วัดพุทธปัญญา

บทความ\พิธีลอยบาป

พิธีลอยบาป

ลานธรรมวัดพุทธปัญญา ยังคงเปิดตามปกติ พุทธศาสนิกชนที่สนใจสนทนาธรรมแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนและสนทนามิได้ขาด อุบาสกท่านหนึ่งสนใจการศึกษาพระไตรปิฎกเป็นพิเศษ มาร่วมกิจกรรมวันอาทิตย์แล้ว ตั้งปัญหาถามว่า ท่านเคยได้ยินคำว่าการลอยบาปไหม พอจะทราบไหมว่า เขาทำกันอย่างไร

ประธานลานธรรมได้วิสัชชนาปัญหานี้ว่า เคยได้อ่านพบในพระไตรปิฎกบ้าง

อุบาสกถามต่อไปว่า พระไตรปิฎกระบุไว้อย่างไรบ้าง

ประธานลานธรรมได้อธิบายต่อไปว่า การลอยบาปเป็นพิธีกรรมชนิดหนึ่ง นิยมทำกันในสมัยพุทธกาล ดังที่ปรากฏในพระไตรปิฎกว่า สมัยหนึ่ง พราหมณ์คนหนึ่ง นุ่งห่มผ้าไหมผืนใหม่ เข้าเฝ้าถวายบังคมพระพุทธเจ้าแต่เช้าตรู่ พระองค์ทรงปฏิสันถารว่า พราหมณ์ ท่านมีธุระอะไรแต่เช้า

พราหมณ์กราบทูลพระองค์ว่า วันนี้เป็นวันอุโบสถ พราหมณ์ทั้งหลาย แต่งตัวด้วยผ้าไหมผืนใหม่ถืออุโบสถและพากันลอยบาป

พระพุทธเจ้าตรัสถามว่า การลอยบาปนั้นทำอย่างไร

พราหมณ์จึงกราบทูลว่า พราหมณ์ทั้งหลายจะสมาทานอุโบสถศีล พอตกลางคืนก็ทำพิธีลอยบาป ด้วยการนำเอาโคมัยสด หรือมูลโค มาลูบไล้ที่นอนแล้วปูด้วยหญ้าคา ก่อกองทรายไว้ใกล้ๆเรือนไฟที่บูชา นอนในที่นั้นจนกระทั่งเที่ยงคืน ก็ตื่นขึ้นมาทำพิธีลอยบาป ด้วยการนำเอาเนยใส เนยข้น และของหอมใส่เข้าไปในกองไฟแล้วท่องบ่นว่า ขอบาปจงลอยไปขอบาปจงลอยไป จนเสร็จพิธี

พระพุทธเจ้าตรัสว่า นั่น เป็นวิธีลอยบาปของพราหมณ์ เราก็มีวิธีลอยบาปของเรา

พราหมณ์ถามว่า พระองค์มีวิธีการลอยบาปอย่างไร

พระองค์ตรัสว่า บุคคลใดงดเว้น จากการฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม การพูดเท็จ พูดคำหยาบ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ เพ่งเล็งอยากได้สิ่งของของผู้อื่น พยาบาทปองร้ายผู้อื่น มิจฉาทิฏฐิ เห็นผิดจากทำนองคลองธรรม บุคคลนั้นได้ชื่อว่า ได้ลอยบาปเสียแล้ว

เมื่อเปรียบเทียบการลอยบาปในพระพุทธศาสนาและในศาสนาพราหมณ์ก็พบว่า การลอยบาปในศาสนาพราหมณ์เป็นการทำพิธีภายนอก แต่การลอยบาปในพระพุทธศาสนาเป็นการปฏิบัติลงไปที่กายวาจาใจ

การลอยบาปในศาสนาพรามหณ์ ต้องทำในวันอุโบสถเพียงวันเดียว แต่การลอยบาปในพระพุทธศาสนาทำได้ทุกวัน ทำแล้วบาปหมดไปทุกวัน

พระพุทธเจ้าทรงมีความสัมพันธ์อันดีต่อศาสนาอื่น ยอมสดับรับฟังพิธีกรรมของศาสนาอื่น ไม่ปฏิเสธหรือดูถูก ดูแคลนศาสนาอื่น แต่ทรงนำเสนอเรื่องเดียวกันที่ศาสนาอื่นกระทำอยู่ในมุมมองของพระองค์ให้ศาสนิกในศาสนาอื่นได้พิจารณา

ตามเรื่องราวในพระไตรปิฏกกล่าวไว้ว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสนอวิธีการลอยบาปของพระองค์ให้พราหมณ์ได้ทราบดังนั้น พราหมณ์นั้นฟังธรรมจบก็คุกเข่าพนมมือต่อหน้าพระองค์กล่าวสรรเสริญพระพุทธวจนะว่า พระวจนะของพระองค์ไพเราะยิ่งนัก ขอพระองค์ทรงจำข้าพเจ้าไว้ว่า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์กับพระธรรมและพระสงฆ์เป็นสรณะจนตลอดชีวิต

นี่คือความสัมพันธ์ระหว่างศาสนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความกรุณาต่อกันสุดท้ายเมื่อใคร่ครวญดีแล้ว ว่าสิ่งใดปฏิบัติล้างก่อให้เกิดประโยชน์สุข ก็ยอมรับสิ่งนั้นเข้าสู่วิถีปฏิบัติในชีวิตตนเองด้วยความเต็มใจ

 

 

© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple