29.พระพุทธรูป
หลังจากงานพัทธสีมาสาธิต ฝังลูกนิมิตวัดพุทธปัญญา ผ่านไปแล้ว พุทธศาสนิกชนมักจะพากันมาทำบุญที่วัดพุทธปัญญามิได้ขาด ท่านที่เพิ่งจะมาเป็นครั้งแรกหลายท่าน เมื่อเข้าไปในอุโบสถ เห็นพระประธานองค์เล็กวางอยู่มักจะถามว่า ไม่มีพระประธานหรือ เมื่อแนะนำว่า พระประธานตั้งอยู่ที่แท่นบูชาน้อยนั่นไง ท่านผู้นั้นก็จะถามกลับมาว่า ทำไมเล็กจัง น่าจะมีพระประธานที่ใหญ่กว่านี้
เจ้าอาวาสได้อธิบายให้ทุกคนได้ทราบว่า จุดประสงค์แห่งการสร้างพระพุทธรูปแต่โบราณกาลล้วนมุ่งสู่ประเด็นที่ว่า พระพุทธรูปจะเป็นสัญลักษณ์แห่ง พระพุทธคุณ สามประการคือ พระกรุณาคุณ พระวิสุทธิคุณ และพระปัญญาคุณของพระพุทธเจ้า
เมื่อเข้าใจหลักการสำคัญของการสร้างพระพุทธรูปเช่นนี้แล้ว จะประจักษ์ถึงความจริงอีกประการหนึ่งว่า พระพุทธคุณของพระพุทธเจ้า ไม่ขึ้นอยู่กับขนาดของพระพุทธรูปว่า ถ้าองค์พระพุทธรูปเล็ก จะมีพระพุทธคุณน้อย ถ้าองค์พระพุทธรูปองค์ใหญ่ จะมีพระคุณมาก แต่พระพุทธคุณของพระพุทธเจ้ามีเท่ากัน ไม่มีลด ไม่มีเพิ่มไปตามขนาดของพระพุทธรูปดังที่หลายๆคนเข้าใจ
พระพุทธรูปเป็นเครื่องเตือนใจ เป็นพุทธานุสติให้รำลึกถึงพระพุทธคุณทั้งสามประการ และพระคุณดังกล่าว มิได้สถิตอยู่ที่พระพุทธรูป แต่อยู่ในใจของทุกคนแล้ว ดังคติของชาวพุทธฝ่ายมหายานที่เน้นย้ำเป็นหนักหนาว่า พืชพันธุ์แห่งพุทธภาวะมีในใจของทุกคนพร้อมที่จะเติบโตและเบ่งบานได้เสมอเมื่อถึงเวลาอันสมควร
หากใครได้ไปเที่ยวที่สวนโมกข์มักจะได้พบคติธรรมที่ว่า พระพุทธองค์สถิตอยู่เบื้องหลังของกิเลส นั่นก็หมายความว่า จิตใจที่ห่อหุ้มไปด้วยกิเลสนั้นมีเชื้อแห่งความเป็นพุทธคือความสะอาด สว่างและสงบอยู่ทั้งนั้น เมื่อใด ขณะใด นาทีใด ชั่วโมงใด วันใด ปีใด และเดือนใด ที่กิเลสอันพอกใจนั้นถูกปอกกระเทาะหลุดร่วงสลายไป พุทธจิตอันสะอาดบริสุทธิ์ก็จะปรากฏออกมาทันที
หากพิจารณาว่า พระพุทธรูปเป็นสื่อแห่งพุทธานุสติ ที่ประกอบด้วยพระมหากรุณาคุณ พระวิสุทธิคุณ และพระปัญญาคุณ เมื่อพุทธบริษัทกราบไว้ พึงระลึกถึงพระพคุณทั้งสามทุกครั้ง เป็นการกระตุ้นเตือนตอกย้ำให้ใช้ ความกรุณา บริสุทธิ์ และปัญญา ที่ตนมีอยู่ในการนำพาชีวิต ทุกครั้งที่กราบไหว้พระหากได้ระลึกถึงเช่นนี้ พระพุทธคุณก็จะมาประทับอยู่กับจิตใจทุกครั้ง เมื่อได้มองเห็นความทุกข์ยากแห่งสรรพสัตว์ทั้งหลายจากน้ำใสใจจริง หรือเมื่อใดจิตนิ่งได้พบกับความว่างบ้างชั่วครั้งชั่วคราว และใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองอย่างถ้วนถี่ในการทำ การพูด และการคิด ก็จะได้ชื่อว่า พบพระพุทธเจ้าพระองค์จริง เพราะพระองค์ตรัสไว้ก่อนจะปรินิพพานว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา
เมื่อเข้าใจความหมายของพระพุทธรูปอย่างถูกต้องว่า พระพุทธรูปขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ล้วนให้ความหมายแห่งพระพุทธคุณเท่ากัน หากทำความเข้าใจถึงพระคุณอย่างถ่องแท้ จะพบว่า พระพุทธปฏิมาเป็นประตูสู่พระพุทธเจ้าพระองค์จริง
แต่ถ้ามองพระพุทธรูปที่วัสดุที่นำมาก่อสร้าง เช่นทองเหลือง ทองคำ ปูน อิฐ สัมฤทธิ์หรือเงิน หรือมองที่ขนาดว่า องค์เล็ก หรือองค์ใหญ่ แล้วบรรจุความศักดิ์สิทธิ์ อิทธฤทธิ์ต่างๆเข้าไปด้วย แทนที่พระพุทธรูปจะเป็นประตูสู่การพบพระพุทธเจ้าพระองค์จริง กลับกลายเป็นพระพุทธรูปบังพระพุทธเจ้า ดังที่ท่านอาจารย์พุทธทาสเคยกล่าวไว้ไม่มีผิด
กราบพระพุทธรูปทุกครั้งแล้วย้อนกลับมาดูพระพุทธคุณที่ตัวเราจึงจะได้รับประโยชน์จากการมีพระพุทธรูปอย่างสูงส่ง ใครจะมีพระพุทธรูปมากมายเพียงใด หรือสร้างด้วยอะไรก็ทำได้กันตามอัธยาศัย ไม่มีใครห้ามปราม เพียงแต่ตระหนักย้ำเสมอว่า อย่าให้พระพุทธปฏิมาบังพระพุทธเจ้า องค์จริงเป็นการเพียงพอ
© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple