วัดพุทธปัญญา

วิชชาจรณสัมปันโน

พระคุณของพระพุทธเจ้าอีกบทหนึ่ง ที่พุทธศาสนิกชนได้สวดกันจนคุ้นเคย คือบทที่ว่า วิชชาจรณสัมปันโน ซึ่งแปลว่า พระพุทธเจ้าเป็นผู้เพียบพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ อันได้แก่เป็นผู้ทรงความรู้และปฏิบัติตามความรู้นั้นด้วย

ความรู้ที่เรียกว่า วิชชา ของพระพุทธเจ้านั้น คือ ความรู้ หรือ ที่เรียกว่า ญาณ สามประการ ที่ทำให้พระพุทธเจ้าเข้าถึงการตรัสรู้อย่างแท้จริง วิชชา หรือ ญาณ ทั้งสามประการดังกล่าวนั้นคือ

•  ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ความรู้ที่สามารถตามระลึกได้ถึงความเป็นอยู่ในกาลก่อน หรือ การระลึกชาติได้ โดยสามารถระลึกถึงถิ่นกำเนิด บิดามารดา การดำรงชีวิตในแต่ละชาติว่าเป็นอย่างไร

•  จุตูปปาตญาณ ความรู้ถึงกรรมของสัตว์ทั้งหลายที่ยังเวียนว่ายตายเกิด ทรงทราบว่า สัตว์ทั้งหลายที่ตายเกิด และเกิดตายนี้ ดำเนินไปภายใต้ การกระทำสิ่งใด ผลแห่งการกระทำอย่างไร นำไปสู่การเกิดอย่างไร พระองค์ทรงรู้ได้ครบถ้วน

•  อาสวักขยญาณ ความรู้ถึงความสิ้นไปแห่งกิเลส พระองค์ทรงทราบด้วยพระองค์เองว่า การบำเพ็ญเพียรภาวนาของพระองค์ที่บำเพ็ญมาอย่างยาวนาน ได้กลายเป็นผลึกที่ทรงพลังบริสุทธิ์สดใสขับไล่ตะกอนที่นอนก้นบึ้งใจให้ออกไปจนสิ้น และเป็นกำแพงเข็งแกร่งป้องกันมิให้กิเลสใดๆกล้ำกรายเข้ามาสู่พระหฤทัยของพระองค์ได้อีก ดังพระพุทธคุณบทต้นที่สวดกันจนคล่องปากในหมู่พุทธศาสนิกชนว่า อรหัง ซึ่งแปลว่า เป็นผู้ไกลจากกิเลส องค์พุทธะก็อยู่ไกลจากกิเลส กิเลสก็ไม่เข้าใกล้พระองค์พุทธะ

ส่วนคำว่า จรณะสัมปันโน แปลว่า ถึงพร้อมด้วยการปฏิบัติ หมายความว่า การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ได้มาจากการปฏิบัติที่เอาพระชนม์ชีพเข้าแลก เมื่อตรัสรู้แล้วการปฏิบัติอย่างถูกต้องที่พระองค์ได้ทรงเจริญมา ก็ดำรงอยู่อย่างครบถว้นสมบูรณ์และงดงามอยู่ตลอดเวลา

หากพุทธสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเจริญธรรมตามรอยบาทขององค์พระศาสดาเพื่อเข้าถึงความสิ้นไปแห่งกิเลสทั้งปวง พึงปรับความรู้และการปฏิบัติให้สมดุลและสอดคล้องไปพร้อมๆกัน กล่าว คือ รู้ธรรมใดก็ให้ประพฤติธรรมนั้น เมื่อประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรมแล้ว ผู้ประพฤติธรรมก็จะอยู่เย็นเป็นสุข

 

© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple