วัดพุทธปัญญา

บทความ\พระธรรมสัญจร

พระธรรมสัญจร

            เคยพูดคุยไว้กับญาติโยมที่มาวัดพุทธปัญญาอยู่บ่อยๆว่า หากบริหารดูแลวัดได้มั่นคงเข้มแข็งไม่มีหนี้สินแล้วก็จะอำลาญาติโยมเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆอย่างอิสระไม่มีภาระใดๆผูกพันมีเพียงบริขารและปัจจัยเครื่องอาศัยของบรรพชิตเท่าที่จำเป็นเหมือนนกขมิ้นเหลืองอ่อน เพื่อการสนทนาธรรมกับพุทธบริษัทหรือคนต่างชาติต่างศาสนาแต่มีความสนใจปรารถนาจะเรียนรู้แลกเปลี่ยนเรื่องราวทางจิตใจอย่างไม่มีข้อจำกัด เพราะพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเปรียบเหมือนน้ำใสเย็นใครได้ดื่มก็จะดับกระหาย ให้ความชื่นใจได้ไม่แตกต่างกัน
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2553 ทางวัดพุทธปัญญาได้จ่ายหนี้แก่หอสมุดธรรมโฆษณ์วัดอุโมงค์ จังหวัดเชียงใหม่ ที่กู้มาสร้างรั้ว สร้างลานจอดรถและอาคารอุโบสถศาลาหมดสิ้น วัดพุทธปัญญาจึงไม่มีหนี้สินใดๆที่จะเป็นภาระรับผิดชอบต่อไป ที่ดินและตัวอาคารของวัดพุทธปัญญาจึงเป็นสมบัติของพุทธศาสนิกชนชาวไทย ที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยและเพื่อนร่วมโลกไม่จำกัดชาติ ศาสนา และวัฒนธรรมจะมาใช้ประโยชน์เพื่อการศึกษา ปฏิบัติและเผยแผ่พระพุทธศาสนาเพื่อความสงบสุขของตนเองและผู้อื่นร่วมกัน
พระสงฆ์เป็นผู้นำด้านการทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา คณะกรรมการอำนวยการและคณะกรรมการบริหารจะทำหน้าที่ดูแลทรัพย์สินในด้านนิติกรรมเพื่อใช้สอยสาธารณสมบัติชิ้นนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อันจะเป็นเหตุให้ผู้บริจาคร่วมสร้างวัดด้วยการสละกำลังกาย กำลังใจ กำลังทรัพย์ กำลังฝีมือ และกำลังปัญญาได้รับอานิสงส์ยิ่งๆขึ้นไปทุกๆครั้งที่มีการใช้ประโยชน์
คณะกรรมการทั้งฝ่ายอำนวยการและบริหารจะเปลี่ยนวาระกันทำหน้าที่คราวละสองปีตามที่กำหนดไว้ในธรรมนูญของวัดพุทธปัญญา
ระบบการบริหารต่างๆได้จัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ พร้อมที่จะให้ผู้มีจิตศรัทธาต้องการอาสามาบำเพ็ญประโยชน์ส่วนรวมเข้ามาช่วยเหลือขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งตนเองและผู้อื่นตามหลักการใหญ่ของพระพุทธศาสนา เมื่อวันเสาร์ที่ 26 มิภุนายน 2553 จึงได้มีการประชุมเพื่อมอบหมายเอกสารกรรมสิทธิ์ที่ดินและเอกสารต่างๆของวัดที่สำคัญแก่คณะกรรมการไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เพื่อให้พระสงฆ์และคณะกรรมการของวัดได้ทำงานสานต่อได้อย่างราบรื่นและตัดสินใจเรื่องราวต่างๆได้อย่างรวดเร็ว อาตมาจึงได้ลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการอำนวยการและเจ้าอาวาส เพื่อเปิดให้มีการสรรหาบุคลากรในตำแหน่งที่ว่างลงมาทำหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในธรรมนูญของวัดต่อไป
จุดประสงค์ดั้งเดิมของการเข้ามารับตำแหน่งเพื่อสะดวกในการฟื้นฟูพัฒนาวัดในขณะที่มีปัญหา ได้ร่วมกับพุทธศาสนิกชนจากทั่วทิศร่วมมือร่วมแรงร่วมใจสร้างวัดเล็กๆขึ้นมาให้เป็นศาสนสถานของพุทธศาสนิกชนสำเร็จวัดหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยได้ทำหน้าที่เป็นเวลาแปดปีเต็ม ด้วยการทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาเพียงอย่างเดียว
ก่อนจะเดินทางมาอเมริกาก็มีการกล่าวกันว่า ถ้าพระอยากจะไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในอเมริกาให้ประสบความสำเร็จ ต้องพกวิชาพิเศษไปด้วย คือ วิชาโหราศาสตร์และไสยศาสตร์ ดังเป็นที่ทราบกันว่า หากเจ้าอาวาสรูปใดเก่งกล้าทางด้านโหราศาสตร์จะสามารถเรียกญาติโยมเข้าวัดได้ดี ยิ่งมีความสามารถด้านไสยศาตร์เมตตามหานิยม หรือปลุกเสกวัตถุต่างๆที่ให้ความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าว่าจะร่ำจะรวยได้ด้วย ยิ่งจะนำคนเข้าวัดอย่างมืดฟ้ามัวดิน เป็นที่มาของการสร้างวัตถุต่างๆภายในวัดอย่างรวดเร็ว
ข้าพเจ้ามีความเชื่อเป็นการส่วนตัวว่า หน้าที่ของพระธรรมทูตในพระพุทธศาสนาต้องเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างเดียว ไม่ควรเผยแผ่ลัทธิหรือความเชื่ออย่างอื่นด้วย เพราะลัทธิหรือความเชื่ออย่างอื่นมีศาสนบุคคลของศาสนานั้นๆกำลังทำหน้าที่อย่างจริงจัง และทำได้ผลด้วยการกระจายความเชื่อนั้นๆให้แผ่ขยายออกไปอย่างกว้างขวางอยู่แล้ว
ข้าพเจ้าจึงตั้งใจว่า เมื่อมาเป็นพระธรรมทูต ต้องทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาเท่านั้น จึงตั้งคำถามไว้ว่า หากพระธรรมทูตจะมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาโดยไม่ต้องมีโหราศาสตร์และไสยศาสตร์มาสนับสนุนจะทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาได้ไหม จะมีปัจจัยสี่ยังชีพไหม
การทำงานที่วัดพุทธปัญญาแปดปีเต็ม ซึ่งเท่ากับวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีประเทศสหรัฐอเมริกาพอดี ได้ทำหน้าที่สร้างใจ สร้างคน สร้างชุมชน สร้างวัด ตามสติกำลัง ได้ตอบคำถามที่ตั้งไว้ในเบื้องต้นได้แล้วว่า หากพระธรรมทูตจะทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาเพียงอย่างเดียวโดยมิต้องมีกิจกรรมอย่างอื่นเข้ามาผสมผสานในเชิงพุทธพานิชก็สามารถดำรงอยู่ได้โดยไม่เดือดร้อนแบบวิถีพุทธที่เรียบง่ายได้ประโยชน์ด้านจิตใจอย่างเต็มที่ โดยมีวัตถุและทุนสนับสนุนเท่าที่จำเป็น ไม่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่พุทธศาสนิกชนแต่ประการใด พุทธศาสนิกชนผู้มีจิตใจงดงามทราบเจตนาของวัดแล้วช่วยเหลือด้วยความตั้งใจ จริงใจ และเต็มใจ จึงทำแล้วสบายใจด้วยกันทุกฝ่าย
ข้าพเจ้าจึงมีแนวความคิดใหม่ว่า การเผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยการมีสถาบันวัดเป็นศูนย์กลางชุมชนก็ทำกันมาอย่างต่อเนื่องและมีความมั่นคงเป็นปึกแผ่นอยู่มากมาย ในประเทศอเมริกาเองก็มีวัดพุทธศาสนาแบบไทยร่วมร้อยกว่าแห่ง จึงปรารถนาที่จะทดลองการเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามแบบที่พระพุทธเจ้าทรงวางไว้ดังพระพุทธโองการที่ตรัสไว้กับพระภิกษุอรหันต์หกสิบองค์ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เธอทั้งหลายพ้นแล้ว จากบ่วงอันเป็นทิพย์ และบ่วงอันเป็นของมนุษย์ เธอทั้งหลายจงจาริกไปเพื่อประโยชน์เพื่อความสุขแก่มหาชนเป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์โลก อย่าไปทางเดียวหลายคน จงประกาศพรมหจรรย์ งามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง และงามในที่สุด ถึงพร้อมด้วยอรรถะและพยัญชนะ
พระพุทธโองการนี้ไพเราะจับจิตข้าพเจ้าเสมอมา ทุกวันเวลาสวดมนต์ และทำสมาธิ ข้าพเจ้ามักจะระลึกถึงพระพุทธวจนะนี้ขี้นมาในจิตใจเสมอๆ เมื่อระลึกถึงด้วยความประทับใจมากๆก็เกิดจินตนาการแห่งการเผยแผ่ธรรมของพระพุทธเจ้าที่เสด็จไปยังบ้านน้อยบ้านใหญ่โดยมิได้หยุดหย่อน เพื่อโปรดผู้ทุกข์ยากให้พ้นจากทุกข์ ยิ่งระลึกถึงยิ่งปรารถนาจะตามรอยบาทของพระบรมศาสดาแบบนี้ยิ่งนัก
แม้ข้าพเจ้าจะเป็นเพียงพระภิกษุปุถุชนคนธรรมดารูปหนึ่งที่ยังต้องเดินทางแสวงหาสัจรรมอย่างคนอื่นที่ยังไม่ถึงฝั่งแห่งพระนิพพาน ยังต้องล่องลอยอยู่ในวัฏฏสงสารก็ตาม หากจะต้องเลือก ระหว่างการเดินตามรอยวัตถุนิยม ทุนนิยม และบริโภคนิยม อย่างสุดฤทธิ์สุดเดชกับการเดินตามรอยพระอรหันต์โดยมีพระพุทธเจ้าเสด็จนำไปก่อนแล้ว ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะเดินตามรอยพระอรหันต์ที่แสนสงบเย็นในชีวิตที่ตัดสินใจมาประพฤติพรหมจรรย์นี้
ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจที่จะเดินทางไปตามที่ต่างๆเพื่อพบมิตรสหายที่สนใจพระพุทธศาสนาสนใจทางแห่งความสงบ ไม่ว่าจะเป็นชาติใดภาษาใดจะสนทนาพูดคุยด้วย เพราะข้าพเจ้ามั่นใจว่า พุทธธรรม ทีมีความสงบเย็นเป็นจุดหมาย มนุษย์ทั้งหลายจะสัมผัสได้ ขอเพียงได้ทราบว่าจะสัมผัสสันติรสทางใด ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ตรัสชี้ทางให้แล้วว่า หากต้องการแผ้วถางทางแห่งสันติ จงทิ้งเหยื่อแบบโลกเสีย เหยื่อแบบโลกที่คอยจะเป็นเชื้อไฟใส่หัวใจอยู่เสมอๆคือ ลาภ ยศ สรรเสริญ และสุข
ด้วยแรงบันดาลใจดังกล่าวข้าพเจ้าจึงตั้งคำถามที่สองในชีวิตพระธรรมทูตต่างแดนว่า หากเราจะตั้งจุดประสงค์เพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างเดียว โดยตัดความห่วงใยการจัดงานประเพณีต่างๆเพื่อหาทุนซื้อที่ดิน ซื้อวัสดุก่อสร้าง จ่ายค่ายานพาหนะ ค่าประกันรถ ค่าประกันชีวิต ที่เหลียวซ้ายแลขวาก็ต้องวนเวียนอยู่กับการหาเงินทางมาใช้จ่ายกับสิ่งเหล่านี้ หากไม่พอต้องเดินหน้ากู้หนี้ยืมสินมาซื้อมาสร้าง มาผ่อน มาส่งกันไม่รู้จักจบสิ้น จะทำได้หรือไม่
คำถามนี้นำมาซึ่งจุดเปลี่ยนที่ข้าพเจ้ากำลังจะเดินไปคือเปลี่ยนจากการทำงานพระธรรมทูตที่ต้องติดจมอยู่กับวัดเป็นพระธรรมสัญจรที่เดินทางท่องเที่ยวไปหาผู้ปรารถนาฟังธรรม หรือปฏิบัติธรรมตามหลักสูตรภาวนาตามเวลาที่เหมาะสม เมื่อทำหน้าที่แต่ละแห่งจนเป็นที่กระจ่างใจในธรรมของท่านผู้ปรารถนาจะศึกษาธรรมแล้ว ก็เดินทางต่อไป
การเดินทางก็ไม่กำหนดตายตัว ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย อาจจะเดินทางเท้าก็ได้ ไปรถเมล์ประจำทางก็ได้ ไปรถเกรย์ฮาวน์ก็ได้ หรือ ถ้าไกลมากก็ไปเครื่องบิน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวก โดยจะใช้สอยยานพาหนะเท่าที่จำเป็น
เนื่องจากข้าพเจ้าไม่ใช้โทรศัพท์มือถือมานานแสนนาน โดยใช้การติดต่อด้านอื่นเช่นโทรศัพท์สาย และมาระยะหลังเทคโนโลยีเจริญมากขึ้นการติดต่อประสานงานบางอย่างทำได้สะดวกขึ้นและกว้างขวาง จึงตัดสินใช้อีเมล์เป็นเครื่องมือสื่อสารที่สำคัญหากใครต้องการติดต่อให้ไปเผยแผ่ธรรมะไม่ว่าอยู่ส่วนไหนของโลก ส่งอีเมล์มานิมนต์ได้ หากมีเวลาว่างตรงกับช่วงเวลานั้นไม่ติดงานเผยแผ่ในจุดอื่นๆจะเดินไปทันทีตามที่กลุ่มผู้ศึกษาธรรมะนั้นๆต้องการ
เพราะไม่มีภาระผูกพันจึงสามารถเคลื่อนที่ได้เร็ว อีเมล์ที่จะติดต่อประสานงานมี chanya001@yahoo.com, และ sutthi_yano@yahoo.com .
เมื่อได้สนทนาความคิดนี้ออกไปสู่ญาติโยมที่เคยเผยแผ่ธรรมด้วยกัน ญาติโยมที่มีความรู้ด้านการใช้เครื่องมือสื่สารสมัยใหม่ได้ดี ได้รวมตัวกันทำ Face book วัดลอยฟ้า Sky temple เพื่อสนทนาธรรมกับ ดร.พระมหาจรรยา สุทฺธิญาโณ ขึ้นเพื่อเป็นการสนทนาธรรมกับผู้สนใจธรรมะจากทั่วทุกพื้นที่ของโลกนี้ที่อินเตอร์เน็ตเข้าถึง ขอขอบคุณคุณโยมอรไท นิวัติภูมินทร์ คุณชดา เสมอตน และ คุณพรทิพย์ กันยาพิพัฒน์ ที่ขวนขวายดูแลโครงการวัดลอยฟ้าดังกล่าว
โครงการธรรมสัญจรในครั้งนี้จึงเป็นการดำเนินการที่ผสมผสานแนวความคิดระหว่างพระพุทธวจนะที่เน้นการเข้าถึงประชาชนเพื่อสนทนาธรรมบอกทางชีวิตแบบเรียบง่ายที่สุดได้สนทนาธรรมกันอย่างใกล้ชิด กับเทคโนโลยีสมัยใหม่เมื่อส่งข้อมูลข่าวสารทางธรรมะที่รวดเร็วฉับไว้ เพื่อสร้างสันติสุขและสันติภาพแก่มวลมนุษย์อย่างไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ
การสนทนาธรรมผ่าน Face book สนองตอบพระพุทธดำรัสที่ว่า เพื่อการอนุเคราะห์ โลก คำว่าโลกในที่นี้ หมายถึงประชาชน เมื่อนำการสื่อสารไร้พรหมแดนมาใช้อย่างฉับไว ก็จะขยายพระธรรมขององค์พระสัมมาสัมพันธเจ้าตมที่ได้ตรัสไว้ การสื่อธรรมแบบนี้คือการนำพระพุทธดำรัสอันประกอบไปด้วยพระมหากรุณามาทำให้เป็นจริง ขอมหากุศลจงสำเร็จแก่ผู้ขวนขวายในเรื่องนี้และพุทธศาสนิกชนทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมพบปะสนทนาในวัดลอยฟ้าและทุกทิศที่ที่ได้จาริกไปเยี่ยมเยือน
จึงของฝากถ้อยคำเหล่านี้ก่อนจะลาไปทำหน้าที่ตามรอยบาทพระศาสดาและตามรอยพระอรหันต์เพื่อให้มรดกธรรมที่รับมาแล้วขจรขจายไปตามสติกำลังอย่างสุดความสามารถ แม้ตัวจะจากไปแต่อาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ฉับไวรวดเร็ว การเผยแผ่ธรรมะทางหนังสือพิมพ์ก็จะยังคงอยู่ต่อไปทุกฉบับที่ออกในมหานครลอสแองเจลิส เรียกตามภาษาวัยรุ่นว่า ตัวอยู่ไกลแต่ใจอยู่ใกล้ ถ้าพวกเราต่างตั้งอยู่ในจุดเดียวกัน คือพระธรรมเป็นจุดนัดพบ เมื่อใดที่ท่านยังรักพระธรรม ศึกษาปฏิบัติและช่วยกันเผยธรรมะด้วยความตั้งใจเมื่อนั้นเราจะอยู่ใกล้กันเสมอ
ขอความสงบสุขจงบังเกิดมีแด่ทุกท่านที่สนใจและปฏิบัติธรรมสืบไป

© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple