วัดพุทธปัญญา

บทความ\วัดพุทธปัญญาหมดหนี้

วัดพุทธปัญญาหมดหนี้

            เมื่อวันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน 2553 เวลาประมาณ 10.00 น. วัดพุทธปัญญาได้จ่ายหนี้งวดสุดท้ายคืนแก่กองทุนหอสมุดธรรมโฆษณ์วัดอุโมงค์ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นก็หมายความว่า วัดพุทธปัญญา เป็นอีกวัดหนึ่งที่ปลอดหนี้สิน กิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวกับการศึกษา ปฏิบัติและเผยแผ่พระพุทธศาสนาเป็นไปตามปกติ เรียบๆง่ายๆสบายๆเหมือนเดิม จึงขอถือโอกาสขอบคุณในธารน้ำใจที่เปี่ยมไปด้วยการเสียสละของท่านสาธุชนทั้งหลายที่หลั่งไหลสู่วัดพุทธปัญญา ติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายปีโดยไม่เคยมีการแห้งเหือดหาย ด้วยความจริงใจ ตั้งใจ และเต็มใจ

            ต้องขอขอบคุณกองทุนหอสมุดธรรมโฆษณ์ โดยเฉพาะผู้จัดการกองทุน คุณเพ็ญฉาย สิโรรส หรือป้าแอร์ของลูกหลานชาววัดอุโมงค์ที่ให้กู้ยืมกองทุนมาดำเนินกิจการของวัดพุทธปัญญาสองครั้งสองคราว ครั้งแรกอนุมัติให้กู้ยืม เป็นจำนวน 50,000 ดอลล่าร์สมทบกับทุนที่มีอยู่จำหนวนหนึ่งของวัดเพื่อจ่ายค่าที่ดิน ทำให้ที่ดินผืนนี้ได้กลายเป็นสมบัติร่วมของคนไทยผืนหนึ่งที่ใช้ประโยชน์ในทางศาสนา วัฒนธรรมและสังคมได้หลายสิ่งหลายประการ ด้วยธารน้ำใจของพุทธศาสนิกชนที่ให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง ทางวัดสามารถปลดหนี้ก้อนนี้คืนแก่หอสมุดธรรมโฆษณ์วัดอุโมงค์ภายในปีเดียว

            ต่อมาพุทธศาสนิกชนชาววัดพุทธปัญญาได้ร่วมกันดำริที่จะพัฒนาที่ดินผืนนี้ให้เป็นวัดที่สมบูรณ์ตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกา ตามพระธรรมวินัย คือมีสีมาสำหรับทำสังฆกรรมต่างๆได้สะดวก จึงดำริที่จะทำอุโบสถศาลาหลังเล็กๆหลังหนึ่งขึ้นมาในรูปของอาคารอเนกประสงค์นอกจากใช้เป็นสถานที่ทำสังฆกรรมของคณะสงฆ์แล้วยังเป็นสถานที่ฟังธรรมและปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนทั่วไปตลอดถึงเป็นสถานที่เรียนภาษาไทยของเยาวชนที่สนใจด้วย

            ก่อนที่จะสร้างอุโบสถศาลาแห่งหนี้ได้ ต้องขอนุญาตทางเทศบาลเมืองโพโมน่าเสียกอ่น ทางเทศบาลก็ได้กำหนดให้สร้างลานจอดรถ และรั้วอีกสองด้านเพื่อให้สอดคล้องกับเทศบัญญัติศาสนสถานของเมืองโพโมน่า การกอ่สร้างจะต้องใช้เงินจำนวนมาก เพื่อความสะดวกในการใช้จ่ายในการดำเนินการก่อสร้างทางวัดพุทธปัญญาจึงได้กู้ยืมเงินจำนวน 100,000 ดอลล่าร์มาเป็นทุนสำรองและสมทบกับเงินบริจาค ทางหอสมุดธรรมโฆษณ์ก็ยินดีอนุมัติให้กู้ยืมด้วยความเต็มใจ โดยมิได้มีหลักทรัพย์ค้ำประกันแต่อย่างใด เป็นการช่วยเหลือทำบุญกันไป ทำบุญกันมาระหว่างวัดในพระพุทธศาสนา ดอกผลที่เกิดขึ้นก็บำรุงกิจการการกุศลหอสมุดเพื่อการศึกษาพระพุทธศาสนาและอื่นๆแก่สาธารณชนที่ต้องการเรียนรู้ต่อไป

            การที่ทางหอสมุดธรรมโฆษณ์ให้กู้ยืมกองทุนก่อนอย่างนี้ ทำให้ทางวัดไม่ต้องไปกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินหรือธนาคารในประเทศอเมริกา อันเป็นเหตุให้ต้องการมีคนมาลงนามร่วมอันเปรียบเสมือนเป็นเจ้าของที่โดยตรง และไม่ต้องนำที่ดินไปจำนองเพื่อนำเงินสดมาดำเนินการก่อสร้างวัด

            ที่ดินวัดจึงเป็นสมบัติร่วมของพุทธบริษัทไทยที่ไม่มีใครจะนำไปจำหน่ายจ่ายแจกได้เป็นการส่วนตัวแต่บริหารจัดการและดูแลโดยคณะกรรมการบริหารและคณะกรรมการอำนวยการซึ่งจะมาจากการเลือกตั้งวนเวียนกันไปวาระละสองปีโดยมีธรรมนูญของวัดเป็นกรอบในการดำเนินกิจการต่างๆ

            งานก่อสร้างวัดเริ่มเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2550 และเสร็จสิ้นสมบูรณ์เมื่อทำพิธีพัทธสีมาสาธิตฝังลูกนิมิตวัดพุทธปัญญาในวันที่ 5 เมษายน 2551 ใช้เวลาก่อสร้าง ไม่ถึงหนึ่งปี ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างตั้งแต่ต้นจนเสร็จสิ้นประมาณ 300,000 ดอลล่าร์ จากเงินกู้ยืม 100,000 ดอลล่าร์และเงินบริจาคของพุทธศาสนิกชนทั้งในประเทศไทยและในประเทศสหรัฐอเมริกาอีกประมาณ 200,000 ดอลล่าร์

            เงินจำนวนนี้ เป็นเงินจำนวนมหึมาสำหรับวัดพุทธปัญญา ที่ดำเนินกิจการทางพระพุทธศาสนาโดยปลอดจากการหาทุนเชิงพานิชหรือการเรี่ยไรโดยประการทั้งปวง เป็นเงินที่ออกมาจากใจใสๆของพุทธศาสนิกชนจริงๆ

            เมื่อเสร็จสิ้นการก่อสร้างแล้ว ทางวัดเริ่มปลดหนี้ทันทีที่เงินเข้ามา โดยมีแผนงานในการปลดหนี้ว่า เมื่อเงินเข้าวัดครบ 10,000 ดอลล่าร์ และมีค่าน้ำค่าไฟติดวัดเพีงหนึ่งพันเหรียญจะต้องปลดหนี้ทันที เพื่อให้วัดหมดหนี้สินโดยเร็ว

            การจ่ายเงินคืนหอสมุดวัดอุโมงค์เริ่มงวดแรกเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2551 หลังจากทำพัทธสีมาสาธิตของวัดผ่านไปเพียงยี่สิบวัน ประกอบกับขณะนั้นต้องปลดหนี้ค่าวัสดุก่อสร้างไปด้วย

            ธารน้ำใจของท่านพุทธศาสนิกชนยังไหลเรื่อยเอื่อยๆแต่ไม่หยุด เงินเข้ามาครบจำนวนเมื่อไรจ่ายทันที ตามสำนวนที่ว่า เต็มออกๆ จนกระทั่งวันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน 2553 เป็นเวลาสองปีกับสี่สิบวันภาระการปลดหนี้ของวัดก็แล้วเสร็จ กลายเป็นวัดในพระพุทธศาสนาที่ไร้หนี้อีกวัดหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา

            การปลดหนี้จำนวนหนึ่งแสนภายในสองปีกับสี่สิบวันอาจจะเป็นเรื่องเล็กกะจิดริดสำหรับวัดที่หาเงินได้ปีละสี่ห้าแสนดอลล่าร์หรือจัดงานหาทุนครั้งละหนึ่งถึงสองแสนดอลล่าร์ จัด งานกฐินครั้งละหนึ่งแสนกว่า ดอลล่าร์ ด้วยการขายทุกอย่างที่ขวางหน้า และโฆษณาเรี่ยไรกันแบบดุเดือดเลือดพล่าน แต่วัดที่รับเฉพาะปัจจัยที่มาจากแรงศรัทธาและปัญญาที่ไตร่ตรองแล้วไตร่ตรองอีกอย่างถี่ถ้วน ครั้งละเซ็นหรือดอลล่าร์ เงินจำนวนนี้ นับเป็นจำนวนเงินที่ยิ่งใหญ่ควรค่าแก่การจารึกจดจำ

            จึงต้องขอขอบคุณทุกหยาดน้ำใจของพุทธศาสนิกชนจากทั่วทิศที่ได้หยาดหยดกันมาจนกลายเป็นวัดน้อยๆขึ้นมาเพื่อสร้างประโยชน์และความสุขแก่พุทธศาสนิกชนและมหาชนอย่างคุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 

            เมื่อได้จ่ายหนี้จนหมดสิ้นแล้ว ชาววัดพุทธปัญญาที่ไปมาหาสู่ดูแลอุปถัมภ์วัดกันเป็นประจำห้าท่านคือ คุณเพ็ญสุข คุณจวน คุณรัตนา คุณวิไล คุณพรทิพย์ ได้ร่วมกันปฏิบัติธรรมเจริญภาวนาฉลองอิสรภาพจนกระทั่งห้าโมงเย็นก็แยกย้ายกันกลับบ้านคงเหลือแต่คุณจวนและคุณเพ็ญสุขที่จะปฏิบัติภาวนาต่อร่วมกันญาติโยมที่วนไปเวียนมาต่ออีกหนึ่งสัปดาห์

            ท่านทั้งห้านี้ถือเป็นตัวแทนสื่อความหมายแห่งความร่วมแรงร่วมใจที่ว่า พุทธศาสนิกชนเป็นผู้บริจาคทุนทรัพย์สร้างวัด มาร่วมกันเฉลิมฉลองวัดด้วยการเจริญภาวนา อันเป็นบุญกิริยาวัตถุที่ทำได้ง่ายใช้จ่ายน้อยแต่ได้อานิสงส์มาก จึงได้ประกาศให้ทราบทั่วกันเสมอว่า ตราบใดที่พุทธศาสนิกชนเข้าวัดเพื่อการเจริญภาวนาฝึกฝนจิตนำตนเข้าหาความสะอาด สว่าง สงบ วัดจะเป็นแหล่งกำเนิดแห่งประโยชน์และความสุขของมหาชนอย่างยั่งยืนตราบนั้น

© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple