วัดพุทธปัญญา

บทความ\อิทัปปัจจยตา กับ ปฏิจจสมุปปบาท

อิทัปปัจจยตา กับ ปฏิจจสมุปปบาท

ลานธรรมวัดพุทธปัญญา เปิดสนทนา ทุกวัน ไม่เว้น ยิ่งวันเสาร์-อาทิตย์ด้วยแล้ว ยิ่งใช้เวลาสนทนาอย่างยาวนานมากกว่าวันธรรมดาเสียอีก เพื่อส่งเสริมให้ท่านสาธุชนผู้ใฝ่ธรรมทั้งหลายได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการศึกษาและปฏิบัติธรรมอย่างเสรีและกว้างขวางไร้ขีดจำกัด

อุบาสิกาท่านหนึ่ง ตั้งปัญหา ถามว่า อิทัปปัจจยตา กับ ปฏิจจสมุปปบาท ต่างกันอย่างไร

ประธานลานธรรมได้ตอบปัญหา แก่อุบาสิกาท่านนั้นว่า

อิทัปปัจจยตา แปลว่า เมื่ออาศัยสิ่งนี้ สิ่งนี้ก็มี เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ก็ไม่มี

ปฏิจจสมุปปบาท แปลว่า อาศัยกันและกันเกิดขึ้น

เมื่อดูคำแปลตามรูปศัพท์ ความหมายจะคล้ายคลึงกันมาก

เมื่อพิจารณาตามความหมาย แทบจะมีความหมายเดียวกันด้วยซ้ำไป คือ การเกิดขึ้นของทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ล้วนมีเหตุ

กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า หลักธรรมทั้งสองประการนี้ คือหลักแห่งเหตุและผล หรือ ที่ฝรั่งเรียกว่าหลักแห่ง Causes and effects นั่นเอง

หลักการทั้งสองประการนี้ใช้แตกต่างกัน

หลักอิทัปปัจจยตา ใช้ในการมองสิ่งทั้งปวงทั้งที่เป็นนามและรูป ทั้งที่มีใจครองและไม่มีใจครองว่า ล้วนเกิดมาจากเหตุทั้งสิ้น เมื่อเหตุไม่มี ผลก็ไม่มี

ส่วนหลักปฏิจจสมุปปบาท ใช้ในการพิจารณากระบวนการเกิดกิเลสอันเป็นเหตุให้เกิดทุกข์และกระบวนการที่ไม่เกิดกิเลสอันเป็นแห่งการไม่เกิดแห่งทุกข์ เป็นการจำเพาะเจาะจงลงไป

ขณะเดียวกัน หลักแห่งอิทัปปัจจยตา ก็นำมาใช้ในการมองกระบวนการเกิดและไม่เกิดแห่งกิเลสอันเป็นเหตุแห่งความทุกข์และความไม่ทุกข์ได้ด้วย

ข้อแตกต่างระหว่าง อิทัปปัจจยตา กับ ปฏิจจสมุปปบาท จึงอยู่ที่ ปฏิจจสมุปปบาทใช้เป็นหลักพิจารณาเรื่องของการเกิดทุกข์และไม่เกิดแห่งทุกข์ แต่ อิทัปปัจจยตาใช้กับเรื่องราวต่างๆทั้งภายในและภายนอกชีวิต รวมถึงการมองสิ่งทั้งปวงตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ

เมื่อเข้าใจสิ่งทั้งปวงว่า มีเหตุเป็นแดนเกิด พิจารณาว่า อะไรเป็นเหตุแห่งความเสื่อม หรือ เหตุแห่งความทุกข์ ก็ไม่พึงประกอบสิ่งนั้น ไม่พึงกระทำสิ่งนั้น พึงหลีกเลี่ยงให้ไกลจากสิ่งนั้น แต่เมื่อใดพิจารณาเห็นว่า สิ่งนี้ เป็นเหตุแห่งความเจริญ เป็นเหตุแห่งความสุข พึงสะสมเพิ่มพูนสิ่งนั้นให้มากขึ้นมากขึ้น ตามกาลเวลาที่ผ่านไปเพื่อจะได้ดำรงชีวิตอย่างมีความสุขและเจริญรุ่งเรืองตามสมควรแก่เหตุที่ได้สะสมมานั้น

 

 

© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple