รำลึกถึงพ่อหลวงร.9 ของปวงชนชาวไทย

By | 10/16/2018

*****************

 เมื่อเดือนตุลาคมเวียนมาบรรจบครบรอบปีอีกครั้งหนึ่ง พสกนิกรผู้มีความจงรักภักดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พากันรำลึกถึงพระองค์แล้วต่างขวนขวายสร้างความดีทางกาย วาจา และใจ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีแก่ปวงชนชาวไทยเป็นอเนกอนันต์ มานานกว่า 70 ปี พลังรัก พลังศรัทธา ที่พสกนิกรมีต่อพระองค์ท่านไม่มีวันที่จะลบเลือนจางหายไปจากใจได้ แม้พระองค์จะจากไปนานเพียงใดก็ตาม

ภาพแห่งพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญแก่พสกนิกรวันแล้ววันเล่า ผ่านร้อน ผ่านฝน ผ่านหนาว ผ่านความยากลำบากเหลือคณา ได้รับการถ่ายทอดโดยสื่อต่างๆ เพื่อให้พสกนิกรที่รักพระองค์ท่านได้รับรู้ รับทราบ รำลึกถึง เคารพบูชา ผลงานที่พระองค์ได้ฝากไว้ พระพุทธเจ้าตรัสว่า “การบูชาบุคคลที่ควรบูชา เป็นมงคลอันสูงสุด” การที่พสกนิกรผู้จงรักภักดี ได้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ตามรอยแห่งพระราชกรณียกิจและรอยแห่งธรรมที่พระองค์ได้ทรงปฏิบัติให้เห็นเป็นต้นแบบตลอดพระชนม์ชีพ ล้วนเป็นการปฏิบัติบูชาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสรรเสริญว่า เป็นการบูชาที่ประเสริฐก่อให้เกิดผลดี มีความสุขแก่ผู้ปฏิบัติและสังคมโดยส่วนร่วม

ในฐานะที่เป็นนักบวชในพระพุทธศาสนาได้รับความอุปถัมภ์บำรุงจากพระองค์อย่างเป็นทางการในนามตามกฎหมายว่า เป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก มีความประทับใจพระองค์ในฐานะที่พระองค์นำธรรมะมาปฏิบัติตามหน้าที่แห่งพระประมุข เพื่อประโยชน์และความสุขของปวงชนชาวไทยได้อย่างแท้จริง ที่พสกนิกรได้พบได้เห็นได้ประจักษ์มาตลอดเวลา 70 กว่าปี พระองค์ทรงตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรมและสังคหวัตถุธรรมที่พระธรรมราชาทั้งหลายปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์

พระองค์ทรงเป็นประมุขในห้วงเวลาที่ประเทศกำลังพัฒนา พระองค์ทรงเป็นผู้นำ เป็นผู้วางแผน เป็นผู้ทดลอง เป็นผู้ปฏิบัติการ เป็นนักพัฒนาผู้ยิ่งใหญ่ที่เน้นการพัฒนาอย่างสมดุลและรอบด้าน เป็นเพื่อนเดินทางในด้านการพัฒนาประเทศอย่างเข้มแข็ง พระองค์ทรงเน้นหนักยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วแผ่นดินไทย ให้พอมี พอกิน พอใช้ พออยู่ พอใจ อยู่เย็นเป็นสุข ผ่านโครงการต่างๆ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ 4000 กว่าโครงการ ทรงแสวงหาและพัฒนาแหล่งน้ำอุปโภค บริโภค เพื่อให้เกษตรกรทั่วประเทศเขตขันธสีมาของพระองค์ได้มีปัจจัยการผลิตอย่างพอเพียง ทรงจัดสรรและบริหารจัดการดิน ให้มีความพร้อมที่จะรองรับเกษตรกร ผู้มีความฝันจะพลิกฟื้นผืนดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นเงินเป็นทองได้สานฝันของตนให้เป็นจริง

แม้การพัฒนาอุตสาหกรรมจะมีความก้าวหน้าไปไกล ตามความเจริญทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ แต่พระองค์ตระหนักเสมอว่า งานด้านเกษตรกรรมก็ต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเหมาะสมทันต่อเหตุการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลา พระองค์ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อสร้างศูนย์ศึกษาด้านการเกษตรมากมายหลายมิติ เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาเรียนรู้แล้วนำมาปรับปรุงใช้ในการทำมาหากินให้สุขสบายได้ตามเหตุปัจจัยที่เอื้ออำนวย พระองค์ได้ทรงอุทิศเวลาส่วนใหญ่เพื่อการวิจัยทดลองเรื่องราวต่างๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรมิเคยหยุดหย่อน

ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นนักวิจัยด้านการพัฒนาการเกษตรเชิงประจักษ์ พระองค์ได้ลงไปหาข้อมูลอย่างถึงลูกถึงคนระดับปฐมภูมิจริงๆ เช่น พสกนิกรทั้งหลายคงเคยเห็นภาพที่พระองค์ประทับบนพื้นดินที่ไม่ต้องปูลาดด้วยสิ่งใดๆ คลุกคลีพูดคุยกับชาวบ้านธรรมดาแม้เสื้อก็ยังมิได้สวมใส่ให้เรียบร้อย ไม่มีขบวนต้อนรับ ไม่มีกองเกียรติยศ  กลางท้องทุ่งถิ่นห่างไกล ก่อนที่พระองค์จะมีโครงการพระราชดำริเกี่ยวกับแหล่งน้ำขนาดเล็ก พระองค์ลงไปรับข้อมูลจากชาวบ้านที่อาศัยปลาจากแหล่งน้ำสาธารณะสำหรับยังชีพ อาศัยผันน้ำเข้ามาในนาเพื่อปลูกข้าวยังชีพ เป็นการได้รับข้อมูลภาคสนามเชิงประจักษ์แล้ววางยุทธศาสตร์อย่างตรงจุด เกิดประโยชน์สุขสูงสุดแก่ประชาชนในท้องที่ของการพัฒนาอย่างทั่วถึงจริงๆ

ภาพแห่งนักเก็บข้อมูลภาคสนามที่พระเจ้าแผ่นดิน แขวนกล้องถ่ายรูปไว้ที่พระศอ หรือ คอ ถือแผนที่ไว้ในพระหัตถ์ หรือ มือ ประทับอยู่ในจิตใจของปวงชนชา

วไทยมิรู้ลืม ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงที่เน้นการบริหารจัดการ น้ำ ที่ดิน การวางแผนปลูกพืชแต่ละชนิดอย่างเหมาะสม เพื่อการยังชีพและการจำหน่วยอย่างได้ผลดี ล้วนเป็นผลที่ตกผลึกแห่งการศึกษาวิจัยค้นคว้ามาจากนักวิจัยคลุกฝุ่นภาคสนามพระองค์นี้ พระองค์เข้าใจธรรมชาติ ดิน น้ำ ชีวิต เศรษฐกิจ อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งแล้วนำมาผสมผสานบูรณาการอย่างกลมกลืน เป็นที่มาแห่งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ครอบคลุมทุกมิติให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ พอมี พอกิน พออยู่ พอใช้ พอใจ อยู่เย็น เป็นสุข

วันเวลาที่ผ่านมากว่า 70 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จไปทั่วทุกท้องถิ่น พระองค์รู้จักผืนแผ่นดินทุกตารางนิ้วที่พระองค์ปกครองอย่างประจักษ์แจ้ง การที่พสกนิกรของพระองค์ส่วนใหญ่เรียกพระองค์ง่ายๆ ว่า พระเจ้าแผ่นดิน จึงเป็นการประกาศความจริงให้โลกได้ทราบว่า เป็นพระนามที่มาจากพระราชกรณียกิจของพระราชาพระองค์นั้น พระองค์เป็นเจ้าฟ้า แต่มาประทับเคียงข้างชาวดิน ชาวดินต่างรักพระองค์ท่านมิมีวันสร่างซา พระองค์ประทับอยู่ในใจของชาวดินทั่วถิ่นสยาม พระองค์เป็นเจ้าหัวใจของปวงชนชาวสยาม พระองค์จึงทรงพระนามว่า “พระเจ้าแผ่นดิน”

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงมีความรักปวงชนชาวไทยดั่งพ่อรักลูก รักอย่างซาบซึ้ง รักอย่างผูกพัน ไม่มีสักวันที่ไม่รักและไม่คิดถึง แม้พระวรกายของพระองค์จะจากไป แต่พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านยังสถิตในดวงใจลูกหลานไทยทุกคน พระองค์ยังคงเป็นขวัญ เป็นกำลังใจ เป็นพ่อหลวงของปวงชนชาวไทยสืบไปนิรันดร์ไม่มีวันลืมเลือน

ดร.พระมหาจรรยา สุทฺธิญาโณ เจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา เมืองโพโมน่า รัฐแคลิฟอร์ เขียนรำลึกถึงพ่อหลวง ในวาระที่ได้จัดการปฏิบัติสมาธิภาวนา ณ ศูนย์ภาวนาวัดพระศรีรัตนมหาธาตุสาขาเมืองไนล์ รัฐมิชิแกน เพื่อถวายแด่พ่อหลวงในวาระแห่งการเสด็จสู่สวรรคาลัยครบสองปีถ้วน

วันที่ 13 ตุลาคม 61 เวลา 17.42 น.

ดร.พระมหาจรรยา สุทฺธิญาโณ

เจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา

 

 

 

Leave a Reply