19.ดูเกิด-ดับ
ตั้งแต่รู้จักหลักธรรมในพระพุทธศาสนา คำศัพท์ทางศาสนาต่างๆก็จะได้ยินได้ฟัง ได้อ่านได้ผ่านตาบ่อยๆ บางศัพท์อ่านแล้วเข้าใจตรงนั้นเลย แต่บางศัพท์อ่านแล้วนำไปขบคิดนานๆจึงจะเข้าใจ บางศัพท์แค่ศัพท์เดียว อมความจริงเรื่องใหญ่ๆไว้ทั้งเรื่อง ต้องใช้เวลาคิดนานๆ บางทีเข้าใจแล้วแต่จับไม่ทันการเกิดนั้นๆก็มีมาก
เรื่องราวต่างๆที่เข้ามาสู่การรับรู้แล้วก็ไหลผ่านไป โดยไม่ได้ให้ความสนใจก็มีมากมายนับไม่ถ้วนในแต่ละวัน ในเรื่องราวที่มากมายหลายอย่างที่ผ่านเข้ามาสู่การรับรู้ชั่วขณะแล้วผ่านไปนั้น บางเรื่องมีความเข้มข้นพอ เมื่อรับรู้แล้วก็ยังติดใจไม่ยอมหลุดไปหลายชั่วโมง หลายเดือน หลายวันก็มีมิใช่น้อย
เรื่องข้นๆที่ติดอกติดใจแกะไม่ค่อยออกมีสารพัดตลอดบนเส้นทางชีวิตนับกันไม่หวาดไม่ไหว แต่พอจะสรุปเรื่องราวมากมายเหล่านั้นลงเป็นสองเรื่องใหญ่ๆคือ เรื่องที่รู้สึกดีแล้วติดใจ เรื่องที่รู้สึกไม่ดี ก็ติดใจ คือจำไม่ลืม บางรายถึงกับอาฆาตพยาบาทจองเวรกันไป
แม้ความรู้สึกที่ดีๆน่าติดอกติดใจอยากจำไว้นานๆมันก็จำเท่าที่จะจำได้แล้วก็ลืมไป ส่วนเรื่องร้ายๆไม่น่าพอใจ อยากให้มันหมดสิ้นไปตรงนั้น ไม่อยากให้กล้ำกรายเข้ามาหาใจอีก มันหนัก มันอึดอัด หรือบางคราวเจ็บปวด อยากให้เกิดแล้วๆดับไปเร็วๆ แต่บ่อยครั้งที่เชื่องช้าอ้อยอิ่งกว่าจะผ่อนคลายจืดจางหายไป
ความจริงทั้งเรื่องที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ มันก็เกิดขึ้น ติดใจอยู่ชั่วคราว แล้วต่างก็หายไปในเวลาที่ไม่แตกต่างกันนัก ถ้าไม่เข้าไปเกี่ยวข้องแทบจะไม่มีความหมายเลย แต่พอเกี่ยวข้องก็มักจะสวนทางกับความต้องการเสมอ
ความรู้สึกดีๆที่น่าพึงพอใจน่าจะอยู่กันนานๆแต่กลับรู้สึกว่าสลายเร็วเกินไป ทั้งๆที่สลายไปตามเวลาที่ควรจะเป็นตามกฎธรรมชาตินั้นเอง แต่ความรู้สึกแย่ๆน่าเบื่อหน่ายไม่อยากพบเลย ช่างติดตรึงจิตใจเสียเหลือเกินกว่าจะสลายไปได้ใช้เวลานานๆ แต่ความจริงก็เท่าเดิม
นี่แหละบางทีมนุษย์เอาชีวิตไปแขวนไว้กับกาลเวลา มากเกินไปจนกาลเวลามามีบทบาทในการกำหนดสุขทุกข์ให้กับชีวิตอย่างไม่รู้ตัว
เมื่อพิจารณานานๆเพื่อค้นหาว่า อะไรเกิด อะไรดับ
ก็ค้นพบว่า ความรู้สึกเป็นต้นธารแห่งการเกิดดับทั้งปวง เริ่มต้นจากความรู้สึกดีหรือไม่ดีที่เข้มข้นพอ มากพอที่จะเกาะติดจิตใจให้คล้อยตามไปจนหลงเพลิดเพลินถึงกับมอบชีวิตให้อยู่กับความรู้สึกนั้นโดยไม่ยอมถอนตัวออก
พระพุทธเจ้าจึงทรงสอนให้กำหนดรู้ ความรู้สึกอย่างใกล้ชิดเกาะติดตลอดเวลาในลักษณะต่างๆ อย่างรู้เท่าทัน จนสามารถแยกความรู้สึก ดีชั่ว ชอบชังได้อย่างชัดเจนแล้วตั้งสัมมาสติ เฝ้าตามดู ตามเห็น จนสัมผัสความรู้สึกเหล่านั้นอย่างช่ำชอง แล้วเลือกสรรความรู้สึกที่โปร่งเบาสะอาดสดชื่นให้กับชีวิตได้
เมื่อเข้าใจความเกิดดับชีวิตไม่มีอะไรน่าตกใจ ทุกอย่างเป็นเหมือนลำธารน้อยที่ผ่านมาผ่านไปอยู่เป็นนิจ จงนั่งดูสายธารให้ชื่นใจอย่าตกลงไปให้เปียกปอนหรือจมอยู่ในสายธารนั้น แล้วจะเห็นลำธารสายนั้นงามตระการตาน่ายลทุกครั้งเชียว
© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple