วัดพุทธปัญญา

บทความ\ความสงบพบได้ทุกศาสนาี

14.ความสงบพบได้ทุกศาสนา

ั้ ปัจจุบันนี้ โลกแคบมากขึ้น ประชาชนจากมุมต่างๆของโลก สามารถไปมาหาสู่กันได้อย่างรวดเร็ว ประชาชนจากภูมิหลังที่แตกต่างกันมากๆสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้สิ่งที่ตนมีอยู่ผ่านสื่อต่างๆอย่างกว้างขวางรวดเร็ว ทั้งนี้เพราะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง

ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ก้าวไปอย่างไม่หยุดหย่อนนั้น นำมาซึ่งการสร้างเครื่องอำนวยความสะดวกสบายให้แก่มนุษย์มากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องวัตถุที่สร้างขึ้นมาจากทรัพยากรต่างๆโดยมนุษย์ต้องสูญเสียทรัพยากรอย่างหนึ่งเพื่อให้ได้เครื่องมืออย่างหนึ่งมา หรือมนุษย์ต้องทำลายทรัพยากรหลายๆอย่างเพื่อนำมาสร้างเครื่องอำนวยความสะดวกเพียงอย่างเดียว

นั้นคือความเคลื่อนไหวทางวัตถุที่ไม่เคยหยุดอยู่กับที่

ในด้านจิตใจ มนุษย์ได้ค้นคว้าความรู้ในด้านจิตใจมาเป็นเวลายาวนาน การค้นคว้าแสวงหาที่ได้คำตอบและวิธีการปฏิบัติเป็นที่ยุติแล้วเรียกว่าศาสนา

ส่วนการค้นคว้าที่ยังแสวงหาคำตอบที่คั่งค้างใจก็ยังคงค้นคว้าต่อไป จิตใจที่ใฝ่หาความรู้นี้เรียกกันว่า ปรัชญา

ความเจริญทางด้านวัตถุที่รุดหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้งทุกวันนี้ล้วนมีรากฐานมาจากความคิดในเชิงปรัชญานั้นเอง

ดูเหมือนว่า ศาสนาต่างๆจะมีภาระที่ไม่แตกต่างกันมากนัก คือหาคำตอบให้จิตใจว่า ทำอย่างไรจึงจะมั่นใจ และสงบได้

ศาสนาต่างๆจึงมีกระบวนการสร้างความสงบอย่างมากมาย

สาระสำคัญที่ดูเหมือนว่าศาสนาต่างๆมีอยู่เหมือนๆกันคือ เรื่องการหยุดใจไว้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพื่อให้ใจได้พัก แม้ว่าวิธีการนำเสนอจะแตกต่างกันออกไปก็ตาม

วิธีการนี้เป็นที่สนใจของมนุษย์เมื่อหลายพันปีที่แล้วและยังให้ความสนใจถึงทุกวันนี้ วิธีการนั้นเรียกว่าสมาธิ

วิธีการทำสมาธิมีมากมายหลายพันวิธี แต่เป้าหมายที่มนุษย์จะไปถึงคือ จิตสงบ จิตได้พักโดยผ่านกระบวนการสมาธิตามวิธีนั้นๆ

ศาสนาต่างๆเป็นบ่อเกิดแห่งการทำสมาธิทีเดียว

วิธีการที่ศาสนาต่างๆมักจะใช้ทำสมาธิที่ค่อนข้างจะตรงกันมากก็คือ การสวดมนต์ ได้แก่การนำเอาคำ สำคัญจากคำสอน ของพระศาสดา หรือศาสดาพยากรณ์มาท่องบ่นซ้ำๆเพื่อย้ำให้ใจจดจ่ออยู่กับเรื่องนั้น

ศาสนาพราหมณ์ก็ใช้การท่องบ่นมนต์จากรพะเวทเพื่อเป็นการส่งสัญญาณแห่งความจงรักภักดีไปให้พระผู้เป็นเจ้ทราบ ขณะที่ท่องบ่นมนต์ไปนั้นจิตใจก็จดจ่ออยู่กับการท่องบ่นนั้นอย่างแนวแน่ ชาวฮินดูจะท่องบ่นมนต์หรือนามของพระเจ้าที่ตนนับถืออยู่ตลอดเวลาหรือมากเท่าที่จะมากได้เพราะถือว่าจะได้นำสันติสุขมาให้ตน

นี้ก็คือการผูกพันใจไว้กับสิ่งที่ตนเองเรียกว่าสิ่งสูงสุด

ชาวพุทธ เริ่มแรกก็นำเอาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าในเรื่องราวต่างๆมาท่องบ่นตามอัธยาศัยใครชอบพระสูตรใดก็นำเอาพระสูตรนั้นมาท่อง ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน การสวดมนต์ของชาวพุทธมักจะทำวันละสองครั้ง คือตอนเช้า เรียกว่า สวดมนต์เช้า ตอนเย็นเรียกว่าสวดมนต์เย็น

ระยะหลังบทสวดบางส่วนเริ่มเหมือนกัน แต่บางส่วนก็แตกต่างกัน อาศัยประเพณีที่ยึดถือกันมาด้วย ปัจจุบันนี้ประชาชนชาวพุทธนิยมสวดมนต์มากขึ้น แต่ลักษณะการสวดจะเป็นการอ้อนวอนมากกว่าการระลึกถึงพระคุณเพื่อเป็นการฝากใจให้ร่มเย็น บทสวดปัจจุบันจึงเป็นการนำเสนอคุณภาพที่จะให้ประโยชน์สารพัด

บทสวมนต์ฝ่ายเถรวามที่ขาดไม่ได้คือ บทสวดชินบัญชร ผู้ที่มีความเชื่อในอำนาจมหัศจรรย์ ที่ค่อนข้างจะเป็นความเชื่อแบบฮินดูซึ่งเชื่อกันว่า ชินบัญชรเป็นบทสวดสารพัดประโยชน์ที่ผู้สวดจะได้รับผลจากการสวดนั้น

ส่วนฝ่ายมหายานก็จะสวดสรรเสริญเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งชาวพุทธทั้งสองฝ่ายก็จะนำมาสวดกันทั่วไป ปัจจุบันนี้ได้นำเอาบทสวดมนต์นี้ลงสื่อสมัยใหม่แจกจ่ายออกไปอย่างกว้างขวาง

ไม่ว่าจะสวดมนต์เพราะเหตุใดอย่างน้อยต้องได้รับความสงบขณะใดขณะหนึ่งเป็นแน่แท้

ส่วนศาสนาอื่นๆเช่นศาสนาอิสลาม ซึ่งแปลตรงตัวเลยว่า ผู้ถวายตนต่อองค์อัลล่าห์ จะต้องสวดมนต์ถึงพระเจ้าวันละห้าครั้ง เริ่มตั้งแต่ตอนเช้าตรู่ ตอนบ่าย ระหว่างบ่ายกับเย็น ย่ำค่ำและค่ำแล้ว นับเป็นการนำใจไปฝากไว้กับพระผู้เป็นเจ้าวันละหลายครั้งๆ นั้นก็หมายความว่าเขามีโอกาสได้พบความสงบวันละหลายๆครั้ง

ส่วนศาสนาคริสต์ผู้นับถือจะไปสวดสรรเสริญคุณพระเจ้าวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ตามที่นัดกันไว้ เป็นการสวดสรรเสริญพร้อมๆกันเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้แก่กันและกันทางจิตใจเป็นอย่างดี

ส่วนการสวดมนต์ส่วนตัวหรือการอ่านคัภีร์ไบเบิ้ลชาวคริสต์ก็สามารถทำได้ทุกหนทุกแห่ง เพราะเขาถือว่า ทำดีที่ไหนพระเจ้ามองเห็นหมด จะเห็นได้ว่า แทบจะทุกครัวเรือนชาวคริสต์จะมีคัมภีร์ไบเบิ้ล แม้แต่ตามโรงแรมต่างๆก็มีคัมภีร์ไบเบิ้ลไว้ให้อ่านกันโดยทั่วไป

นี้ก็เป็นกระบวนการพักใจให้สงบอีกอย่างหนึ่ง

ดูเหมือนว่า ศาสนาต่างๆแม้จะมีเนื้อหาสาระและวิธีการสอนตลอดถึงวิธีการปฏิบัติแตกต่างกันออกไป แต่เป้าหมายหลักที่กล่าวได้ว่าเป็นหัวใจของทุกศาสนาคือ ต่างคนก็ต่างปรารถนาความสงบตามวิธีการของตนๆ ภารกิจหลักที่นักการศาสนาสามารถทำร่วมกันได้คือ สร้างความสงบให้แก่บุคคลที่นับถือศาสนาของตนๆ แล้วขยายออกไปยังสังคมและสุดท้ายสันติภาพโลกจะเกิดขึ้นได้ก็เริ่มที่ใจของคนแต่ละดวงนี้เอง

 

© วัดพุทธปัญญา -แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา :: © Copyright 2008 Buddhapanya Temple