วัดพุทธปัญญา

บทความ\มาฆบูชาที่หนาวเหน็บ

มาฆบูชาที่หนาวเหน็บ

วันมาฆบูชาปีนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2552 แต่วัดต่างๆในประเทศอเมริกา จะพากันจัดงานวันมาฆบูชากันในวันเสาร์ และวันอาทิตย์ ก่อนวันมาฆบูชาที่เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง เพื่อความสะดวกแก่ประชาชนที่จะไปร่วมงานตามวัดต่างๆเพราะพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่จะหยุดงานวันเสาร์-อาทิตย์

ปีนี้วัดพุทธปัญญาจัดงานมาฆบูชาถึงสามวันเต็มๆคือ วันเสาร์ที่ 7 แม้ฝนจะตกหนักตั้งแต่วันพฤหัสบดีแล้ว แต่พอถึงวันเสาร์พุทธศาสนิกชนคนรักธรรมส่วนใหญ่จิตใจเข้มแข็งมาประชุมฟังธรรมกันอย่างพร้อมหน้า เป็นการนั่งฟังธรรมวันมาฆบูชาที่ชุ่มเย็น เพราะฝนตกลงมาตั้งแต่เช้าและโปรยปรายติดต่อกันไปเรื่อยๆ ในช่วงที่แสดงธรรมฝนยังคงโปรยปรายแต่ไม่มากนัก เมื่อแสดงธรรมเสร็จแล้ว แสงแดดจึงส่องลงมาให้ความอบอุ่นพุทธศาสนิกชนร่วมกันทำบุญตักบาตด้วยความสดชื่นเบิกบาน

พระสงฆ์รับอาหารจากพุทธศาสนิกชนแล้ว ฉันอาหารพร้อมกัน พุทธศาสนิกชนก็รับอาหารร่วมกันด้วยความสุข สงบ และเย็นจริงๆ

ฝนตกคราวนี้ติดต่อกันหลายวัน และรู้สึกว่าตกหนักกว่าทุกๆครั้งที่เคยได้เห็นมา ที่บอกว่า ตกหนักเพราะเม็ดฝนแต่ละเม็ดใหญ่กว่าคราวก่อนๆ เคยพูดกับใครๆว่า ฝนอเมริกาตกอ่อนโยนเพราะเม็ดฝนเล็กนิดเดียว แต่คราวนี้จึงประจักษ์ว่า ฝนอเมริกาก็เม็ดใหญ่และตกยาวนานจนได้น้ำไหลบ่าเจิ่งนองตามที่ต่างๆทั่วไป แต่บรรยากาศหลังฝนตกไม่เหมือนเมืองไทยก็คือ ไม่ได้ยินเสียงกบหรือเขียดร้องเท่านั้น

ฝนตกหนักตลอดคืนวันที่ 7 ติดต่อกันมาถึงตอนเช้า วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2552 คาดว่า ไม่น่าจะมีใครมาวัดค่อนข้างแน่นอน คาดว่าคงจะต้องสวดมนต์ภาวนากันเฉพาะพระสงฆ์และอุบาสิกาที่มาสมาทานศีลอุโบสถอยู่สี่คนเท่านั้น แต่พอใกล้เวลาสวดมนต์ทำวัตรเช้าประชาชนก็ทยอยมา นั่งสมาธิเสร็จแล้ว มีผู้มาร่วมงานมาฆบูชาเต็มอุโบสถศาลา

รู้สึกขอบคุณพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงานทุกคน เป็นการมาโดยมิได้นัดหมาย เพราะไม่มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางสื่อหรือทางใดๆทั้งสิ้น ทุกคนมาด้วยใจเพื่อรำลึกถึงพระคุณของพระอรหันต์ทั้งหลายมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน

วันมาฆบูชาปีนี้คิดว่าคงจะเป็นไปอย่างเงียบเชียบคือ ไม่มีใครมาร่วมเพราะฝนตกหนัก ส่วนกิจกรรมก็ไม่มีอะไรพิเศษไปกว่า การแสดงธรรมในส่วนที่เกี่ยวกับโอวาทปาฏิโมกข์นั่นเอง แม้แต่รายการธรรมะก็กลายเป็นพิเศษโดยไม่ได้คาดคิดมาก่อนเพราะหลังจากทำวัตรสวดมนต์ภาวนา ภวายภัตตาหารแก่พระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนรับประทานอาหารแล้ว รายการธรรมะเริ่มทันที

ท่านอมรญาโณ พระภิกษุชาวเกาหลีได้แสดงปาฐกถาธรรมก่อนเรื่อง การไม่ทำบาปทั้งปวง การทำความดีให้ถึงพร้อม และการทำจิตให้บริสุทธิ์ ตามหลักธรรมแห่งโอวาทปาฏิโมกข์ที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้นั่นแหละ แต่ที่เรียกว่าพิเศษก็คือ ท่านอมรญาโณ แสดงธรรมเป็นภาษาอังกฤษ มีการซักถามและอภิปรายในหลายประเด็น

ปีนี้คุณหมอวิเชียร ซึ่งมาเยี่ยมเยือนถวายความอุปถัมภ์พระสงฆ์มาตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา เกษียณอายุแล้ว มีเวลามาวัดมากขึ้น จึงได้เชิญมาพูดธรรมะด้วย ครั้งแรกก็ตั้งใจจะพูดเป็นภาษาไทย แต่ปีนี้มีผู้ฟังนอกจากชาวไทยแล้วยังมีชาวพม่าและฟิลิปปินส์มาร่วมอีกหลายคนจึงได้เชิญให้คุณหมอวิเชียรพูดธรรมะ เรื่องชีวิต ตามพุทธทัศนะ เป็นภาษาอังกฤษ ได้รับความสนใจอย่างมากมีการซักถามสนทนากันจนถึงเวลา 15.00 น. จึงปิดประชุม ด้วยความรู้ชุ่มชื่นด้วยารสพระธรรมและสายฝนที่ชุ่มฉ่ำผสมน้ำใจของพุทธศาสนิกชนที่หลั่งไหลมาศึกษา ปฏิบัติ และเผยแผ่ธรรมะร่วมกันมิได้ขาด

พอถึงวันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งเป็นวันมาฆบูชาที่ตรงกับวันเพ็ญขึ้นสิบห้าค่ำ พระจันทร์เต็มดวงจริงๆ ก็คาดคิดว่า คงจะไม่มีใครมาร่วมงาน แต่พอถึงเวลาจริงๆก็มีคนมาร่วมอีกหลายคน

อุบาสิกาที่เป็นแกนนำของการสมาทานศีลภาวนาประจำวันพระ ประกอบไปด้วย คุณบุปผา คุณจวน คุณเพ็ญสุข ได้ตื่นขึ้นมาทำวัตรสวดมนต์กับพระสงฆ์ตั้งแต่ตีห้า พร้อมขอสมาทานศีลแปด สายหน่อย คุณพวงจันทร์ก็มาสมทบสมาทานศีลฟังธรรมกันแบบปักหลักพักค้างถึงเช้าตรู่

ช่วงถวายอาหารเพลก็มีคนมาร่วมกันอีกมากมาย ทั้งๆที่ฝนตกหนักทั้งวัน วันนี้ฝนตกเป็นช่วงๆ ลงมาอย่างหนักตลอดทั้งวัน พระสงฆ์และอุบาสกอุบาสิกา ก็เปิดซีดีธรรมะของท่านอาจารย์พุทธทาสฟังกันไปเรื่อยๆ นั่งสมาธิบ้างเดินจงกรมบ้างตามความสะดวกทั้งกายและใจ

สำหรับฉันเอง เมื่อถึงวันสำคัญหลักๆอย่างนี้ ได้สืบทอดเจตนารมณ์ของหลวงพ่อพุทธทาสและกิจกรรมของสวนโมกข์ที่เห็นว่า เป็นการปฏิบัติบูชาด้วยการฟังธรรม ภาวนาตลอดทั้งคืน โดยเริ่มทำวัตรสวดมนต์เย็นแล้วร่วมกันฟังธรรมและภาวนาพร้อมๆกันไป เวลาสี่ทุ่มกว่าๆอุบาสิกาที่มาสมาทานศีลแปดขอนุญาตพักผ่อน

คุณศรีนุช คุณแม้ว คุณกริชและครอบครัว คุณเยี่ยม คุณเรณู คุณเดช คุณวาสนา ได้มาร่วมงานด้วย โดยเฉพาะคุณศรีนุชและสหายธรรมที่มาด้วยกันได้ร่วมฟังธรรมและภาวนาต่อไปจนถึงหกทุ่มจึงขอตัวกลับบ้านเพราะต้องตื่นเช้าไปทำงานในวันรุ่งขึ้น

ส่วนตัวฉันก็ใช้เวลา เดินจงกรมบ้างนั่งภาวนาบ้าง เปิดเสียงท่านอาจารย์พุทธทาสฟังเป็นเพื่อนรู้สึกอิ่มเอิบใจมาก จนกระทั่งเวลาตีห้าของวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552 อุบาสิกาที่มาพักค้างสมาทานอุโบสถศีลตื่นขึ้นมาทำวัตรเช้าและภาวนาด้วยกันจนถึงเวลาหกโมงเช้า ได้ถวายอาหารเช้าแก่พระสงฆ์และแยกย้ายกันกลับบ้านด้วยความเบิกบานใจ เพราะได้มาร่วมกันปฏิบัติบูชาโดยการ ไม่ทำความชั่วทั้งปวง ทำความดีให้ถึงพร้อม ทำจิตให้บริสุทธิ์

สมมติว่า วัมาฆบูชานี้ เป็นวันที่คนทั้งโลก พากันหยุดทำความชั่ว ร่วมกันทำความดี และระวังจิตไม่ให้เศร้าหมอง สักหนึ่งวัน โลกคงมีความสงบเป็นอย่างยิ่ง เป็นวันที่สรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่ร่วมกันด้วยสันติสุข ประตูนรกปิดทำการหนึ่งวัน ประตูสวรรค์เปิดรับผู้ทำความดีทุกคน

© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple