ยินดีปรีดา
หลังจากท่านว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกานามโอบาม่า ได้รับชัยชนะเหนือคู่ต่อสู้คือ จอห์น แมคเคน อย่างถล่มทลาย เป็นประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้วันแห่งความตื่นเต้นร้าวใจของอเมริกันชนทั้งประเทศจะผ่านไปแล้ว แต่ความยินดีปรีดา ผ่อนคลายสบายกายสบายจิตยังไม่จางหายไปง่าย ๆ
หลังจากทราบผลการเลือกตั้งเพียงวันเดียว คลื่นแห่งความสุขลูกที่สองก็ตามมาเมื่อ โอบาม่าเตรียมรายชื่อทีมงานที่จะมาเป็นกลไกขับเคลื่อนอเมริกันไปสู่ความเปลี่ยนแปลงตามอุดมการณ์ของเขาได้ชนิดโดนใจคนทั้งประเทศ แม้ขณะนี้ยังมิได้วางบุคลาการลงไปรับผิดชอบงานแต่ะละกระทรวงอย่างชัดเจน มองเพียง รายชื่อที่นำมาวางรอไว้ว่าจะเชิญมาร่วมงานก็ทำให้ประชาชนไว้วางใจโอบาม่าว่าจะสามารถนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่อเมริกาในด้านต่างๆได้จริงๆ
แม้จากการติดตามประวัติการทำงานและการศึกษาของโอบาม่า อเมริกันชนก็เทคะแนนความไว้วางใจให้อย่างท่วมท้นมาแล้ว ยิ่งเขาแสวงหาเพื่อนร่วมงานที่สังคมยอมรับว่า เก่ง ดีในสาขาต่างๆมาร่วมงาน ยิ่งทำให้ประชาชนมองเห็นภาวะผู้นำของนักบริหารในระบอบประชาธิปไตยได้ชัดเจนขึ้น
เป็นที่รู้ๆกันว่า ลำพังปัญหาเศรษฐกิจปัญหาเดียวก็หนักเกินกว่า จะฝ่าฟัน ยังมีปัญหาสังคม ปัญหาสงครามและอีกหลายๆปัญหาที่ตามมาเป็นลูกโซ่ ประธานาธิบดีเพียงคนเดียวคงแบกไม่ไหว การระดมสมองผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ด้านต่างๆมารวมกันดูแลปัญหาและหาทางแก้ร่วมกันอย่างเป็นกระบวนการย่อมเป็นวิถีที่จะฝ่าฟันวิกฤตการณ์ด้านต่างๆไปได้แม้จะไม่ง่ายนักก็ตาม
บรรยากาศหลังการสรรหารายชื่อผู้ร่วมงานเป็นไปอย่างชื่นมื่น โอบาม่า มีบุคลิกอ่อนโยน มีภาวะผู้นำในระบอบประชาธิปไตยอย่างเปี่ยมล้น จังหวะก้าวย่างของเขาที่เดินผ่านขั้นตอนต่างๆสู่ทำเนียบขาว เต็มไปด้วยความอ่อนโยนต่อคนทั่วทิศ แต่เข้มแข็งในจุดยืนที่เชื่อมั่นว่าถูกต้อง เขาไม่โปรดปรานการเล่นลิ้นเพื่อตวัดทำลายคู่ต่อสู้ด้วยภาษาการโต้วาที แต่เขาจะนำเสนอนโยบายที่ปฏิบัติได้เพื่อให้ประชาชนเป็นคนตัดสินเองว่า นโยบายของใครปฏิบัติได้และเป็นประโยชน์ก็เลือกคนนั้น
การโต้วาทีทุกครั้งมิใช่การทำให้คู่ต่อสู้ต้องเสียหน้าหรือเสียที แต่เขาได้ยกระดับการโต้วาทีเพื่อขัดเกลานโยบายในทางปฏิบัติเพื่อการบริหารประเทศให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เขาไม่ต้องพร่ำบ่นด่าประธานาธิบดีบุชอย่างซ้ำซากเพื่อเรียกความสะใจจากผู้ฟัง แต่เขาฟันธงนโยบายสงครามลงไปชัดๆว่าจะถอนทหารจากอิรักกลับประเทศให้หมดภายใน สิบแปดเดือน
ด้วยเหตุที่เขาหาเสียงด้วยนโยบายที่เขาเชื่อมั่นว่าจะนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคงและเจริญรุ่งเรืองอย่างแน่นอน เมื่อเขาได้รับการประกาศให้เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง คู่แข่งของเขาในพรรคอย่างฮิลลารี่ หรือคู่แข่งต่างพรรคอย่างเม็คเคน ก็แสดงความยินดีกับเขาด้วยท่าทีที่จริงใจมากทีเดียว
ทันที่ประธานาธิบดีบุชทราบว่า โอบาม่าชนะการเลือกตั้งจะเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปค่อนข้างแน่นอนแล้ว นอกจากกล่าวแสดงความยินดีด้วยท่าทีที่ผ่อนคลายและร่วมสุขกับอเมริกันชนทั่วประเทศแล้ว ยังประกาศต่อหน้าฝูงชนว่า เขาเตรียมพร้อมที่จะถ่ายเทอำนาจจากเขาไปสู่ประธานาธิบดีคนใหม่อย่างราบรื่นดังเช่นที่เขาเคยได้รับเมื่อเริ่มเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี
นอกจากโอบาม่า จะเปิดโอกาสให้เพื่อนร่วมชาติของเขาที่เขาเรียกว่า วันนี้ไม่มีการแบ่งแยกว่า เป็นเชื่อชาติอะไรกันอีกต่อไป คงมีแต่สหรัฐอเมริกา ได้มีส่วนร่วมกับการเปลี่ยนแปลงประเทศอเมริกาแล้ว แม้แต่เด็กๆชาวอเมริกันทั่วประเทศก็ยังได้รับพื้นที่การมีส่วนร่วมของเขาด้วยเมื่อเขาประกาศว่า เขาจะหาลูกหมาให้ลูกสาวสักตัวหนึ่งเมื่อเข้าไปอยู่ในทำเนียบขาว
เด็กๆชาวอเมริกันต่างมีส่วนร่วมในการเสนอว่าควรจะเลี้ยงหมาพันธุ์อะไร ควรตั้งชื่อว่า อย่างไร เด็กๆก็มีโอกาสได้สนุกกับเรื่องนี้มาก
ทั้งนี้ไม่นับถึงเหล่ารายการโชว์ต่างๆที่รอคิวสัมภาษณ์กันอย่างยาวเหยียด อีกไม่นานรายการประเภทกระทบไหล่ประธานาธิบดีก็คงทยอยออกมาในรูปต่างๆเป็นทิวแถว
เมื่อวันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2551 ท่านประธานาธิบดีบุช และภรรยาได้มีโอกาสต้อนรับ ท่านว่าที่ประธานาธิบดี โอบาม่าและภรรยาเข้าสำรวจทำเนียบขาวเป็นครั้งแรก ต่างฝ่ายต่างยื่นมือที่เต็มไปด้วยไมตรีให้สัมผัสและสนทนาปราศรัยด้วยอัธยาศัยไมตรี ได้สนทนากันอย่างกว้างๆในเรื่องปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจของชาติที่กำลังเผชิญอยู่
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆล้วนประกาศเป็นเสียงเดียวกันว่า พร้อมจะสรุปงานให้ประธานาธิบดีคนใหม่ทุกเรื่อง ทันทีที่เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม 2552 สามารถสืบสานงานต่อจากประธานาธิบดีคนเก่าได้ทันที
แม้ประชาชนทั่วประเทศจะดีใจได้ปลื้มกับประธานาธิบดีคนใหม่ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งสักเพียงใด แต่ดูเหมือนว่า ตลาดหุ้นที่คึกคักเป็นพิเศษในวันเลือกตั้งซึ่งแสดงสัญญาณในทางที่ดี แต่พอรู้ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันต่อมา หุ้นส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นต่างพากันร่วงกราวรูดติดต่อกันสองวัน พอถึงวันศุกร์ที่ 7 พฤศจิการยน 2551 หุ้นมีทีท่าปรับตัวขึ้นเล็กน้อย พอมาถึงวันจันทร์ที่ 10 และวันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน 2551 ก็พากันดิ่งลงอย่างไม่เยื่อใยต่อว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่เลย
สัญญาณดีที่พอจะทดแทนกันได้ที่เป็นตัวชี้ว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจน่าจะเยียวยาได้คือ ราคาน้ำมันตกลงทุกวัน จนนักข่าวคาดการณ์กันว่า ถ้าลงติดต่อกันอย่างนี้เรื่อยๆ จะได้เห็นราคาน้ำมันแกลลอนละ ดอลล่าร์กว่าในไม่ช้านี้
อัตราการว่างงานที่สูงถึง 6.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเดือนตุลาคม 2551 อาจจะเพิ่มขึ้นเมื่อสิ้นเดือนธันวาคม 2551 ซึ่งนับเป็นคลื่นยักษ์ที่ถาโถมเศรษฐกิจของสหรัฐอย่างแรงโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง
อย่างไรก็ตามแม้ท่านว่าที่ประธานาธิบดีโอบาม่าจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม 2552 คือ อีกสองเดือนกว่าข้างหน้า แต่ขณะนี้เขากล่าวว่า เขารอไม่ได้แล้ว จึงเสนอว่า สภาคองเกรสควรออกกฎหมายที่เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเยียวยา เศรษฐกิจที่ยังย่ำแย่โดยเร็วที่สุด
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เศรษฐกิจสหรัฐคงไม่พังยับเยินจนยากแก่การเยียวยา ก่อนว่าที่ประธานาธิบดีโอบาม่าจะเข้ารับตำแหน่ง หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การรูดลงของหุ้นในตลาดหุ้นต่างๆที่ทรุดลงไปแล้วพันกว่าจุดจะเป็นการลงเพื่อหาแนวรับที่สะท้อนความจริง มากกว่าการปั่นหุ้นเพื่อต้อนรับน้องใหม่อย่างโอบาม่าให้ปวดใจเล่นๆก็แล้วกัน
© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple