจารย์ปสันโน ได้สนับสนุนข้อมูลด้านธรรมะในการทำงานครั้งนี้อย่างสำคัญยิ่ง

ข้อมูลธรรมะภาคภาษาอังกฤษสำคัญมากเพราะจะได้นำมาค้นคว้าฝึกฝนเพื่อใช้ในการนำสวดมนต์และการสอนธรรมะและสมาธิไปได้อีกนาน จึงขอบคุณท่านอาจารย์ปสันโน อย่างมากจริงๆ

ขอขอบคุณทุกปฏิกิริยาและเสียงสะท้อนที่มาจากทั่วทิศ ทุกเสียงล้วนมาจากกัลยาณมิตร ที่มีความคิดอนุโมทนาส่งเสริม หากบุญกุศลใดๆจักบังเกิดขึ้นจากงานเผยแผ่ธรรมแก่ผู้ต้องขังครั้งนี้ ขอแบ่งกุศลแก่ผู้ที่ให้ความสนใจติดตาม ส่งเสริมสนับสนุนกันถ้วนหน้าเถิด

© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple