วัดพุทธปัญญา

บทความ\31.พอใจในสิ่งที่มี

31.พอใจในสิ่งที่มี

พระพุทธเจ้าตรัสว่า สันตุฏฐี ปะระมัง ธะนัง ความพอใจในสิ่งที่มีอยู่ เป็นทรัพย์อันสูงสุด พระพุทธวจนะนี้ชี้ให้เห็นว่า ความพอใจ คือทรัพย์สมบัติที่สำคัญของมนุษย์ หากมนุษย์มีข้าวของ เงินทองเพชรพลอยมากมายแต่ยังไม่รู้สึกพอใจ สิ่งเหล่านั้นก็เป็นเพียงทรัพย์สินธรรมดา ยังไม่เป็นทรัพย์อันสูงสุด เพราะเมื่อความยินดี พอใจ ยังไม่เกิด ความสุขก็ยังไม่เกิด

พระพุทธเจ้าตรัสว่า ความสุขเบื้องต้นที่ผู้ครองเรือนพึงมีคือ ความสุขอันเกิดจากการทำงานที่สุจริต ความสุขอันเกิดจาก การมีทรัพย์ ความสุขอันเกิดจากการใช้จ่ายทรัพย์ และความสุขอันเกิดจากการไม่มีหนี้

ความสุขดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ด้วยความพอใจในสิ่งที่มีอยู่ หากไม่มีความพอใจกับสิ่งที่มีอยู่เฉพาะหน้า มีความอยากเข้ามาเป็นพลังขับเคลื่อนมีความทะเยอทะยานอยากได้สิ่งต่างๆมาครอบครองยิ่งๆขึ้นไป แม้มีมากเท่าไร ก็ไม่รู้สึกพอใจ คอยปรุงแต่งเรื่องที่จะได้สิ่งของมาเป็นของตนตลอดเวลา อาจจะมีทรัพย์สินมากมายก่ายกอง แต่อาจจะหาความสุขไม่พบ เพราะเมื่อใจไม่รู้จักพอก็ไม่ได้พัก เมื่อใจไม่ได้พักเอาแต่ปรุงแต่ ความเครียดอันเกิดจากการปรุงแต่งมีอยู่เป็นประจำ

ความคิด ความฝัน ความหวัง การปรุงแต่งทั้งปวง ไม่ว่าจะสำเร็จ หรือไม่สำเร็จ ล้วนทำให้จิตใจเหน็ดเหนื่อย ที่แสดงอาการออกมาเป็นความเครียดที่ใครๆเขาชอบบ่นกันเมื่อพบหน้ากัน นั่นแหละ ต่างคนต่างฝัน ต่างคนต่างหวัง จึงต่างคนต่างเครียด

แม้แต่คำว่า ทรัพย์ ในทางพระพุทธศาสนาก็แปลว่า ความพอใจ เมื่อครอบครองวัตถุสิ่งของใดๆแล้วรู้สึกพอใจชื่นใจ อิ่มใจ ก็เรียกว่า เป็นผู้มีทรัพย์

การครอบครองวัตถุในชีวิตของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป เพราะความจำเป็นไม่เท่ากัน เสื้อผ้าที่สวมใส่ขนาดไม่เท่ากัน อาหารที่รับประทานของแต่ละคนปริมาณไม่เท่ากัน แต่เมื่อความพอใจในสิ่งที่มีอยู่เกิดขึ้น ความสุขย่อมมีเท่ากัน ความพอใจ เกิดขึ้นกี่ครั้ง ความสุขก็จะตามมาเท่านั้น

มนุษย์เกิดมาอาจจะมีสิทธิ์ครองทรัพย์สินสมบัติแตกต่างกัน แต่ทุกคนมีสิทธิ์ครอบครองความพอใจ ในวิสัยที่ตนฝึกดีแล้วได้เท่าๆกัน

เพราะฉะนั้นเวลาที่พระพุทธเจ้าตรัสถึงเรื่องทรัพย์สิน พระองค์มิได้ทรงยกย่องสิ่งใดว่าเป็นทรัพย์สินสูงสุดนอกจาความสันโดษ เพราะความสันโดษเป็นทรัพย์ที่ทุกคนมิสิทธิ์ที่จะครอบครองได้เท่าๆกัน

เมื่อใดที่ได้รับวัตถุสิ่งของเข้ามาไว้ใช้สอย หากใส่ความยินดีลงไป พอใจกับสิ่งที่มีนั้น วัตถุสิ่งของนั้นจะกลายเป็นทรัพย์อันประเสริฐไปในทันที ขณะใดมีความพอใจกับงานที่กำลังกระทอยู่ กับโอกาสที่ได้กระทำประโยชน์ให้ผู้อื่น โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆมาขวางกั้น ขณะนั้น ได้ขึ้นสวรรค์ทั้งเป็น เพราะคำว่าสวรรค์ แปลว่ายอดแห่งความสุข

 

© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple