23.ธรรมะในสวน
เมื่อสามปีที่ผ่านมา พระสงฆ์จากวัดพุทธปัญญา มาบิณฑบาตรที่ไทยแลนด์พลาซ่าแล้ว ได้เดินทางขึ้นมาที่กริฟฟิตพาร์ค ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับไทยแลนด์พลาซ่านั้นเอง เมื่อพบสวนสาธารณะแห่งนี้ มีจุดที่ร่มรื่นน่านั่งพักผ่อนอยู่หลายจุด ก็ได้เลือกจุดๆหนึ่งที่เขาเรียงหินไว้เป็นชั้นๆขึ้นไปตามไหล่เขา รอบๆบริเวณนั้นมีต้นไม้ให้ร่มเงาอย่างร่มรื่นชวนให้ผู้ที่มาเยือนสัมผัสได้ถึงความสดชื่นน่ารื่นรมย์ยิ่งนัก มองๆไปช่างละม้ายคล้ายๆหินโค้งที่สนวนโมกข์เสียเหลือเกิน
วันนั้นมีญาติโยมที่คุ้นเคยกับวัดพุทธปัญญา หิ้วอาหารขึ้นไปถวายอีกประมาณห้าหกคน ทั้งพระสงฆ์และญาติโยมพอใจบรรยากาศแวดลอ้มที่ร่มรื่นกันยิ่งนัก จึงวางข้าวปลาอาหารไว้บนโต๊ะที่ทางพาร์คเตรียมไว้ให้คนที่ไปเยี่ยมเยือนได้นั่ง
บรรยากาศเป็นใจ ทั้งพระสงฆ์และญาติโยมพากันสวดมนต์ นั่งสมาธิและแสดงธรรม เพื่อสร้างบุญตามบุญกิริยาวัตถุอย่างครบครัน เมื่อนั่งสงบใจ ทำให้คิดถึงบรรยากาศในสมัยพุทธกาลที่พระพุทธเจ้า ประสูติใต้ต้นไม้ ที่เรียกว่าต้นสาละ ตรัสรู้ใต้ต้นไม้ที่เรียกว่า ต้นศรีมหาโพธิ์ และปรินิพพานใต้ต้นนางรังทั้งคู่ เมื่อยังทรงพระชนม์อยู่มักจะทรงแสดงธรรมใต้ร่มไม้อันร่มรื่นสม่ำเสมอ
ชีวิตพระพุทธจ้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติตลอดเวลาจนสิ้นพระชนม์ชีพ เมื่อเราได้มานั่งใต้ต้นไม้ใกล้ชิดธรรมชาติก็เปรียบเสมือนว่า เราได้นั่งใกล้ชิดพระพุทธเจ้า เมื่อได้ศึกษาธรรมะในบรรยากาศที่ใกล้ชิดกับพระพุทธเจ้า ก็ทำให้เข้าใจธรรมะของพระองค์ได้ง่ายขึ้น เพราะธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงล้วนเกี่ยวข้องกับธรรมชาติทั้งสิ้น
พระสงฆ์และอุบาสกอุบาสิกาจึงได้นัดกันมา สมาทานศีล ฟังธรรม เจริญสมาธิภาวนา ตักบาตรรถวายสังฆทานกันเป็นประจำทุกวันเสาร์ คนที่มาร่วมกิจกรรมส่วนใหญ่ก็มาด้วยจิตใจที่ใฝ่ธรรมล้วนๆเพราะหัวใจสำคัญของกิจกรรมธรรมะในสวนที่กริฟฟิตพาร์คคือ การแสดงธรรม ศึกษาธรรม และปฏิบัติธรรมเท่านั้นไม่มีความบันเทิงใดๆเจือปน
เนื่องจากทุกคนยกย่องบูชาธรรมะเป็นเป้าหมายของการมาศึกษาและปฏิบัติจึงเรียกกลุ่มของผู้ใฝ่ธรรมกลุ่มนี้ว่า ชุมชนคนรักธรรม
หัวใจของชุมชนอยู่ที่การรวมตัวกันด้วยหัวใจที่มีความเมตตากรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันเป็นที่ตั้ง ทุกคนออกจากบ้านมาศึกษาธรรมะในสวนด้วยความเต็มใจ ไม่มีใครเชิญชวน ไม่มีแรงจูงใจ แต่ทุกคนเปิดหัวใจ เดินเข้ามาร่วมด้วยความเต็มใจเพื่อเติมเต็มความเป็นมิตรภาพต่อกัน
ชุมชนคนรักธรรม หรือผู้ใฝ่ธรรมในสวน เป็นกลุ่มคนที่รวมตัวกันด้วยหัวใจด้วยความเรียบง่ายไร้ระบบ ไร้กฎเกณฑ์ ไม่มีคณะกรรมการรับผิดชอบงานใดงานหนึ่งโดยเฉพาะ แต่เมื่อมีงานใดเกิดขึ้นมาทุกคนอาสาสมัครเสียสละกำลังกายกำลังใจและกำลังทรัพย์ โดยไม่ต้องเอ่ยปากเชิญชวนหรือไม่มีใครสั่งการแต่อย่างใด ทุกอย่างดำเนินไปเพราะใจสั่งมา
กำหนดการเคร่าๆที่แฟนพันธุ์แท้รู้กันโดยทั่วไปคือ เวลา 10.00 น. ดร.พระมหาจรรยา สุทฺธิญาโณ แสดงปาฐกถาธรรม ตามที่พุทธศาสนิกชนปรารถนาจะศึกษาเรียนรู้เพื่อทำความเข้าใจธรรมะในพระพุทธศาสนาอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง เมื่อฟังธรรมเสร็จแล้วทุกคนที่ไปร่วมฟังธรรมก็จะร่วมกันตักบาตร ซึ่งดำเนินไปอย่างง่ายๆ เมื่อตักบาตรเสร็จแล้วกล่าวคำถวายทานและกรวดน้ำเป็นลำดับไป
เมื่อพระสงฆ์รับทานจากพุทธบริษัทแล้ว ก็ตักอาหารใส่บาตรตามที่เห็นว่าฉันได้พอดีไม่เหลือทิ้งขว้าง เน้นการฉันอาหารอย่างเห็นคุณค่า จากนั้นพระสงฆ์ก็จะอนุญาตพุทธศาสนิกชนให้รับประทานอาหารในส่วนที่เหลือ ไม่มีบาปไม่มีเวร เพราะพระสงฆ์รับแต่พอฉันแล้วเสียสละให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันรับประทานต่อไป
เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ใครมีประเด็นปัญหาอะไร ที่นำมาสนทนาแล้วประเทืองปัญญา ส่งเสริมความรู้ตื่นเบิกบานตามรอยบาทพระศาสดา ก็นำมาสนทนากันต่ออย่างอบอุ่นฉันกัลยาณมิตร หรือใครมีธุระก็อำลากลับไปก่อน ใครมีเวลาจะสนทนาต่อก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด
ทุกคนใช้เวลาสนทนากับคนรู้ใจกันอย่างสดใสชื่นบานแล้ว ก็จะตั้งวงกันใหม่อีกครั้งหนึ่ง เพื่อตอบปัญาหาธรรมะบางประเด็นที่ยังไม่เข้าใจ ให้เข้าใจชัดเจนขึ้น เป็นการถามตอบกันอย่างเสรีไม่มีข้อจำกัดใดๆเพราะทุกคนที่ไปร่วมธรรมะในสวนล้วนเป็นสุภาพชน คำถามส่วนใหญ่จึงเป็นไปเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้มากกว่า การชิงไหวชิงพริบหรือข่มขี่ข่มเหงกัน
แดดร่มลมตกต่างคนก็ต่างอำลากันไป ที่นี้เป็นเขตปลอดการซื้อขายหรือทำธุรกิจทุกชนิด ทุกคนต้องการสื่อธรรมะแบบไหนจะเป็นซีดีหรือเป็นหนังสือเพื่ออ่านเองหรือรับไปแจกเพื่อนได้ฟรีๆ ไม่มีการแจกซองเรี่ยไร ใครจะทำบุญบำรุงพระศาสนาก็ออกมาจากใจ ไม่มีแรงจูงใจหรือเร้าใจ แต่ทุกอย่างทำไปด้วยดุลพินิจที่ประกอบด้วยปัญญา
สามปีผ่านไปธรรมะในสวนยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างช้าๆเป็นที่พบปะมิตรสหาย เป็นที่ผ่อนคลายจากความเครียด เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นกลุ่มชาวพุทธที่ใฝ่ธรรม ที่ฟังธรรมในบรรยากาศที่ละม้ายคล้ายยุคพุทธกาล เป็นที่ฟอกปอด เป็นที่ฟอกใจ ที่ใครๆสามารถเดินเข้าไปร่วมได้อย่างสบายใจ ปัจจุบันนี้มีผู้ร่วมกิจกรรมประจำระหว่าง 60-80 คนเป็นประจำทุกวันเสาร์
ขาประจำหลายคนมีภารกิจติดธุระไม่ได้มาร่วมนานๆ พวกเราชาวชุมชนคนรักธรรมขอกระซิบเบาๆว่า ว่างเมื่อไรให้รีบกลับ พวกเรายังคอยวันท่านกลับร่วมรับรู้และจรรโลงธรรมด้วยความคิดถึงตลอดเวลา
© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple