22. ธรรมะในทุกอิริยาบถ
ลานธรรมแห่งวัดพุทธปัญญา เปิดอยู่เป็นประจำ แต่วันที่คนมามากเห็นจะเป็นวันอาทิตย์เหมือนๆกับวัดทั่วๆไปนั้นแหละ ตอนนี้มีรายการพิเศษเรื่องสุขภาพทุกวันอาทิตย์ตอนบ่าย โดยคุณหมอเทียนทองจะมาให้คำปรึกษาเรื่องสุขภาพอย่างเป็นกันเอง ตอบทุกปัญหา ส่วนประธานลานธรรม ก็ยังคงตอบปัญหาธรรมะตามปกติ
สัปดาห์นี้มีผู้ถามว่า จะปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวันอย่างไร
ท่านประธานลานธรรมขยับจีวรให้กระชับแล้วตอบอย่างฉะฉานว่า การปฏิบัติธรรมกระทำได้ในทุกอิริยาบถ ไม่จำกัดกาล เวลา และสถานที่
เมื่อพูดถึงการปฏิบัติธรรมจะมีสองส่วนคือ ส่วนที่เป็นการฝึกฝน และส่วนที่ปฏิบัติจริง
เวลาที่ได้รับข่าวว่า วัดพุทธปัญญาจัดให้มีการเจริญภาวนา หรือวัดป่าธรรมชาติจัดให้มีการเจริญภาวนาเป็นเวลา สามวัน ห้าวัน หรือเจ็ดวัน ทุกคนที่ไปร่วมก็ตั้งใจทำอย่างเต็มที่ ได้รับความสุขสงบจากการกระทำนั้นอย่างเต็มที่
ส่วนนี้เรียกว่า ส่วนที่ฝึกฝน
มีปัญหาว่า เมื่อออกจากวัดไปแล้ว จะทำอย่างไรต่อไป
ครูอาจารย์มักจะบอกกล่าวผู้มาฝึกโดยทั่วไปว่า ฝึกแล้วอย่าทิ้งไว้ที่วัดนะ หมายความว่า เวลามาฝึกภาวนา ก็คือเริ่มต้นที่ฝึกสติ เมื่อฝึกสติได้มากแล้วก็นำเอาสตินั้นไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง
การฝึกที่วัดมักจะมีการฝึกแบบ ให้มีสติรู้สึกตัวทั่วถึง ในเวลาที่ ยืน เดิน นั่ง และนอน การฝึกที่วัดมักจะไม่มีอะไรมากระทบ หรือกวนใจเหมือนข้างนอก ทำให้การฝึกเป็นไปได้ง่าย ส่วนการดำรงชีวิตประจำวันมีเรื่องราวมากมายที่จรเข้ามาโดยไม่ได้เชื้อเชิญหรือต้องต้อนรับเพราะจำเป็นต่อชีวิตและการงาน
การปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวันจึงอยู่ที่การวางสติไว้ที่ความเคลื่อนไหว
อยู่ที่วัด ก็มีความเคลื่อนไหว อยู่ที่บ้านก็มีความเคลื่อนไหว นี้คือจุดร่วมของ การดำเนินชีวิตและปฏิบัติธรรมที่ทำได้เหมือนกัน
ตั้งใจไว้ว่า ณ ที่ไหนมีความเคลื่อนไหว กาย วาจา และใจ เราวางสติไว้ ณ ที่นั้น
สติ คือ ความรู้สึกตัว ก่อนที่จะทำ ก่อนที่จะพูด และก่อนที่จะคิด
สัมปชัญญะ คือ ความรู้สึกตัว ขณะกำลังทำ ขณะกำลังพูด ขณะกำลังคิด
อัญเชิญพระธรรมทั้งสองประการนี้มาสถิตไว้ในทุกความเคลื่อนไหว ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ทุกความเคลื่อนไหวนอกจากจะเป็นการทำงานเพื่อการยังชีพแล้ว ยังเป็นการฝึกฝนและเพิ่มพูนสมรรถนะแห่งสติและสัมปชัญญะ คือความรู้สึกตัวทั่วถึงให้มากยิ่งๆขึ้นไป
ท่านอาจารย์พุทธทาสเคยกล่าวไว้ว่า การทำงานคือการปฏิบัติธรรม ก็คือการทำงานไปด้วย เจริญสติและสัมปชัญญะไปด้วยอย่างนี้แหละ
© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple