ไอเย็นในกองเพลิง
พุทธศาสนิกชนที่รับเอาพุทธธรรมเป็นแสงประทีปนำทางชีวิต ไม่ว่าจากมุมไหนของโลกล้วนมีบุคลิกภาพที่ไม่แตกต่างกันนัก นั่นคือ เป็นผู้เปี่ยมล้นด้วยความเมตตากรุณาและปัญญา เวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์ ย่อมตั้งสติได้ค่อยๆคิดใคร่ครวญหาทางออกให้กับชีวิต สังคม และประเทศชาติ อย่างสงบเท่าที่จะมีช่องทางทำได้
ชาวพุทธทิเบต ที่นำโดยท่านดาไลลามะ เป็นตัวอย่างของการนำพุทธธรรมมาเป็นแสงสว่างในการฝ่าวิกฤตพร้อม กันนั้นก็พยายามพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส แห่งการดำรงชีวิตอย่างสงบตามพุทธธรรมวิถี เมื่อท่านดาไลลามะนำชาวทิเบต ข้ามแดนมาพำนักในประเทศอินเดียก็เพื่อหาโอกาสเจริญธรรมในดินแดนที่สงบ เพื่อรักษาทั้งชีวิตและประเทศชาติมิให้ต้องพังพินาศเพราะฝีมือของผู้มีอำนาจแต่ขาดธรรม
ด้วยการเลือกทางที่สันติไม่นิยมความรุนแรงโต้ตอบกลับไปยังรัฐบาลจีนที่เฝ้าเบียดเบียนชาวทิเบตทุกทาง แต่มุ่งหวังจรรโลงพุทธธรรมในทุกสถานการณ์แม้จะอยู่ภาวะคับขันเพียงใดก็ตาม
ผลจากความอดทนและศรัทธาที่มั่นคงไม่หวั่นไหว ปัจจุบันนี้พระพุทธศาสนาแบบทิเบตกได้ขจรขจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว จนกล่าวได้อย่างเต็มปากว่า เวลาเดินอยู่ในประเทศอังกฤษหรืออเมริกา เมื่อถูกถามว่า นับถือศาสนาอะไร พอตอบว่า นับถือศาสนาพุทธ จะมีคำถามที่สองที่พรั่งพรูออกมาว่า มาจากทิเบตใช่ไหม หากเป็นพระสงฆ์ก็จะถูกถามถึงชื่อนักบวชว่า เป็นลามะใช่ไหม
นี่ชี้ให้เห็นถึงอิทธิพลของพระพุทธศาสนาแบบทิเบตที่แผ่กว้างฝังจิตฝังใจชาวตะวันตกอย่างลึกซึ้ง ชาวตะวันตกทั่วไปจะรู้จักพระพุทธศาสนาแบบทิเบตมากกว่า ศาสนาแบบอื่นๆในโลกทีเดียว
กิจการพระพุทธศาสนาแบบทิเบตทั้งในประเทศอังกฤษและอเมริกา ก็เจริญก้าวหน้าทั้งในด้านการศึกษาและการปฏิบัติมากกว่า พระพุทธศาสนาจากชาติอื่นๆที่เข้าไปเผยแผ่ในโลกตะวันตก ชาวตะวันตกส่วนใหญ่ที่ปฏิญาณตนเป็นพุทธศาสนิกชนมักได้พบพระพุทธศาสนาแบบทิเบตแล้วได้ศึกษาปฏิบัติจนเข้าใจลึกซึ้งถึงกับยอมเปลี่ยนประทีปเดินทางอย่างเก่ามา เป็นประทีปแห่งพุทธธรรมนำทางเลยทีเดียว
นี่คือ ไอเย็นที่พุ่งออกมาจากเปลวเพลิงแห่งการสู้รบด้วยพลังงานขับเคลื่อนแห่งไฟโลภะ โทสะ และโมหะโดยแท้
ประเทศพม่าก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนตั้งใจศึกษาและปฏิบัติพุทธธรรมอย่างจริงจังไม่หยุดยั้ง ไม่ว่าจะพบอุปสรรคฝากหนามขวางหน้าสักเพียงใด แม้ข่าวจากประเทศพม่าที่เราได้รับจากสื่อตะวันตกส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยการริดรอนสิทธิมนุษยชน การปกครองแบบเผด็จการ การกักขังหน่วงเหนี่ยวนักต่อสู้อย่างอองซาน ซูยี ที่ขยายเวลากักขังครั้งแล้วครั้งเล่ามาถึงยี่สิบกว่าปีแล้วด้วยข้อหาที่หาจุดจบไม่พบ แต่พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนก็ยังยึดถือประทีปแห่งพุทธธรรมอย่างเหนียวแน่นมุ่งหน้าจัดการศึกษาและเผยแผ่พุทธธรรมอย่างจริงจังต่อเนื่อง
ผู้นำเผด็จการพม่า สามารถประกอบกรรมชั่วได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งสังฆ่าพระภิกษุสงฆ์สามเณรที่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่สังคมและการเมืองที่ยังมืดมิดปกคลุมด้วยโมหะ แต่ผู้นำเหล่านั้นก็ไม่สามารถทำลายประทีปธรรมที่พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนช่วยกันประคับประคองให้แสงอ่อนลงไปได้เลย ในทางตรงกันข้ามกลับทำให้ชาวพุทธพม่าผนึกกำลังกันสร้างสรรค์ไขแสงแห่งพุทธธรรมให้แรงกล้าขึ้น ด้วยความเชื่อมั่นว่า อธรรม ไม่มีวันชนะ ธรรมได้ แต่สถานการณ์บางอย่างต้องรอเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลงที่ค่อยๆผ่อนคลายไปตามกฏธรรมชาติ
รัฐบาลเผด็จการของประเทศพม่าจึงไม่ได้เป็นอุปสรรคขวางกั้นการจรรโลงพระพุทธศาสนาของชาวพม่าแต่อย่างใด ท่ามกลางเปลวเพลิงแห่งการข่มแหงบีฑา ชาวพม่าก็ยังตั้งใจจัดการศึกษาและการปฏิบัติพระพุทธศาสนาให้แก่พลเมืองของต้นและเพื่อนมนุษย์ผู้แสวงหาอย่างเข้มข้นเสมอต้นเสมอปลาย
สิ่งที่น่าสนใจมากในวงการเผยแผ่พระพุทธศานสาขณะนี้คือ ประเทศพม่าสามารถ เปิดมหาวิทยาลัยธรรมทูตสอนตั้งแต่ระดับอนุปริญญาถึงระดับปริญญาเอกแล้ว ทั้งนี้ไม่นับถึงสำนักวิปัสสนาที่แผ่ขยายออกไปอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ มีพระสงฆ์ผู้ทรงพระไตรปิฎกระดับที่จำพระไตรปิฎกได้ทั้งหมดร่วมสิบรูป และที่มีความรู้ระดับอธิบายพุทธธรรมได้ถูกตรงตามพระไตรปิฎกอีกหลายหมื่นรูป
งานพระพุทธศาสนาด้านวิปัสสนาธุระ ในประเทศอเมริกาในสายเถรวาทขณะนี้ที่ทำได้ดีที่สุดเป็นสำนักวิปัสสนาของสงฆ์พม่า ชาวอเมริกาและยุโรปที่ต้องการเจริญวิปัสสนาแบบเข้มข้นเป็นเวลาสิบวันหรือหนึ่งเดือนติดต่อกัน ต้องไปปฏิบัติที่สำนักวิปัสสนาที่อำนวยการสอนโดยพระวิปัสสนาจารย์ชาวพม่า
แม้ วัดศรีลังกาหลายแห่งจะทำงานด้านนี้อยู่ด้วย แต่งานด้านวิปัสสนาแล้ว ต้องยกให้ประเทศพม่าอยู่แนวหน้าอย่างไม่มีข้อกังขา
แม้ปีที่แล้ว และ ต้นปีนี้ ประเทศพม่าจะต้องประสบกับรัฐภัย(รัฐเบียดเบียนพระสงฆ์)วาตภัย(ภัยจากพายุ) อุทกภัย(ภัยน้ำท่วม) อย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีความเข้มแข็งพอที่จะจัดงานสำคัญในการส่งเสริมพระพุทธศาสนาได้อย่างดี ดังมีข่าวเก่าๆจากสำนักข่าวซินหัวชิ้นหนึ่งตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ว่า ระหว่างวันที่ 5-8 มีนาคม 2552 ที่ผ่านมา คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนชาวพม่าได้จัดการประชุมมหาวิทยาลัยพุทธศาสนานานาชาติฝ่ายเถรวาทขึ้นที่เมือง ซิตากุ ทางภาคตะวันตกฉียงเหนือของพม่านับเป็นก้าวสำคัญของการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้นำทางศาสนาและปัญญาชนของพระพุทธศาสนาที่กระจัดกระจายกันอยู่ทั่วโลก
การประชุมในครั้งนี้มีประเทศต่างๆเข้าร่วมจำนวนมากเช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา ไทย ลาว กัมพูชา เนปาล เวียตนาม ศรีลังกา อินเดีย อินโดนีเซีย อังกฤษ ออสเตรเลีย เมกซิโก อาเจนตินา อูกานดา และจามัยกา
การประชุมครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง มีตัวแทนจากมหาวิทยาลัยต่างๆ 30 แห่ง และวิทยาลัย 11 แห่งจำนวน 290 คน มีผู้สังเกตการณ์ 7 คน มีพระภิกษุสามเณรเข้าร่วมประชุมประมาณ 300 รูป/คน
จุดประสงค์ของการประชุมครั้งนี้นอกจากจะมีการอภิปรายกันถึงเรื่อง วรรณกรรมทางพระพุทะศาสนาในแง่มุมต่างๆแล้วยังมีเป้าหมายที่จะสร้างเครือข่ายพระพุทธศาสนาและปัญญาชนทางพระพุทธศาสนาเถรวาททั่วโลกเพื่อจะได้ติดต่อประสานงานแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการศึกษาและการเผยแพร่พระพุทธศาสนาทั่วโลก
การประชุมครั้งนี้ เป็นการตอกหลัก ผูกสายป่านขยายเครือข่ายชาวพุทธที่กระจัดกระจายกันตามที่ต่างๆทั่วโลกให้ได้มารวมตัวกันเพื่อช่วยกันจรรโลงพระพุทธศาสนาเป็นการสร้างความสงบเย็นให้แก่โลกที่กำลังรุ่มร้อนด้วยไฟโลภะและโทสะให้เย็นลงได้บ้างไม่มากก็น้อย
© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple