สุคโต พระผู้เสด็จไปดีแล้ว
คำว่า สุคโต (อ่านว่า สุ-คะ-โต) แปลตรงตัวว่า ผู้ไปแล้วด้วยดี เป็นพระพุทธคุณบทหนึ่ง ในบทสรรเสริญพระพุทธคุณ 9 บท ที่พุทธศาสนิกชนสวดสรรเสริญพระพุทธคุณกันในเวลาเช้าและเย็นอยู่เป็นประจำ พุทธศาสนิกชนหลายท่านจากลานธรรมพากันถามว่า สาระสำคัญ ของพระพุทธคุณบทนี้เป็นอย่างไรบ้าง
คำว่า พระผู้เสด็จไปดีแล้ว สามารถตีความได้ทั้งส่วนที่เป็นสภาวะภายนอกและส่วนที่เป็นสภาวะภายใน
เมื่อพิจารณาถึงส่วนที่เป็นสภาวะภายใน คำว่า สุคโต ก็หมายถึง การที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปสู่พระนิพพาน ดินแดนเสรี ไม่มีกิเลส ไม่มีความทุกข์ใดๆพัวพัน ตั้งแต่วันที่พระองค์ตรัสรู้ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์เมื่อพระชนมายุ 35 พรรษา หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า พระองค์เสด็จสู่พระนิพพาน คือสภาวะสิ้นกิเลสตั้งแต่วันที่พระองค์ตรัสรู้
คำว่า พระนิพพาน มิได้แปลว่า ความตาย แต่พระนิพพาน แปลว่า ความไม่มีกิเลสเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ใดๆ พระหฤทัย บริสุทธิ์ สะอาด เกลี้ยง ไม่มีกิเลสธุลีใดๆ เกะกะกลาดเกลื่อนรกรุงรัง ไม่มีสิ่งใดติดยึดหน่วงเหนี่ยว อิ่มเอิบเบิกบาน สดชื่นแจ่มใสตลอดเวลา
การเดินทางไปถึงพระนิพพาน เป็นการเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยมที่สุด เพราะไม่มีเหตุแห่งทุกข์ใดๆเหลือเพื่อสร้างทุกข์ได้อีก
เมื่อพระองค์เสด็จสู่พระนิพพานแล้ว พระองค์ทรงดำรงชีพอย่างคนธรรมดาสามัญทั้งหลาย แต่ทว่าเรียบง่าย ใช้สอยปัจจัยสี่แต่น้อย บำเพ็ญประโยชน์แก่มหาชนได้มาก ผู้เข้าถึงพระนิพพานแล้ว จะมีความสุขทุกหนทุกแห่ง มีชีวิตที่ใกล้ชิดจนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับธรรมชาติ อิงอาศัยธรรมชาติอย่างเอื้อเฟื้อเกื้อกูล แบบธรรมชาติอาศัยมนุษย์และมนุษย์อาศัยธรรมชาติ
ผู้เป็นอิสระจากพันธนาการแห่งกิเลสทั้งหลาย ล้วนเป็นผู้รักษาใจให้ปลอดภัยจากกิเลสอย่างสิ้นเชิง รักษาธรรมชาติ และรักษาโลกให้ดำเนินไปอย่างสมดุล ไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติแต่เอื้อเฟื้อเกื้อกูลด้วยเมตตา
เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จสู่พระนิพพานด้านในแล้ว ทรงใช้พระวรกายภายนอกที่เกื้อกูลและกลมเกลียวตามธรรมชาติชี้ทางพระนิพพาน คือ จุดหมายสูงสุดที่มนุษย์จะพึงไปถึงได้ พระองค์ทรงเสด็จพระพุทธดำเนินไปสู่ที่ต่างๆอย่างเรียบง่ายเพื่อนำมนุษย์สู่ชีวิตอิสระ
พระองค์ทรงชี้เสมอๆว่า อริยมรรค มีองค์แปด เป็นเส้นทางทอดยาวเข้าสู่พระนิพพาน คือที่สุดแห่งทุกข์ เส้นทางนี้อยู่ที่ไหน
พระองค์ทรงชี้ชัดว่า อยู่ไม่ไกล อยู่ภายใน กาย วาจา และใจ นี่เอง
อริยมรรคมีองค์แปดที่พระองค์ทรงประกาศไว้ ประกอบด้วย สัมมาทิฎฐิ ความเห็นถูกต้อง สัมมาสังกัปปะ ความดำริที่ถูกต้อง สัมมาวาจา การพูดจาที่ถูกต้อง สัมมากัมมันตะการทำงานที่ถูกต้อง สัมมาอาชีวะ ประกอบอาชีพถูกต้อง สัมมาวายามะ ความพากเพียรที่ถูกต้อง สัมมาสติ ความระลึกถูกต้อง สัมมาสมาธิ ความมั่นใจอย่างถูกต้อง
เมื่อก้าวขึ้นสู่เส้นทางนี้แล้ว ก้าวต่อไปไม่หยุดหย่อนวันหนึ่งก็จะถึงซึ่งแดนนิพพาน อันเป็นที่สิ้นไปแห่งกิเลสและทุกข์ทั้งปวง
คำว่า สุคโต ตามสภาวะภายนอก หมายถึง เวลาพระพุทธเจ้าเสด็จไป ณ ที่ใด ความสุขสงบจะบังเกิดขึ้น ณ ที่นั้นทันที เช่น เมื่อคราวที่พระประยูรญาติของพระองค์ทั้งฝ่ายพระบิดาและพระมารดากำลังรบพุ่งกันเพื่อชิงน้ำจากแม่น้ำโรหินี ที่กั้นเขตระหว่างกรุงเทวทหะ แผ่นดินพระมารดา และกรุงกบิลกัสดุ์ แผ่นดินแห่งพระบิดา
วันหนึ่งขณะที่พระประยูรญาติกำลังเริ่มทำการรบ พระองค์เสด็จไปท่ามกลางสนามรบแล้วประทับนั่งลงบนพื้นท่ามกลางแสงแดดร้อนจ้า พระประยูรญาติมองเห็นพระองค์เสด็จมาประทับอยู่กลางแดดจึงทูลถามพระองค์ว่า ทำไมพระองค์ไม่ประทับในร่ม
พระองค์ตรัสว่า เมื่อเหยียบแผ่นดินแห่งญาติ แม้ไม่ประทับในร่มไม้ก็สบาย พระองค์สื่อให้พระประยูรญาติได้ทราบว่า ความเป็นญาติเป็นเหตุให้เกิดความสุข โดยไม่ต้องอาศัยสิ่งอื่น แต่ขณะนี้การที่พระประยูรญาติรบกันเพื่อสร้างความทุกข์ให้แก่กันย่อมไม่ถูกต้อง พระองค์ได้ตรัสถามต่อไปว่า กษัตริย์กับน้ำ ไหนสำคัญกว่ากัน
เมื่อพระประยูรญาติ ตอบว่า กษัตริย์สำคัญกว่า น้ำ พระองค์จึงทรงตรัสให้เห็นความสำคัญของชีวิต ส่วนน้ำแบ่งปันกันได้
พระประยูรญาติได้สดับเรื่องคุณค่าของชีวิตแล้ว ได้พากันยุติการรบชั่วคราว
นี่แสดงให้เห็นว่า พระพุทธเจ้าเสด็จไป ณ ที่ใด ที่ร้อนก็กลายเป็นเย็น ที่รบก็กลายเป็นรัก
หากมนุษย์ตระหนักในคุณค่าของความเป็นมนุษย์ดังที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้แล้วช่วยกันรักษาชีวิตมนุษย์ไม่นำชีวิตไปแลกกับอำนาจหรือศักดิ์ศรีอย่างมืดบอดและลุ่มหลง โลกคงสงบและน่าอยู่มากกว่านี้เป็นแน่แท้
พวกเราเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าปรารถนาความสุขสงบและปลอดภัยในชีวิตจิตใจพึงเดินตามรอบบาทของพระองค์ผู้เสด็จไปดีแล้วอย่างใกล้ชิด และเราก็จะปลอดภัยมั่นคง ดี งาม และง่ายไร้อุปสรรค ไร้ทุกข์ พบความสุขแท้ตลอดเส้นทางกว่าจะถึงปลายทางสำคัญ คือ พระนิพพาน
© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple