การภาวนา คือ การทำจิตให้สงบ มั่นคง บริสุทธิ์ ตื่นตัว และมีความพร้อมที่จะทำงานทุกชนิดอย่างมีประสิทธิภาพ การภาวนามีวิธีทำมากมาย แต่วิธีที่ใช้กันมาก คือ วิธีการระลึกถึงพุทโธ หรือ ระลึกถึงพระพุทธคุณ ซึ่งหมายถึง พระองค์ผู้เข้าถึงสภาวะแห่งความ รู้ ตื่น และเบิกบานก่อน แล้วนำมาสั่งสอนแก่พุทธศาสนิกชนทั้งหลายให้ได้รู้ตาม และรวมถึงสภาวะแห่งความรู้ ตื่น เบิกบานที่มีอยู่ในแต่ละปัจจุบันขณะ
วิธีการภาวนาจะแบ่งเป็น 2 วิธี
1. การภาวนาโดยการวางใจไว้ที่พุทโธ ตามปกติ ทุกคนก็หายใจเข้าและหายใจออกเป็นประจำ เมื่อถึงเวลาฝึกภาวนา ก็หายใจตามปกติ และนำพุทโธมาแนบกับลมหายใจ โดยการวาง พุทธ ไว้ที่การหายใจเข้า และวาง โธ ไว้ที่การหายใจออก วางไว้อย่างแนบแน่น จัดจังหวะให้พอดี ระลึกอยู่เสมอว่า พุทธ ขณะที่หายใจเข้า และโธ ขณะที่หายใจออก ระลึกถึง พุทโธ ทุกลมหายใจ ทำไปอย่างสบายๆ และผ่อนคลาย อาตมาได้เขียนกลอนไว้บทหนึ่งว่า พุทธ เข้า โธ ออก พุทธ เข้า โธ ออก สติคอยบอกว่า รู้ ตื่น เบิกบาน ฝึกแล้ว ฝึกอีก ฝึกจนชำนาญ รู้ ตื่น เบิกบาน ทุกลมหายใจ
2. ระลึกถึงพระพุทธคุณทั้ง 9 ประการ โดย ระลึกไปทีละพระคุณ ให้ความสนใจต่อพระคุณเหล่านั้น ไม่ปล่อยใจไปไหน อาจารย์บางท่านสอนให้ผู้ปฏิบัติ มองไปยังพระพุทธรูป แล้วระลึกถึงพระพุทธคุณไปเรื่อยๆ จนจิตใจแนบแน่นอยู่กับพระพุทธคุณนั้น จนรู้สึกอิ่มเอิบเบิกบานซาบซึ้งในพระพุทธคุณนั้นๆ ที่ได้ระลึกจนน้อมพระคุณมาสถิตไว้ในใจ เวลาว่างจากการคิดการงานใดๆ ก็นำใจมาไว้ที่พุทโธ เรียกว่า มีพระพุทธเจ้าคุ้มครองอย่างแท้จริง
ผู้ปฏิบัติวิธีที่ 1 เคยถามว่า หาก ปฏิบัติไปแล้ว ใจหายไปจาก พุทโธ จะทำอย่างไร
คำตอบก็คือ ระลึกถึงพุทโธใหม่อีกครั้ง การที่รู้ว่า ขณะนั้น ใจหายไปจากพุทโธ นับเป็นปรากฏการณ์ของสติ หรือ มีสติ ซึ่งแปลว่า ความระลึกได้ เกิดขึ้นครั้งหนึ่ง พอระลึกได้คราใดใจก็กลับมาหาพุทโธใหม่ ขณะนั้นเป็นการทำงานของสัมปชัญญะสืบต่อไป หากทำไปๆๆ สัมปชัญญะขาด เดี๋ยวเดียวสติ ความระลึกได้ ก็ปรากฏขึ้นมาใหม่ จะสลับกันไปอย่างนี้ จนใจสงบและแนบแน่นขึ้นตามลำดับ มีข้อแนะนำเพิ่มเติม สำหรับผู้ปฏิบัติวิธีที่ 1 อาจจะเติมตัวเลขเข้าไปด้วยก็ได้ โดยการระลึกว่า พุทธ เข้า โธ ออก นับ 1 พุท เข้า โธ ออก นับ 2 พุทธ เข้า โธ ออก นับ 3 นับไปเรื่อยๆ การวางจุดที่ระลึกถึง 3 อย่างจะช่วยให้ใจได้มีที่ยึดมากขึ้น ช่วยให้ใจตื่นรู้เพิ่มมากขึ้น เมื่อความตื่นรู้ ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งกายและใจจะรู้สึกสบายและผ่อนคลาย ความรู้ ตื่น และเบิกบาน อันเป็นพระพุทธคุณสำคัญก็จะปรากฏขึ้นในความรู้สึก เท่ากับได้เห็นพระพุทธเจ้า ด้วยการสัมผัสทางใจ ดั่งที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา นั่นเอง
การปฏิบัติภาวนาแบบพุทธานุสตินี้ เป็นภาวนาวิธีที่ปฏิบัติกันอย่างกว้างขวางในหมู่พุทธศาสนิกชน ไม่ว่าจะเป็น ชาวไทย ชาวลาว ชาวเขมร ชาวพม่า และชาวศรีลังกา โดยเฉพาะชาวศรีลังกา การปฏิบัติภาวนาแบบอื่นมีน้อยมากจะเน้นพุทธานุสตินี้เอง วิธีนี้จึงเป็นวิธีปฏิบัติที่เป็นสากลที่ผู้มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา จะนำมาปฏิบัติกันในชีวิตประจำวัน เพราะคำว่า พุทโธ คือ คำสำคัญที่สุดที่ควรระลึกถึงทุกลมหายใจ เมื่อพุทโธปรากฏในใจ ทุกข์ทั้งหลายก็ตั้งอยู่ไม่ได้ ใจจึงอยู่กับความ รู้ ตื่น และเบิกบาน สภาพใจที่อยู่กับพุทโธ นี้ เรียกว่า พระพุทธจ้า คุ้มครอง เป็นเขตปลอดทุกข์มีแต่ความสุขสงบ ดั่งที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า สุขอื่นยิ่งกว่า ความสงบไม่มีนั่นแล
วัดพุทธปัญญา เมืองโพโมน่า รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
วันที่ 22 มกราคม 2563 เวลา 5.21 น.
ดร.พระมหาจรรยา สุทฺธิญาโณ