เยือนเพื่อนทุกข์ตอนที่ 8 กลิ่นธูป ควันเทียน
เวลที่ผู้ต้องขังมาฟังธรรม ทางเจ้าหน้าได้จัด พระพุทธรูป ดอกไม้ ธูปเทียน เอาไว้หน้าพระตามหลักศาสนพิธีโดยทั่วไป ครั้งแรกที่เข้าไปบอกไว้ว่า จุดเทียนหน้าพระพุทธรูปก็พอ ไม่ต้องจุดธูป เพราะห้องอับไม่มีอากาศถ่ายเท ควันธูปอันเป็นคาร์บอนไดออกไซด์จะเข้าจมูกผู้ที่อยู่ในบริเวณนั้นอย่างเต็มที่ รบกวนสมาธิการฟังธรรมหรืออาจจะทำให้คนที่เป็นภูมิแพ้อยู่แล้วไอหรือจามขึ้นมาได้
แต่มีผู้ต้องขังชาวอเมริกันคนหนึ่งเข้ามาขออนุญาตว่า ขอจุดธูปสักดอกก็ยังดี เพราะเวลาพวกเราอยู่รวมกันมากๆกลิ่นคนเหม็นคลุ้งแรงเหลือเกิน เวลามาปฏิบัติธรรมต้องการจะได้รับกลิ่นธูปควันเทียนที่ให้ความรู้สึกสงบและศักดิ์สิทธิ์
เมื่อฟังคำขออนุญาตของผู้ต้องขังคนนั้นแล้วนำมาพิจารณาหลายๆครั้งก็เป็นเหตุผลทางจิตใจที่เชื่อมโยงกับพิธีกรรมที่มนุษย์แทบจะไม่จำกัดศาสนาได้กระทำกันคือ การจุดธูปเทียนในพิธีกรรมต่างๆแล้วให้ความรู้สึกขรึมขลังสงบในขณะนี่ทำพิธีกรรมนั้น ทำให้ผู้เข้าร่วมพิธีกรรมรู้สึกว่า พิธีกรรมนั้นชวนให้สงบลึกซึ้งทีเดียว
วันหลังไปแสดงธรรมอีกจึงได้อนุญาตให้จุดธูปได้เพียงสามดอก และจุดเทียนไว้ตามปกติ ผู้ต้องหาชาวอเมริกันคนนั้นขอบอกขอบใจเป็นการใหญ่ ได้ตั้งคำถามใหม่อีกว่า ทำไมไม่จุดธูปให้มากๆ จุดเพียงสามดอกเท่านั้น
คำถามนี้เป็นคำถามที่ดีควรจะตอบให้ทราบอย่างครบถ้วนจึงได้ตอบว่า คำถามของคุณวันนี้ เป็นคำถามที่ดีมีประโยชน์มาก จะได้ตอบให้ทราบพร้อมๆกันไป
เวลาคุณไปร่วมพิธีกรรมในทางพระพุทธศาสนาเช่นงานศพ งานบวชนาค งานขึ้นบ้านใหม่ คุณจะเห็นว่าจะมีการจัดโต๊ะหมู่ หน้าพระพุทธรูป หรือพระพุทธรูปได้ถูกวางบนโต๊ะชุดนั้นด้วย ถัดมาจากนั้นก็มี ดอกไม้ส่วนหนึ่ง ธูปและเทียนตามลำดับ
ท่านผู้รู้ในทางพระพุทธศาสนาได้ให้ความหมายไว้น่าสนใจว่า ทั้งพระพุทธรูป ดอกไม้ ธูปเทียน ล้วนมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับพระรัตนตรัย อันเป็นหลักใจของพุทธบริษัทที่เรียกว่า พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ และสามารถเชื่อมโยงการบูชาให้เข้ามาสัมพันธ์กับชีวิตได้อย่างมีคุณค่า
สังเกตพระพุทธรูปไหม ตั้งแต่พระเศียร หรือ ศรีษะลงมาจะมีความหมายหลายอย่างเช่น พระเศียรแหลม มีความหมายว่า พระปัญญาคุณ เวลาเรานั่งต่อหน้าพระพุทธรูปแล้วมองดีๆทำจิตให้สงบเป็นสมาธิแล้ว เราจะได้รับความอบอุ่นใจเสมือนเรานั่งฟังธรรมต่อหน้าพระองค์แล้วพระองค์กำลังสั่งสอนพวกเราว่า ลูกหญิงชายทั้งหลายเอ๋ย เวลาเจ้ามีปัญหาจงใช้ปัญญาแก้ปัญหานะ อย่าใช้วิธีการอื่น เพราะวิธีการอื่นอาจจะแก้ได้ แต่ปัญหาใหม่ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กกว่าเดิมอาจจะเข้ามาแทนที่อีก ไม่มีวันหมดวันสิ้น เช่นเวลาเราโกรธผู้อื่น ถ้าเราด่าคนอื่นตอบ ทำร้าย หรือฆ่าเขาอย่างไร้สติ ไม่ใช้ปัญญาไตร่ตรอง เมื่อกระทำลงไปแล้ว ปัญหาที่ตามมาใหญ่และยากกว่าที่จะแก้ให้ผ่านพ้นไปง่ายๆ แต่ละเรื่องที่กระทำลงไปด้วยอารมรณ์ความรู้สึกที่กิเลสนำไป กว่าจะจบลงได้ต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆอย่างต่อเนื่องยาวนานไม่น้อย แต่เมื่อใช้ปัญญาแก้ปัญหาไตร่ตรองให้ถ้วนถี่แล้วลงมือกระทำ เมื่อแก้ปัญหาจบลงแล้วปัญหาก็หมดไปจริงๆ
พระเนตรหรือ ตาของพระพุทธรูปที่มองต่ำ หมายถึงสัญลักษณ์ที่เตือนให้ระลึกว่า เมื่อเกิดปัญหาใดๆให้กลับมาหาตัวเอง พิจารณาตัวเอง ทำความเข้าใจตนเอง แก้ไขตัวเอง ปรับปรุงตัวเอง แล้วพัฒนาตนเองไม่ให้เกิดปัญหา
มาดูเทียนสองเล่ม บางแห่งเล่มใหญ่ บางแห่งเล่มเล็ก ก็มีความหมายว่า องค์ประกอบสำคัญของพระพุทธศาสนานั้นมีสองอย่างคือ พระธรรมและพระวินัย เทียนเล่มแรก เป็นการจุดเพื่อระลึกถึงพระธรรม เล่มที่สอง เป็นการระลึกถึงพระวินัย พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า พระธรรมเกิดก่อนสิ่งทั้งปวงในโลกและดำรงอยู่เช่นนั้นไม่มีวันเสื่อมสลาย พระองค์เป็นเพียงผู้ค้นพบแล้วนำมาบอกกล่าวเปิดเผยและแสดงให้ผู้ไม่รู้ได้รับรู้แล้วนำไปเป็นแสงสว่างนำทางชีวิต คนโบราณจึงนำเอาแสงสว่างมาเป็นสัญลักษณ์แห่งธรรมคือความสว่างไสว คนใดมีพระธรรมนำทางผู้นั้นก็ดำเนินชีวิตไปด้วยความสว่างไสวไม่มืดมน
ธูปสามดอก เป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธคุณสามประการคือ พระมหากรุณาคุณ พระวิสุทธิคุณและพระปัญญาคุณ ที่พุทธบริษัทพึงน้อมนึกรับมากระตุ้นเตือนให้ความกรุณา ความบริสุทธิ์และปัญญาที่มีอยู่ภายในกาย วาจาและใจของทุกคนได้ตื่นฟื้นขึ้นมาสว่างไสวเจิดจ้ามากขึ้นจะได้นำชีวิตไปพบกับความสุขสดใสสงบสะอาดสว่าง การดำเนินชีวิตทุกๆย่างก้าว จะมั่นคงและปลอดภัย
ส่วนแจกันดอกไม้น้อยหรือใหญ่ที่บรรจุใส่ดอกไม้หลายๆชนิดผสมผสานอย่างมีศิลป์ตามจินตนาการของผู้จัดนั้น นอกจากจะให้ความสวยงามตามที่ทราบและเข้าใจกันเป็นส่วนใหญ่แล้วยังให้ความหมายที่ลึกซึ้ง อันเกี่ยวของกับชีวิตและชุมชน โดยเปรียบเทียบกับการดำรงอยู่ของพระสงฆ์ที่อยู่เป็นหมู่เป็นคณะว่า ดอกไม้นานาชนิดมาจากต่างถิ่นต่างที่เมื่อมารวมลงในแจกันเดียวกันแล้วมีระเบียบสวยงามฉันใด เมื่อประชาชนจากต่างถิ่นต่างที่มาอยู่รวมกันในพระธรรมวินัยเดียวกันย่อมกลายเป็นชุมชนที่งดงามฉันนั้น
สังคมหรือชุมชนใดก็ตามที่ดำรงอยู่อย่างมีระเบียบวินัย สมาชิกของสังคมย่อมอยู่รอดปลอดภัย ยิ่งการปฏิบัติตามกฎหมายมาจากความรู้สึกซาบซึ้งเห็นประโยชน์ร่วมกันของกฎระเบียบนั้นๆด้วยแล้ว ยิ่งทำให้สังคมมีสันติสุขและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่สังคมโดยทั่วไปมักจะใช้ความรุนแรงเป็นเครื่องมือบังคับในการใช้กฎระเบียบเพราะสมาชิกไม่น้อยที่ต้องการนำความรุนแรงมาบังคับตัวเองแทนที่จะร่วมกันระมัดระวังจรรโลงสังคมให้สงบสุขและปลอดภัยโดยไม่ต้องใช้ความรุนแรงมาบังคับ
สังคมที่ใช้กฎระเบียบด้วยสติปัญญา มากกว่าการใช้อาวุธ และความรุนแรงในรูปแบบต่างๆมาบังคับย่อมมีสันติสุขปลอดภัยวางใจได้มากกว่าสังคมที่ต้องใช้ความรุนแรงนำหน้า
หากมองสังคมโลกทุกวันนี้ ตั้งแต่มนุษย์ความคิดสามารถสร้างนิวเคลียขึ้นมาสำหรับล้างผลาญมนุษย์และสิ่งต่างๆในโลกได้ มนุษย์ไม่เคยรู้สึกปลอดภัยเลย แต่พยายามอย่างยิ่งที่จะลดการใช้อาวุธนิวเคลีย โดยการเจรจากันหลายครั้งหลายหนที่จะให้โลกนี้ปลอดจากนิวเคลียเสียที
กรณีนี้ก็ชี้ให้เห็นว่า สังคมที่อยู่กันด้วยการใช้อาวุธไม่รู้สึกมั่นคงและปลอดภัยแต่อย่างใด แต่สังคมที่มนุษย์อยู่กันด้วยจิตสำนึกแห่งเมตตากรุณาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันจะมีความสุขเพราะมีความมั่นคง มั่นใจและวางใจในสถานการณ์ต่างๆรอบๆตัวมากกว่า
แม้ท่านทั้งหลายจะอยู่กันในที่คุมขัง แต่ถ้าท่านช่วยกันสร้างความรักความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันให้เกิดขึ้นรอบๆตัวท่านชนิดที่หันไปทางไหนก็มีแต่มิตรมีแต่เพื่อนมีแต่รอยยิ้ม ห้องขังก็จะกลายเป็นสวรรค์ไปได้เพราะทุกคนรู้สึกมีความปลอดภัยวางใจในเพื่อนมนุษย์ที่อยู่ร่วมสังคม
คุณๆทั้งหลายก็จะมีความสุข เจ้าหน้าที่ที่ต้องคอยดูแลคุณด้วยความหวาดหวั่นว่าคุณจะก่อเรื่องหรือแหกคุก ก็เปลี่ยนมาเป็นวางใจในตัวคุณ บรรยากาศแห่งความรุนแรงลดลงบรรยากาศแห่งความเป็นเพื่อนเพิ่มขึ้น ที่ต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ของตนๆให้ดีที่สุดจนกว่าจะหมดวาระของแต่ละคนไป
วันหนึ่งผู้ควบคุมทั้งหลายก็เกษียณไป พวกคุณก็ต้องจากที่นี่ไปและจากไปด้วยความรู้สึกดีๆที่มีต่อเพื่อนร่วมคุกและเพื่อนร่วมทุกข์ที่ช่วยแปรคุกให้เป็นสวรรค์แปรความทุกข์ข่มขื่นให้เป็นความสุขสรรค์สดชื่นด้วยการช่วยกันแบ่งปันน้ำใจแห่งความรักและความเมตตาแก่กันอย่างสร้างสรรค์
เมื่อสันติสุขเริ่มขึ้นที่กลางใจของแต่ละดวงแล้วแผ่ซ่านออกมาภายนอก ตอบรับและส่งต่อไปกันไปสู่ชุมชน สู่สังคม สู่ประเทศชาติ และสู่โลกที่เปลี่ยนโฉมหน้าจากความหวาดระแวงเป็นความไว้วางใจและจะประสบสุขสันติทุกถ้วนหน้า อันเป็นจุดหมายปลายทางของทุกศาสนาที่วางไว้
อ่านต่อฉบับหน้า
© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple