วัดพุทธปัญญา

บทความ\เชิญร่วมงานถวายเสนาสนะเป็นสังฆทาน

การเมืองที่ขุ่นข้น

ขณะที่ประเทศไทยต้องประสบกับภัยพิบัติน้ำท่วมหลายจังหวัด ประชาชนได้รับความทุกข์ยากลำบากแสนสาหัสเพราะหน่วยราชการที่ทำหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขของประชาชนอยู่ในสภาพอ่อนเปลี้ยเพลียแรง จากผลของความขัดแย้งทางการเมืองที่มีทีท่าว่า จะไม่จบลงง่ายๆ

หลังจากเกิดเหตุสภาล่มเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2551 ประธานสภาผู้แทนราษฎรต้องเลื่อนการประชุมสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีออกไปเป็นวันพุธที่ 17 กันยายน 2551 แหล่งข่าวต่างๆรายงานไปในทิศทางเดียวกันว่า สาเหตุสำคัญของสภาล่มมาจากสมาชิกสภาผู้แทนพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลไม่ยอมเข้าร่วมประชุมสภาเพราะไม่ต้องการเลือกนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป

อีกทั้งกลุ่มอิสานพัฒนา ซึ่งเป็นมุ้งใหญ่ในพรรคพลังประชาชนมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสังกัด 70 คนประกาศออกมาอย่างชัดเจนว่า ไม่ขอสนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไปเพราะจะเป็นชนวนให้พันธมิตรขับไล่นายกรัฐมนตรีกันไม่รู้จักจบสิ้น หากทางพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลดึงดันประชุมสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี กลุ่มนี้จะลงคะแนนไม่ยอมรับนายสมัครกันเลยทีเดียว

เรื่องงูเห่าจากกลุ่มอิสานพัฒนาผ่านไปยังไม่เท่าไร กลุ่มเพื่อนเนวิน หรือกลุ่มทาสเนวิน ก็ประกาศตัวออกมาว่า หากเสนอชื่อ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี จะคัดค้านให้ถึงที่สุด กลุ่มตนต้องการเสนอชื่อ นายแพทย์ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี

ความเคลื่อนไหว ของกลุ่มทาสเนวิน สร้างความปั่นป่วนให้กับพรรคพลังประชาชนได้มากแทบว่าพรรคพลังประชาชนจะแตกเป็นเสี่ยงๆทีเดียว แกนนำพรรคทุกคนพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะสยบความเคลื่อนไวของกลุ่มทาสเนวิน ซึ่งมีสมาชิกอยู่ถึง 73 คน ซึ่งมีราคาค่าต่อรองทางการเมืองสูงมากทีเดียว เพราะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่

ใกล้วันเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีเข้าไปทุกที ทีท่าของกลุ่มทาสเนวิน ก็ค่อยๆออ่นลงจนเย็นสนิทก่อนที่จะเลือกนายกรัฐมนตรีเพียงวันเดียว เงื่อนไขที่คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ใช้สยบกลุ่มเนวินจนสงบลงชั่วคราวด้วยของลับ คือ คำสัญญาลับที่มีต่อกันว่า จะจัดสรรค์ตำแหน่งรัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง ต่อ ส.ส. 12 คน เมื่อกลุ่มทาสเนวินมีส.ส.ในคอก 73 คน จะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีถึง 6 ตำแหน่ง และความลับที่ไม่มีใครหยั่งรู้คือความลับในซองสีน้ำตาลที่นายหญิงมักจะประทานมาในคราที่การเมืองในพรรควิกฤต

เป็นอันว่า ส.ส.ของประเทศไทยในวันนี้ เป็นเพียงสัตว์เลี้ยงเชื่องๆที่หัวหน้าคอกผู้เลี้ยงดูใช้แลกตำแหน่งรัฐมนตรีให้ตัวเองเท่านั้น จึงไม่แปลกเลยว่า นายทุนจะจ่ายเงินให้ส.ส.ไปซื้อเสียงจากประชาชนที่ยอมขายเสียง เมื่อส.ส.ได้เสียงสนับสนุนจากประชาชนสนับสนุนตนให้เป็นส.ส.สมปรารถนา ตนเองก็นำเอาตำแหน่งส.ส.ไปเร่ขายแก่นัการเมืองเจ้าของทุนเพื่อนำไปแลกตำแหน่งต่อไป

เมื่อนายทุนได้ตำแหน่งทางการเมืองไปแล้ว ก็จะรีบไปหาเงินจากมหาโครงการยักษ์ใหญ่ที่มีมูลค่าเป็นแสนล้าน นักการเมืองที่มีตำแหน่งบริหารจะถือโอกาสทำมาหากินทุกโครงการที่ขวางหน้าเพื่อเก็บทุนไว้เลือกตั้งและซื้อตำแหน่งในคราวต่อไป จึงไม่แปลกใจว่า การเมืองไทยถูกผูกขาดโดยนายทุนเพียงไม่กี่ตระกูลเท่านั้น เพราะตระกูลเหล่านี้มีเงินมหาศาลพอที่จะซื้อเสียงและซื้อนักการเมืองผู้หิวโหยมาไว้ในคอกของตน หากเลี้ยงจนเชื่องดีแล้ว ก็จะเก็บไว้เป็นเครื่องต่อรองแลกเปลี่ยนตำแหน่งต่อไป

ตำแหน่งทางการเมืองไทยจึงวนเวียนอยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้ชั่วนาตาปี จนเรียกกันว่าวงจรอุบาทว์ ที่ไม่มีใครำทลายได้ แม้ความคิดเรื่องการเมืองใหม่พยายามที่จะหาช่องทางกันถึงที่สุดเพื่อทำลายวงจรอุบาทว์นี้ แต่เมื่อมองดูถึงสายสัมพันธ์ที่นักธุรกิจการเมืองผูกมัดรัดรึงไว้อย่างหนาแน่นชอนไชไปทุกหนทุกแห่ง ก็ยากแก่การจะออกไปจากวงจรอุบาทว์นี้ได้

วันพุทธที่ 17 กันยายน 2551 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เข้าประชุมสภาอย่างพร้อมเพรียงเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ผลปรากฏออกมาว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เลือกนายสมชายวงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยเสียงสนับสนุน 291 คะแนน นายอภิสิทธิ์ได้รับเลือกด้วยเสียงสนับสนุน 163 คะแนน จึงแพ้นายสมชายอย่างขาดลอย

การเลือกตั้งนายรัฐมนตรีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยรวดเร็วไม่มีการรบกวนหรือป่วนสภาแต่อย่างใด ปรากฎการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชาชนที่แสดงตนเป็นงูเห่า ออกมาแสดงทีท่าไม่สนับสนุนนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ในเบื้องต้นและสุดท้ายก็กลับมาสนับสนุนอย่างท่วมท้น เป็นการข่มขู่เพื่อต่อรองราคาค่าตัวในการลงคะแนนสนับสนุนนายกรัฐมนตรี

เมื่อนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ศรีภริยาของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวอดีตนายกรัฐมนตรีที่ชื่อว่าทักษิณ ชินวัตร จัดการให้ส.ส.กลุ่มทาสเนวินและกลุ่มอื่นๆพอใจ สยบความเคลื่อนไหวต่างๆให้นิ่งสงบดั่งที่อาซ้อพจมานเคยทำมาแล้วสมัยเรืองอำนาจด้วยการแจกซองสีน้ำตาลที่บรรจุด้วยมหามนตราขมังเวทย์

อุจจาระเป็นที่เสน่หาของหนอนและแมลงวันฉันใด เงินก็เป็นสิ่งพึงปรารถนาแก่ผู้กระหายเงินฉันนั้น เมื่อเงินขยับ ทุกอย่างที่กำลังวุ่นวายก็จะเงียบสงบ

การแสดงตัวแบบวัวเห็นแก่หญ้า ขี้ข้าเห็นแก่กินของส.ส.พรรคพลังประชาชนครั้งนี้ เป็นน้ำมันเหล่าลื่น เป็นยากระตุ้นให้ประชาชนที่เบื่อระอากับพฤติกรรมเลวทรามสุดๆของส.ส.พวกนี้ ลุกขึ้นก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ร่วมกันฝันถึงการเมืองใหม่ ที่สดใสเป็นอิสระจากการควบคุมของนายทุนเพียงกลุ่มเดียว แต่จะมีความหลากหลายจากสาขาอาชีพต่างๆมาช่วยกันสร้าง ช่วยกันแบ่งปันทรัพยากรอย่างชอบธรรม

ตราบใดที่นักการเมืองในระบบประชาธิปไตย อันเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนระบบประชาธิปไตย ยังเห็นแก่เงิน เห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกพ้อง ระบบประชาธิปไตยเป็นได้แค่โลงศพ ที่บรรจุศพคือประเทศไทย ปล่อยให้นักการเมืองเป็นหนอนชอนไชดื่มกินเนื้อกินเลือดจนหมดสิ้นไปในที่สุด รอวันที่โลง ศพ และหนอนถูกเผามอบไหม้ในกองไฟไปพร้อมกัน

 

© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple