50.กายกับใจ
เวลาที่พุทธศาสนิกชนพบพระสงฆ์ตามวัดวาอารามหรือในที่ที่เหมาะสม ก็มักจะสนทนาธรรมด้วยเสมอ เพราะพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า การสนทนาธรรมตามกาลเวลาที่เหมาะสมเป็นมงคลอันสูงสุด ผู้ที่รักจะสร้างมงคลชีวิตให้แก่ตน ก็มักจะหาโอกาสสนทนาธรรมอย่างสม่ำเสมอ
คำถามที่พระสงฆ์มักจะถูกพุทธศาสนิกชนถามบ่อยๆก็คือ สมาธิคือ อะไร หรือทำสมาธิแบบง่ายๆจะทำอย่างไร หากเป็นชาวต่างประเทศที่ได้ศึกษาธรรมะมาบ้างแล้วก็ ถามว่าจะทำสมาธิได้ที่ไหนบ้าง สมาธิจะคลายเครียดได้มากน้อยแค่ไหน
ประสบการณ์อย่างนี้ชี้ให้เห็นว่า ชาวพุทธไทยหรือแม้แต่ศาสนิกอื่นก็สนใจในเรื่องของสมาธิ หากมองดูถึงวิวัฒนาการของความสนใจเรื่องสมาธิของมนุษย์ที่มีมาอย่างยาวนานก็พบว่าแต่ละศาสนาก็มีวิธีการทำสมาธิของตนๆของตนอยู่แล้ว
ชาวคริสต์ที่เคร่งครัดจะอ่านข้อความในคัมภีร์ไบเบิ้ลทุกวัน คนที่มีเวลาบางคนก็อ่านจนจบเล่มก็มี วันอาทิตย์ก็จะไปสวดอ้อนวอนพระเจ้าในโบสถ์ต่อไปอีก สิ่งเหล่านี้คือการทำใจให้เป็นสมาธิของชาวคริสต์
ชาวอิสลามหรือชาวยิวที่มีแหล่งกำเนิดสายธารแห่งวัฒนธรรมทางจิตวิญญาณ ไม่ห่างกันนัก ก็จะมีพิธีนมัสการพระเจ้าถึงวันละห้าครั้ง การน้อมจิตไปหาพระเจ้าโดยไม่ส่งไปที่ไหนเลยนั้นแหละคือช่วงเวลาของการทำสมาธิ
ชาวพุทธที่เคร่งครัดก็จะมีการสวดมนต์ทำวัตรเช้าเย็น จะสั้นหรือยาวก็ขึ้นอยู่กับเวลาและสถานการณ์ จากนั้นก็นั่งสมาธิต่อระยะหนึ่ง บางท่านไม่มีเวลานานก็กราบพระสามครั้งตั้งใจระลึกถึงพระกรุณาธิคุณ วิสุทธิคุณ และพระปัญญาคุณ แล้วก็ออกไปทำภารกิจด้วยจิตใจที่มั่นคงแช่มชื่นเบิกบาน
นี้คือ สิ่งที่เหมือนกันของทุกศาสนา แม้วิธีการจะแตกต่างกัน แต่เป้าหมายอยู่ที่การทำใจให้สงบเหมือนกัน
เวลาใครถามว่า สมาธิคืออะไร ก็มักจะตอบตามความเห็นส่วนตัวว่า เมื่อใดกายกับใจอยู่ด้วยกัน เมื่อนั้น สมาธิก็ปรากฎ การทำสิ่งใดก็ตามที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้กายกับใจอยู่ด้วยกัน การกระทำอย่างนั้นเรียกว่า ทำสมาธิ
การทำสมาธิจึงไม่จำกัดอยู่เพียง วิธีการใดวิธีการหนึ่งอย่างตายตัว แต่การกระทำใดๆที่ไม่เบียเเบียนตนเอง และผู้อื่น พร้อมทั้งเป็นการกระทำที่จะนำกายกับใจมาอยู่ร่วมกันได้ การกระทำนั้นๆ ควรเป็นการทำสมาธิ
คนไทยคุ้นเคยอยู่กับเรื่องสมาธิ จนกลายเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวันเสียแล้ว เช่นคำพูดที่พ่อแม่ บอกลูกบอกหลานว่า ตั้งใจทำให้ดีๆนะ ตั้งใจเรียนนะ ตั้งใจฟังนะ ตั้งใจกินข้าวหน่อยนะ
คำว่าตั้งใจ ก็คือ จิตที่ตั้งมั่นเป็นสมาธินั้นเอง
ชาวพุทธจึงสอนลูกสอนหลานมานานว่า ต้องมีสมาธิในการทำงานทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องนั้นจะยากหรือง่าย ถ้าตั้งใจทำย่อมสำเร็จ ผลของการกระทำล้วนออกมาดี
อีกคำหนึ่งที่มีความหมายว่าสมาธิเหมือนกันคือใส่ใจ เวลาปรุงอาหารทุกชนิด แม้ใส่เครื่องปรุงลงไปครบครัน ถ้าเวลาทำไม่ได้ใส่ใจลงไปด้วย อาหารที่ออกมายังไม่อร่อยถึงที่สุด แต่ถ้าใส่ใจลงไปแล้ว ถือว่าเป็นการทำให้เครื่องปรุงสมบูรณ์ที่สุด ใจจึงเป็นเครื่องชูรสที่ควรใส่ลงไปทุกครั้งเวลาทำอาหาร
ใจปกติ ก็เป็นลักษณะของสมาธิเหมือนกัน สังเกตง่ายๆเวลารับประทานอาหารในแต่ละมื้อ ถ้าก่อนหรือกำลังรับประทานอาหาร รู้สึกดีใจเกินไป หรือเสียใจเกินไป รับประทานอาหารไม่ลง เพราะใจไม่ปกติ แต่ถ้าเวลาปกติไม่ดีใจหรือเสียใจจนเกินไป ไม่ว่าอาหารจะมากหรือน้อยก็รับประทานได้อร่อย
เวลาที่เสียใจหรือดีใจ ไปทำงานหรือไปรับประทานอาหาร ไม่รู้สึกเพลิดเพลินหรืออร่อย เพราะกายทำไปอย่างเดียว แต่ใจไปอยู่กับเรื่องที่ดีใจหรือเสียใจนั้นแทนที่จะมาอยู่กับเรื่องที่กำลังกระทำอยู่
ใจที่เป็นสมาธิ จะเรียกว่าอย่างไรก็ตาม ให้รู้สึกว่าอบอุ่นเป็นกันเอง ไม่น่ากลัวหรือขรึมขลังจนเกินไป เป็นใจที่มีคุณค่ามาก แต่ใจที่ขาดสมาธิ ขาดความปกติ จะมองสิ่งต่างๆอย่างไร้ค่า บางคนที่จิตขาดสมาธิอย่างรุนแรงก็มองตนเองอย่างไร้ค่า ถึงกับฆ่าตัวตายก็มี
เวลาที่รู้สึกยุ่งยากสับสน อย่าตะบี้ตะบันลุยทำสิ่งใดๆไปจนลืมตัวเอง หาเวลาสงบใจ เชื้อเชิญใจที่เตลิดเปิดเปิงให้มาอยู่กับกาย เมื่อใจอยู่กับกายนานๆ ใจเริ่มได้พักผ่อน จากการเร่ร่อนไปอย่างไม่มีจุดหมาย
พอจิตอยู่กับกายอย่างสนิทสนม จะเริ่มเห็นคุณค่าของชีวิต เห็นความสามารถที่มีอยู่ เห็นคุณค่าของสิ่งที่ตนเองได้สร้างสรรค์ขึ้นมา เห็นคุณค่าของคุณพ่อคุณแม่ที่ได้อุตส่าห์ประคับประคองเลี้ยงดูอย่างทุ่มเท เพื่อให้ชีวิตลูกเติบโตอย่างเป็นสุข
เมื่อมองไปตรงไหนก็รู้สึกเห็นคุณค่า ความปลาบปลื้มก็จะปรากฎขึ้น ความปลาบปลื้มเป็นอาหารชีวิตอย่างหนึ่งที่สำคัญ หากเราสร้างความดี เห็นค่าของความดีจนปลาบปลื้ม นั้นแหละ เราได้รับรางวัลแห่งความดีนั้นแล้ว บอกกับตนเองเสมอว่า ปลื้มใจครั้งหนึ่งขึ้นสวรรค์ครั้งหนึ่งเลยทีเดียว
เมื่อกายกับใจ อยู่ด้วยกัน เคลื่อนไหวไปด้วยกันอย่างสัมพันธ์เชื่อมโยง ขวัญ กำลังใจก็จะเกิดขึ้นอย่างเต็มเปี่ยม นี้แหละคือลักษณะของจิตใจที่เป็นสมาธิละ รู้ เข้าใจทำไปเรื่อยๆ ความผ่อนคลาย ปีติสุข สงบ จะเกิดขึ้นได้ ไม่จำกัดเวลาและสถานที่เลย เพราะกายกับใจอยู่ด้วยกันเมื่อไร สมาธิก็เกิดขึ้นเมื่อนั้น
© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple