6.ใจกับลมหายใจ
ั้ ลานธรรมวัดพุทธปัญญา เปิดสนทนาธรรมกับท่านที่สนใจธรรมจากทั่วทิศ วันหนึ่งอุบาสิกาท่านหนึ่ง มาเลี้ยงภัตตาหารเพลเป็นประจำทุกวันศุกร์ ได้ปรารภธรรมว่า กัลยาณมิตรบางคนแนะนำว่า การปฏิบัติธรรม ไม่ต้องทำอะไรมากหรอก แค่พิจารณาลมหายใจก็พอแล้ว บางคนแนะนำว่า แม้แต่ลมหายใจก็ไม่ต้องพิจารณา เพ่งใจอย่างเดียวก็พอ
ปัญหามีอยู่ว่า คำแนะนำของใคร ถูกต้อง คำแนะนำของใครไม่ถูกต้อง
จึงตอบปัญหาอุบาสิกาไปว่า เป็นคำแนะนำที่ถูกต้องทั้งคู่ ต่างกันเพียง แต่ละคนใช้อารมณ์ที่จะพิจารณาคนละอย่าง
คนที่แนะนำว่าให้พิจารณา หรือ เฝ้าดูลมหายใจก็พอ เน้นการพิจารณา กาย หรือรูป คือ กองลมเป็นอารมณ์ หากเพียงวางสติไว้ที่ลมหายใจไม่วอกแวกหวั่นไหวไปไหน จะเป็นสมถภาวนา คือ มุ่งพักใจ ไม่หวั่นไหว ไม่วุ่นวาย
หากพิจารณาถึง ความเคลื่อนไหว แห่งลมหายใจ ที่แสดงความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และผ่านไป ของการหายใจแต่ละครั้ง เห็น อนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา ก็จะเป็นวิปัสสนาภาวนา
คนที่แนะนำให้พิจารณา ใจเพียงอย่างเดียว ก็ถูกต้อง จะได้ทั้งสมถและวิปัสสนาเช่นกัน การพิจารณาให้เป็นสมถะคือ วางสติ ไว้ที่ใจ ไม่วางไว้ที่ไหน
ส่วนวิปัสสนา คือการมองลึกลงไปถึงความเคลื่อนไหวของใจ สิ่งที่เกิดขึ้นกับใจ ใจสงบ หรือใจวุ่นวาย ห่อเหี่ยว เศร้าหมอง หรือผ่องแผ้ว ตามดู ตามรู้ตามเห็นอย่างใกล้ชิด
ไม่ว่าจะพิจารณาลมหายใจ หรือพิจารณาใจ เป็นหลัก ผู้พิจารณาจะได้ปฏิบัติภาวนาทั้งสองอย่างเหมือนกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวก ความคุ้นเคย ความชำนาญในการฝึกฝนของแต่ละคน
เป้าหมายหลักของการฝึกฝนล้วนอยู่ที่ความสงบ สติมั่นคง มีปัญญา รู้เท่า รู้ทัน รู้กัน รูแก้ รู้แน่ รู้ชัด รู้สลัด รู้ปล่อย รู้วาง รู้ว่าง รู้สงบเย็น เป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้สะอาด สว่าง สงบ และเข้มแข็ง พร้อมที่จะเผชิญหน้า กับปัญหานานัปประการอย่างมั่นคง
© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple