53.จงกรม
คนที่เคยศึกษาประวัติของพระสาวกหรือพุทธประวัติมาอย่างคุ้นเคย จะพบว่า พระพุทธเจ้าและพระสาวกทั้งหลาย ล้วนออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ตามประวัติเล่าว่า ก่อนที่พระพุทธเจ้าและพระสาวกจะออกบิณฑบาตในแต่ละวัน ท่านจะต้องเดินจงกรมเสียก่อน การเดินจงกรมนี้แหละคือรูปแบบการออกกำลังในทางพระพุทธศาสนา
คำว่า จงกรม มีรากศัพท์จากภาษาบาลีว่า จังกะมะ แปลว่า การเดินไปเดินมา
เคยมีเด็กวัยรุ่นที่ไปฝึกภาวนา ซึ่งมีทั้งการเดิน ยืน นั่ง นอน ด้วยความรู้สึกตัวทั่วถึง ได้ตั้งคำถามตามประสาซื่อๆว่า การเดินไปเดินมา เหมือนคนหาของที่ตกหายไปนั้น อยากถามว่า การเดินจงกรมนี้เดินหาอะไรกันแน่
ขณะนั้นจิตบริสุทธิ์มากจึงตอบเด็กวัยรุ่นคนนั้นออกมาเป็นกลอนว่า เดินไปเดินมา ตามหาสติ ควบคุมดำริให้เกิดถูกต้อง เดินไปเดินมามีท่วงทำนอง เรียกตามครรลองว่าเดินจงกรม
คำตอบสั้นๆก็คือ การเดินจงกรมคือการเดินตามหาสติ
หากจะถามต่อว่า สติหายไปไหนเสียละ
ก็ต้องตอบว่า แต่ละคนเฝ้าดูเอาเองว่าหายไปไหน สังเกตดูว่า ถ้ากายกับใจอยู่พร้อมกันในขณะเดียวกัน ในที่เดียวกัน เรียกว่าสติยังอยู่ แต่ถ้ากายอยู่ที่หนึ่ง แต่ใจอยู่ที่หนึ่ง ก็กล่าวได้ว่า สติหายไปเสียแล้ว
มีคำๆหนึ่งที่พูดต่อๆกันมาว่า สติมาปัญญาเกิด สติเตลิดเกิดปัญหา เป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการดำรงอยู่แห่งสติที่รัดกุม
เคยพบพระรูปหนึ่งชื่อว่าพระมหาทองรัตน์ ท่านบอกว่า คำนี้ท่านประดิษฐ์ขึ้นมาเอง พระรูปนี้เป็นพระนักเทศน์ เป็นพระนักกลอน เทศน์สนุกสนาน ขนาดสามเณรที่ฟังท่านพูดหัวเราะจนตกเก้าอี้ทีเดียว ท่านเดินทางเผยแผ่ธรรมไปเรื่อยไม่ค่อยจะได้อยู่เป็นที่เป็นทางจึงบอกไม่ได้ว่าท่านอยู่วัดไหน
มีคำถามต่อไปว่า การเดินจงกรมนั้นเดินช้าๆหรือเดินเร็วๆ
คำตอบก็มีว่า เดินช้าหรือเดินเร็วก็ได้ ไม่มีลีลาตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับว่า สติจะรู้เท่าทันการเดินนั้นแค่ไหน ช้าหรือไวปรับได้ตามความเหมาะสม
เมื่อถามว่า เดินจงกรมมีประโยชน์อย่างไร
ขอยืมบทกลอนที่พระมหาเวียง ญาณนันโท แห่งวัดอุโมงค์เชียงใหม่มาเป็นคำตอบเพื่อง่ายแก่การจดจำ
ประโยชน์ของการเดินจงกรมคือ
เก่งเดินทางไกล ใฝ่เพียรสามารถ พิฆาตโรคด้วย ช่วยย่อยอาหาร สำราญการเดิน
เพลิดเพิลนความคิด จิตเบาสบาย
ประโยชน์ของการเดินจงกรมที่เกี่ยวกับสุขภาพ ก็มีสองข้อคือ พิฆาตโรค และจิตเบาสบาย
คำว่า พิฆาตโรค ก็คือ โรคที่เป็นอยู่แล้วบางชนิดที่ต้องการการออกกำลังแล้วจึงจะทุเลาเบาบางลงไปได้เช่น ความดันสูง ถ้าหมั่นออกกำลังก็จะทำให้ความดันปกติได้ในเวลาอันรวดเร็ว น้ำตาลสูง ถ้าหมั่นออกกำลังสม่ำเสมอก็จะลดลงอยู่ในระดับปกติโดยเร็ว ไขมันสูงก็จะช่วยให้ลดลงสู่ภาวะปกติได้
การออกกำลังจึงเป็นพื้นฐานสำคัญในการดูแลรักษาสุขภาพกายให้ปกติ การเดินจงกรมอย่างต่อเนื่องไม่หยุดเป็นเวลานานๆนอกจากจะได้ความเบาใจไม่ปรุงแต่งไม่ฟุ้งซ่านแล้วก็เป็นการออกกำลังอย่างดีอีกทางหนึ่ง
มีเรื่องเล่าว่า คราวหนึ่งพระพุทธเจ้าได้นำพระสงฆ์จำนวนหลายร้อยรูปไปจำพรรษาที่เมืองเวสาลี ประชาชนถวายภัตตาหารอย่างประณีตสม่ำเสมอ เวลาผ่านไปไม่นาน พระสงฆ์พากันอาพาธชนิดสามวันดีสี่วันไข้ไม่ได้หยุด หมอชีวก โกมารภัจจ์ เห็นดังนั้นก็กราบทูลพระพุทธเจ้าว่า ขอให้พระสงฆ์ทุกรูปเดินจงกรมให้มากและอบตัวในเรือนไฟให้เหงื่อออกมากๆ
พระพุทธเจ้ารับสั่งให้พระสงฆ์ปฏิบัติตามที่หมอชีวกสั่ง พระสงฆ์ได้ปฏิบัติตามทุกอย่างครบถ้วน ไม่ช้าพระสงฆ์ก็หายจากอาการอาพาธโดยทั่วกัน
พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาจึงใช้วิธีการเดินจงกรมเป็นการออกกำลังกาย ซึ่งแตกต่างออกมาจากฤษีชีไพรและพวกพราหมณ์ ที่ใช้การทำโยคะมาเป็นการออกกำลังกาย ส่วนญาติโยมประสงค์ความเบากายเบาใจ จะออกกำลังโดยวิธีไหนก็เลือกตามสะดวกและโปรดปราน ขอเป็นกำลังใจอวยพรให้ทุกคนสุขภาพดีทั่วหน้า
© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple