ระหว่างปลายเดือนเมษายน 2562 ถึงต้นเดือน พฤษภาคม 2562 เป็นช่วงเวลาสำคัญแห่งพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พสกนิกรไทยผู้เฝ้าชมรายการตั้งแต่เริ่มต้น ต่างปลาบปลื้มปีติตื่นตาตื่นใจกับทุกความเคลื่อนไหวในทุกมิติแห่งพระราชพิธีครั้งนี้ เพราะพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้กว่าจะมีขึ้นแต่ละครั้งต้องรอคอยกันอย่างน้อยครึ่งศตวรรษ
สถาบันพระมหากษัตริย์สถิตอยู่คู่ไทย เคียงใจคนไทยมาตั้งแต่แรกสร้างบ้านสร้างเมือง คนไทยมีความใกล้ชิดกับสถาบันพระมหากษัตริย์มากกว่าใกล้ชิดกับรัฐบาล เพราะพระมหากษัตริย์เป็นขวัญและกำลังใจให้กับคนไทยในทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะเป็นเวลาสงบ หรือ เวลาวิกฤต ส่วนรัฐบาลทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลเผด็จการ หรือรัฐบาลประชาธิปไตยของประเทศไทยล้วนมาเร็วไปเร็ว
กระบวนการแห่งพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ประกอบขึ้นจากองค์ความรู้ที่มาจาก ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ความคิด ที่ผสมผสานกันอย่างกลมกลืน เป็นความเคลื่อนไหวที่ทรงคุณค่าทั้งกายและใจ นับเป็นการปลุกจิตสำนึกแห่งความเป็นไทยที่ควรค่าแก่ความภูมิใจอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อความเคลื่อนไหวแห่งโลกสมัยใหม่ที่เป็นไปอย่างรวดเร็วและเร่าร้อน ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ที่ได้รับการรวบรวมวิเคราะห์วิจัยมาเป็นเวลานานจะช่วยคลายร้อนผ่อนให้เย็นลงไปได้
งานพระราชพิธีครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงรอยต่อระหว่างวิถีชีวิตเก่าและวิถีชีวิตสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี อุปกรณ์ต่างๆ ที่นำมาใช้งานพระราชพิธีที่พยายามรักษาของเก่าอันทรงคุณค่าไว้อย่างดี ก็ต้องได้รับการส่งเสริมจากเครื่องมือสมัยใหม่ที่ทันสมัยเกือบทั้งนั้น นับเป็นการนำเอาของใหม่มาดูแลของเก่าอย่างชาญฉลาด รายการถ่ายทอดสดคือ ต้นแบบแห่งความสัมพันธ์ระหว่างยุคเก่าและยุคใหม่ ศิลปวัฒนธรรมที่จัดทำไว้อย่างประณีตแบบโบราณ ได้ถูกนำเสนอผ่านการถ่ายทอดสดอันเป็นเครื่องมือสมัยใหม่ไปทุกมุมโลก
จิตรกรรมฝาผนังของพระที่นั่งต่างๆ และในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ที่สร้างมาเป็นร้อยปีสวยงามอลังการละเอียดประณีต ก็ได้ถูกนำเสนอออกมาให้เห็นกันได้โดยทั่วไป เมื่องานพระราชพิธีผ่านไปแล้วคงจะมีผู้ปรารถนาจะมาชมจิตรกรรมฝาผนังอันตระการตาภายในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นแน่ ศิลปะเหล่านี้แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ที่ออกมาจากความรู้สึกที่สงบร่มเย็นด้วยพลังแห่งพุทธศาสนาที่ได้สะสมและสืบทอดมาหลายชั่วอายุคน
พิธีกรรมทั้งพุทธและพราหมณ์ มักจะถูกกำหนดให้ทำร่วมกัน นั่นก็เป็นการสะท้อนว่า ศาสนาเก่าแก่ที่สุดของไทย 2 ศาสนาจะต้องอยู่ร่วมกัน ราชสำนักเป็นศูนย์รวมแห่งองค์ความรู้ด้านพิธีกรรมของพุทธศาสนาและศาสนาพราหมณ์ชั้นเยี่ยม เวลาดูศาสนพิธี ต้องดูองค์ธรรมที่ถูกซ่อนไว้สะท้อนให้เห็นว่า ภารกิจสำคัญของศาสนาแม้จะแตกต่างกันโดยหลักการ แต่ต้องธำรงเป้าหมายสำคัญ คือ ร่วมกันสร้างสันติสุขให้แก่อาณาประชาราษฎร์อย่างเสมอหน้า เปรียบบ้านเมืองเหมือนกาย ศาสนาก็เปรียบเหมือนจิต กายมีบ้านเป็นที่อาศัยฉันใด ใจก็มีศาสนาเป็นที่พักอาศัยฉันนั้น
พระราชพิธีแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างศาสนจักรและอาณาจักรว่า จะต้องเดินไปด้วยกัน เพื่อทำหน้าที่ส่งเสริมคุณภาพพลเมืองให้เจริญทั้งกายและจิตจะได้มีชีวิตที่สมบูรณ์ ความสัมพันธ์ของพุทธศาสนจักรและอาณาจักรไทยมีลักษณะพิเศษที่ไม่เหมือนชาติใด โดยเฉพาะทฤษฎีที่มาจากยุโรป ซึ่งเน้นแยกศาสนา แยกสถาบันกษัตริย์ออกจากการเมืองที่เรียกว่า รัฐฆราวาส แต่บรรพบุรุษไทยได้ค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนพุทธศาสนจักรและอาณาจักรเป็นอันดี จึงสร้างคติทางการอยู่ร่วมกันของสถาบันหลักว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ศาสนาจะเป็นสื่อกลางระหว่าง ประชาชนมาแต่อดีตกาล การมีตำแหน่งพระราชาคณะ ก็เป็นเรื่องของการทำงานร่วมกัน ระหว่าง วัด วัง บ้าน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเวลาพระเจ้าแผ่นดินเสด็จไปพบประชาชนในต่างจังหวัด มักจะไปพบกันที่วัด ความเป็นชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ก็ปรากฎอยู่ตรงนั้น รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์เป็นต้นแบบแห่งการประสานสถาบันทั้ง 3 เข้าด้วยกันอย่างดี
ตัวอย่างแห่งความสัมพันธ์ด้านชาติ ศาสนาและพระมหากษัริย์แบบยุคสมัยใหม่ คงจำกันได้สมัยที่รัชกาลที่ 9 เสด็จเยี่ยมหลวงพ่อคูณ บรรดาศิษย์ของหลวงพ่อคูณเตรียมเงินถวายโดยเสด็จพระราชกุศลแก่พระเจ้าแผ่นดิน เมื่อพระองค์เสด็จแล้วได้รับเงินที่หลวงพ่อคูณถวายตามความตั้งใจ แล้วพระองค์ถวายเงินคืน พร้อมด้วยถวายเงินเพิ่มจำนวนมากทีเดียว แล้วหลวงพ่อคูณก็นำเงินจำนวนนั้นไปสร้างโรงเรียน ให้เยาวชนในถิ่นนั้นได้ศึกษาเล่าเรียนต่อไป นี่คือเอกลักษณ์ไทย การสร้างโรงเรียนหรือสร้างโรงพยาบาลมิใช่เป็นภาระของกระทรวงศึกษาธิการเพียงหน่วยเดียว แต่พระสงฆ์ช่วยสร้างสาธารณประโยชน์นี้อย่างมากมาย นี่คือความเชื่อมโยงของชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ในสังคมไทย
การบรมราชาภิเษกในครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดี สำหรับพสกนิกรไทยทุกคน ในมุมมองของชาวพุทธ การที่ใครคนใดคนหนึ่งในโลกนี้ จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำ หรือเป็นพระมหากษัตริย์ได้สักคนต้องบำเพ็ญบารมีมานับไม่ถ้วน วันราชาภิเษก จึงเป็นวันที่บารมีที่ได้สะสมมาเต็มรอบแล้ว ถ้าเปรียบกับชาวสวนที่ปลูกต้นไม้ก็กล่าวได้ว่า บัดนี้ต้นไม้ที่ปลูกไว้ รดน้ำพรวนดินมานาน ถึงเวลาที่จะให้ดอกให้ผลที่น่าชื่นใจแล้ว จึงควรที่ใครได้ทราบข่าวจะพึงแสดงความยินดี มุทิตา และอนุโมทนาอย่างเหมาะสม
ในวาระอันเป็นมงคลยิ่งนี้ ในฐานะเป็นพสกนิกรชาวไทยและเป็นพระภิกษุสงฆ์ขอถวายพระพรให้พระองค์ทรงมีพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน ทรงเกษมสำราญ เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย ตลอดไปเทอญ
ดร.พระมหาจรรยา สุทฺธิญาโณ
วัดพุทธปัญญา เมืองโพโมน่า รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
วันที่ 3 พฤษภาคม 2562 เวลา 22.10 น.