Daily Archives: 05/03/2020

สงครามโรคโควิด-19

เป็นที่ทราบกันอย่างดีว่า ที่ใดมีสงครามล้วนมีความเจ็บ ความตาย การร้องให้และความทุกข์ยากลำบากนานาประการที่ติดตามมาอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง มนุษย์ได้ผ่านสงครามใหญ่ๆ มาสองครั้งคือ สงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามโลกครั้งที่ 2     นอกจากนี้ยังไม่รวมสงครามเย็น สงครามแบ่งแยกดินแดน สงครามการแย่งชิงทรัพยากร สงครามความขัดแย้งทางด้านเชื้อชาติศาสนาและวัฒนธรรม       มนุษย์จึงพยายามสรุปบทเรียนแห่งสงครามและพยายามยุติสงครามให้จบเร็วที่สุด  เพื่อยุติความสูญเสียชีวิต ทรัพย์สินและทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ อันจะประเมินค่าไม่ได้

          เมื่อประมาณปลายปี ค.ศ. 2019-ต้นปี ค.ศ. 2020 (พ.ศ. 2562- พ.ศ. 2563) ทางการแพทย์ของจีนที่เมืองอู่ฮั่น ได้ค้นพบโรคประหลาดที่ลักษณะอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่แต่ระบาดและรุนแรงมากกว่าไข้หวัดใหญ่อีกหลายเท่า ในช่วงแรกๆ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนด้านการแพทย์ ได้พูดไปในทิศทางเดียวกันว่า โรคประหลาดชนิดนี้คล้ายๆ ไข้หวัดธรรมดา ไม่นานก็จะหายไป

แต่ปรากฏการณ์การระบาดที่รวดเร็วและรุนแรงคร่าชีวิตคนให้บาดเจ็บล้มตายอย่างรวดเร็ว  จีนจึงใช้มาตรการเด็ดขาดหลายๆ มาตรการต่อสู้กับโคโรน่าไวรัส หรือ ต่อมาองค์การอนามัยโลกและประเทศต่างๆ เรียกว่า โควิด-19 เพราะได้เริ่มค้นพบที่ประเทศจีนปลายปีค.ศ. 2019     แม้ประเทศจีนจะทุ่มสรรพกำลังทุกด้านลงเผชิญหน้าจนสามารถสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ให้ชะลอความรวดเร็วและรุนแรงลงไปได้      ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาจีนสามารถผ่อนคลายการปิดเมืองที่เคยมีความเเสี่ยงสูง เช่น เมืองอู่ฮั่นและเมืองอื่นๆ ให้ทำกิจกรรมในชีวิต ในด้านเศรษฐกิจและสังคมได้ตามปกติด้วยความระมัดระวังอย่างสูง      ปัจจุบันนี้จีนสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้ค่อนข้างชัดเจน คือ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเพียงวันละไม่เกิน 10 คน แม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงอย่างน่าพอใจ แต่ทางการจีนยังมีคำสั่งให้เข้มงวดกวดขันการป้องกันโรคต่อไป  เพราะหากชะล่าใจ เชื้อโรคโควิด 19 อาจจะแพร่ระบาดในระลอกสองดั่งปรากฏในสิงคโปร์ ญี่ปุ่นและเกาหลีไต้ ที่จะต้องกลับมาตั้งหลักใหม่อีกครั้งหนึ่ง

          ส่วนประเทศไทยของเรา แม้การสู้รบกับเชื้อโควิด-19 ครั้งนี้จะทำได้ดีจนองค์การอนามัยโลกและประเทศต่างๆ เช่น อังกฤษและอเมริกาให้ความชื่นชม สถิติของผู้เสียชีวิตเพียง 50 กว่าคน จำนวนผู้ติดเชื้อยังไม่ถึง 3000 คน แต่เนื่องจากตัวเลขยังไม่นิ่งสนิทยังเปลี่ยนแปลงขึ้นลงได้ตามเหตุปัจจัยและตัวแปรแห่งการเคลื่อนย้ายของประชากรที่มิได้หยุดนิ่งอยู่กับที่เพื่อเว้นระยะห่าง(Social distancing) จากการแพร่เชื้ออย่างแท้จริง      เพื่อความไม่ประมาท หรือ ศัพท์ที่นายแพทย์ท่านหนึ่งเตือนไว้ว่า อย่าให้การ์ดตก รัฐบาลได้ขยายพระราชกำหนดฉุกเฉินออกไปถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 แต่เริ่มผ่อนปรนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมในส่วนที่มีความเสี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อโรคน้อยที่สุด     โดยผู้ที่มีสิทธิ์ทำกิจการเหล่านี้ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ทางการกำหนดมาอย่างเคร่งครัดเพื่อมิให้สิ่งที่ทำมาแล้วอย่างได้ผล ต้องหยุดชะงักลงแล้วเริ่มต้นใหม่ภายหลัง

          ยอดรวมของจำนวนผู้ติดเชื้อระดับโลกพุ่งขึ้นไปถึง 3 ล้านกว่าคน ยอดจำนวนผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นไปเกิน 2 แสนคน    โดยเฉพาะประเทศอเมริกาสถิติล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อรวม(วันที่ 28 เมษายน 2563) 1,010,507 คน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 23,196 คน เสียชีวิต 56,803 คน รักษาหายแล้วรวม 138,990 คน     เมื่อเทียบกับประเทศจีน ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อรวม 82,836 คน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 คน เสียชีวิต 4,633 คน รักษาหาย 77,555 คน นอกจากนั้นประเทศต่างๆ ในยุโรป เช่น สเปน อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ ยังมีสถิติทั้งผู้ติดเชื้อรวมและติดเชื้อใหม่อยู่ในอันดับสูงจำนวน 900 กว่าคน – 4,000 คน นับว่ายังอยู่ในสถานการณ์ที่รุนแรงขั้นวิกฤตที่จะต้องสู้รบกันอย่างหนักหน่วงจริงจัง

          หากเทียบความแตกต่างระหว่างสงครามโลกและสงครามเย็นที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์กับสงครามโรคโควิด-19 จะเห็นความแตกต่างชัดๆ ดังนี้

  1. สงครามโลกเป็นสงครามที่รบกันระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ที่มองเห็นความเคลื่อนไหวต่างๆ ด้วยตาเปล่าและเครื่องมือที่ทันสมัยต่างๆ ได้ง่าย ส่วนสงครามโรค เป็นการรบกับสิ่งมองไม่เห็น เชื้อโคโรน่าไวรัสเป็นฝ่ายโจมตี ไม่มีการบาดเจ็บล้มตายมีแต่รุกคืบและคร่าชีวิตมนุษย์ฝ่ายเดียว การรบนี้จึงยากที่จะรุกคืบและทำลายศัตรูให้หมดสิ้นราบคาบโดยเร็ว
  2. การทำสงครามโลกหรือสงครามอื่นๆ ประเทศมหาอำนาจที่มีอาวุธทันสมัย มีเศรษฐกิจดี มีทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี สามารถป้องกันการเสียชีวิตและบาดเจ็บของประชากรของตนได้ดี แต่การรบกับโคโรน่าไวรัสนี้  ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาที่มีชัยในแทบจะทุกสนามรบวันนี้ อยู่ในฐานะที่ปราชัยอย่างย่อยยับ เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อภายในเวลา  3 เดือนกว่าๆ ตั้งแต่เริ่มการรบขึ้นไปแตะจำนวน 1 ล้านคน และผู้เสียชีวิตเกิน 50,000 คน     ซึ่งการรบของสหรัฐอเมริกาทั้งสนามเล็กและสนามใหญ่ก็ไม่เคยพบความสูญเสียชีวิตประชากรมากมายขนาดนี้
  3. ในภาวะสงครามทุกครั้ง  ทุกหนทุกแห่ง การขาดแคลนปัจจัย 4 อันเป็นที่มาของความอดอยากเกิดขึ้นโดยทั่วไป ในภาวะสงครามโรคครั้งนี้ คราวนี้ พบเห็นสภาพการขาดแคลนทุกหนทุกแห่ง ภาพมนุษย์เข้าคิวกันซื้ออาหาร หรือ รับแจกอาหารยาวเหยียดเป็นไมล์มีให้เห็นในแทบจะทุกประเทศ
  4. ความยากจนได้รับการกระจายอย่างทั่วถึงและความเสมอภาคเพราะแรงงานในภาคต่างๆ ของแทบจะทุกประเทศจำนวนมากต้องว่างงาน เพราะทุกประเทศจำเป็นต้องใช้มาตรการ (Social distancing) สกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยการปิดกิจการทุกชนิดที่ประชาชนจะต้องอยู่ใกล้ชิดกันจนสามารถแพร่เชื้อโรคเข้าหากันได้ ความยากจนจากสาเหตุแห่งการยุติการผลิตและการจ้างงานนี้แผ่ขยายไปทั่วโลก  พอๆ กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นี้จริงๆ
  5. ปัจจัยหลักด้านการผลิตทางเศรษฐกิจและการคมนาคมทุกประเภท คือ น้ำมันที่เคยอยู่ในกลุ่มต้นทุนการผลิตและต้นทุนทางเศรษฐกิจทั่วโลก บัดนี้ ราคาน้ำมันตกดิ่งลงมาอย่างรุนแรง กระทบวิถีชีวิตของเศรษฐีน้ำมันและประชาชนผู้อาศัยผลิตภัณฑ์และกิจการน้ำมันอย่างรุนแรง ปรากฏการณ์นี้ก็เป็นปัจจัยอีกปัจจัยหนึ่งที่จะกระจายความยากจนไปสู่คนแทบจะทุกชนชั้น ประชากรในประเทศเศรษฐีน้ำมันอย่างประเทศคูเวตต้องยืนเข้าแถวซื้ออาหารยังชีพ เป็นเวลาหลายชั่วโมง ความยาวของแถวเป็นไมล์ๆ     หากมีเหตุปัจจัยใดให้ปรากฏการณ์โควิด-19 ผ่านพ้นไป  โฉมหน้าของเศรษฐกิจโลกในระบบทุนนิยมต้องเปลี่ยนไปแน่นอน แต่มีภาพใหม่ที่ฉายให้เห็นในประเทศไทยภาพหนึ่งว่า ผู้ที่ดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงตามที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เคยตรัสบ่อยๆ จะอยู่รอดได้อย่างสบาย เพราะมีอาหารของตนเองไม่ขาดแคลน
  6. ในสงครามโลก ประเทศที่ผลิตอาวุธและยุทธปัจจัยต่างๆ  จะร่ำรวยหลังจากสงครามยุติลง  ดั่งที่ประเทศอเมริกาเคยร่ำรวยมาหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองยุติลง      แต่การต่อสู่กับสงครามโรคในครั้งนี้ โรงงานผลิตอาวุธทุกหนทุกแห่งปิดตายสนิท โรงงานยุทธปัจจัยสัมพันธ์กันปิดสนิท  นอกจากจะไม่มีโอกาสร่ำรวยแล้วยังจะพากันล้มละลายโดยทั่วหน้า      แต่บริษัทที่ผลิตอาหารและยาจะมาร่ำรวยแทนค่อนข้างแน่นอน
  7. ในสงครามโลก การศึกษาค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างอาวุธ และเครื่องมือการเข่นฆ่ามนุษย์ให้ง่ายที่สุด เร็วที่สุด จำนวนมากที่สุด เช่น ผลิตอาวุธนิวเคลียร์  ทำให้การค้นคว้าวิจัยด้านเทคโนโลยีการฆ่ามีความเจริญรุดหน้ากว่าการศึกษาค้นคว้าความรู้ด้านอื่นๆ ตลอดมาเพราะประเทศมหาอำนาจทุ่มเทเพื่อให้ตนมีแสนยานุภาพมากที่สุด แต่ในการสู้รบสงครามโรคครั้งนี้ เรือรบ เรือบรรทุกเครื่องบิน เครื่องบินรบชนิดต่างๆ ต้องหยุดนิ่ง     อาวุธมหาประลัยน้อยใหญ่ ถูกเก็บไว้อย่างไร้ความหมาย   แต่การผลิตอาหาร และยาตลอดจนเครื่องมือแพทย์  เช่น เครื่องช่วยหายใจและการค้นคว้าหาวัคซีนที่จะมาจัดการกับโคโรน่าไวรัสให้สิ้นซาก พวกเขาทำงานกันอย่างหามรุ่งหามค่ำ     ความคิดเรื่องการฆ่ามนุษย์ยุติลงโดยสิ้นเชิง แต่ความคิดที่จะช่วยชีวิตมนุษย์เข้ามาแทนที่      หลังจากโควิด-19 จากไป ชีวิตของมนุษย์จะได้รับการดูแลรักษามากขึ้น โลกจะสดใส  สะอาดและสงบมากขึ้นกว่าโลกใบเก่าที่เน่าเพราะการสะสมของมลพิษที่นับชนิดไม่ถ้วน

ระหว่างที่รอสงครามโรคยุตินี้ ขอส่งกำลังใจให้มิตรร่วมรบทุกคนจงปลอดภัยจากโรคกายและโรคใจ  มีชีวิตสุขสดใส ตื่นรู้อยู่กับปัจจุบัน ทำทุกวันให้เป็นวันแห่งความสงบ พบแต่สันติสุขทุกท่านทุกคนเทอญ

วันที่ 29 เมษายน 2563 เวลา 6.30 น.

วัดอุโมงค์ ตำบลสุเทพอำเภอเมืองเชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่

ดร.พระมหาจรรยา  สุทฺธิญาโณ

เจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา