ป้องกันโควิด-19 ด้วยสติ

By | 04/10/2020

เป็นทราบกันดีว่า การสวมหน้ากาก การรับประทานอาหารร้อนๆ การแยกใช้ช้อนกลางของแต่ละบุคคล การอยู่ห่างๆ กัน หมั่นล้างมือ เป็นมาตรการระดับสากลที่ประชาชนนิยมใช้เพื่อป้องกันโควิด-19 อาตมาได้จับมาเรียบเรียงตามความคิดของตนเป็นคำคล้องจองอยู่บ้างว่า สวมหน้ากาก ทานอาหารร้อน ใช้ช้อนกลาง ทำจิตว่าง หมั่นล้างมือ การปฏิบัติการดังกล่าวจะสำเร็จได้ ต้องมีสติอย่างละเอียดลออ ถ้าไม่มีสติจะปฏิบัติได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ผลของการปฏิบัติก็จะไม่สมบูรณ์ สติที่จะนำมาใช้ในที่นี่หมายถึงความระลึกได้และความระมัดระวัง ตั้งใจในทุกความเคลื่อนไหวของชีวิต ซึ่งมีข้อที่จะปฏิบัติดังนี้
         1. แม้เรื่องของการสวมหน้ากาก ยังไม่เป็นที่ยุติว่า คนที่ยังไม่ได้รับเชื้อควรจะสวมหรือไม่ แต่ประชากรโลกส่วนใหญ่ที่ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทก็พากันสวมเพื่อป้องกันไว้ก่อน ในประเทศไทยประชากรส่วนใหญ่มิได้มีข้อขัดแย้งพากันสวมหน้ากากด้วยความไม่ประมาท ความร่วมมือของประชาชนไทยเช่นนี้ เป็นเหตุให้จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้ตายไม่พุ่งพรวดพราดเหมือนอย่างในหลายประเทศที่ประชาชนยังมีความเชื่อว่า ผู้ป่วยเท่านั้นที่จะต้องสวมหน้ากากเพราะป้องกันมิให้แพร่เชื้อสู่ผู้อื่น แต่ประเทศไทยของเราเชื่อว่า การสวมหน้ากากช่วยได้ทั้งป้องกันเชื้อมิให้ติดผู้อื่นและป้องกันเชื้อจากผู้อื่นมาติดเราด้วย การเจริญสติเพื่อให้การสวมหน้ากากมีประสิทธิภาพ ต้องระลึกไว้เสมอว่า เวลาจะออกจากบ้านไปธุระที่ไหนต้องสวมหน้ากาก เวลาจะต้องสนทนากับใครต้องสวมหน้ากาก เมื่อสติระลึกได้อยู่เสมอ การสวมหน้ากากเพื่อป้องกันตนเองและผู้อื่นก็มีประสิทธิภาพ
         2. รับประทานอาหารร้อน เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า ถ้าโควิด-19 เจอความร้อนอุณหภูมิ 27 องศาเซลเซียส ก็จะยุติความเคลื่อนไหวฤทธิ์หมดพิษสง ถ้าได้ซดน้ำซุปหรือน้ำแกงร้อนๆ หากโควิด-19 ตกค้างอยู่แถวลำคอ อาจจะยุติการเคลื่อนที่เข้าสู่ปอดได้ หรือหากจะยังมีเชื้ออยู่ก็ทำให้อ่อนกำลังลงทำให้แพทย์รักษาได้ง่ายขึ้นดั่งที่ทราบกันว่า มีคนหายจากโควิด-19 เป็นจำนวนมาก หรือถ้าอยู่ในพื้นที่เขตร้อนและหมั่นทำงานกลางแจ้งหรือออกกำลัง จะทำให้ โควิด- 19 เข้าใกล้ร่างกายไม่ได้เพราะมันเจอความร้อนจะหมดสภาพไวรัสพิษไปเอง จึงต้องตระหนักอยู่เสมอว่า จะต้องใช้ชีวิตในอุณหภูมิที่สูงจะปลอดภัยกว่าการใช้ชีวิตในพื้นที่แคบๆ และอุณหภูมิต่ำๆ
         3. การแยกใช้ช้อนกลางของแต่ละบุคคลนอกจากจะป้องกันไวรัสมหาประลัยนี้ได้แล้ว ยังป้องกันโรคอื่นๆ ได้อีกหลายโรค นับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เปลี่ยนวัฒนธรรมการบริโภคของมนุษย์อย่างกว้างขวาง ความเคยชินกับความมักง่ายที่เจออะไรแล้วตักใส่ปาก ถึงเวลาปรับความเคยชินจากสัญชาตญาณ มาเป็นปัญญาญาณ เป็นโอกาสพัฒนาสติอย่างดี นับว่า พระพุทธเจ้ามีอนาคตังสญาณอันกว้างไกล ไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณ ที่ทรงให้พระสงฆ์ฉันในบาตรของตน พร้อมด้วยจริยาวัตรการฉันในบาตรไว้อย่างครบถ้วน ถึงกับว่า พระภิกษุรูปใดฉันในภาชนะเดียวคือบาตร เป็นผู้ปฏิบัติอย่างขูดเกลา ถ้าท่านสาธุชนจะหาชามหรือกาละมังมาตักอาหารรวมกันดูในภาชนะเดียวบ้างก็จะเป็นการป้องกันโวิด-19 ได้เป็นอย่างดี โดยการตักครั้งเดียวให้พอแล้วไม่ต้องเติมอีก จะทำให้การใช้ช้อนกลางมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม
          4. อยู่ห่างๆ กัน ก็เป็นวิธีการอีกอย่างหนึ่งที่ยอมรับกันเป็นสากลว่า สามารถยุติการแพร่เชื้อ โควิด-19 ได้อย่างมาก ในวันนี้ประเทศต่างๆ จึงพยายาม ขอร้องและบังคับประชาชนของตนให้อยู่กับบ้านให้นานที่สุดไม่ควรออกไปทำธุระที่ไหนที่ไม่จำเป็น หากจำเป็นต้องไปทำธุระในที่สาธารณะ เช่น การซื้ออาหาร ก็ต้องใช้สติระลึกเสมอว่า ต้องยืนห่างอย่างน้อย 3 เมตร หรือ ตระหนักไว้ว่า ยิ่งห่างยิ่งปลอดภัย ตามคติสมัยใหม่ว่า แยกกันเราอยู่ รวมหมู่เราตาย
          5. ทำจิตว่างๆ ทุกคนที่ต้องอยู่แต่ในบ้านคงได้รับประสบการณ์ต่างๆ เช่น หงุดหงิด เหงา ว้าเหว่ วิตกกังวล หวาดกลัว เครียด อาการเหล่านี้ล้วนเกิดมาเพราะจิตไม่ว่างทั้งนั้น เดี๋ยวสิ่งนั้นเกิด เดี๋ยวสิ่งนั้นดับสลับสับเปลี่ยนไปเสมอ ปรากฏการณ์เหล่านี้กลายมาเป็นสิ่งกวนใจ บีบคั้นทางใจ หากที่ใดประชาชนมีอาการอย่างนี้มากๆ จำนวนโควิด-19 อาจจะลดลงหรือคงที่ แต่อาการทางประสาทอาจจะเพิ่มขึ้น วิธีทำให้จิตว่างจากสิ่งรบกวนเหล่านี้ที่ดีที่สุดคือทำงานที่อยู่ใกล้ตัวให้มาก เช่น การทำงานบ้านให้ครบถ้วน เวลาทำงาน จิตจดจ่อกับงาน เพียงเรื่องเดียว จิตจะว่างจากเรื่องอื่น หรือทำกิจกรรมต่างๆ ที่น่าภูมิใจ เช่น การปลูกต้นไม้ รดน้ำต้นไม้ อ่านหนังสือ สวดมนต์ ทำสมาธิ ทุกกิจกรรม ล้วนเป็นที่พักพิงใจได้อย่างปลอดภัย เมื่อใดใจอยู่กับความเคลื่อนไหวในปัจจุบันขณะ ด้วยความรู้สึกตัวทั่วพร้อมอย่างสดๆใหม่ๆ อันเป็นความรู้จริงและรู้แจ้ง เมื่อนั้นคือ จิตว่างอย่างแท้จริง กล่าวคือ จิตว่างจากสิ่งกวนใจ แต่เต็มไปด้วยความตื่นรู้อยู่กับปัจจุบัน อันทำให้การอยู่อย่างสงบเป็นสุขอย่างแท้จริง
          6. หมั่นล้างมือบ่อยๆ ได้ทราบจากนักวิทยาศาสตร์หลายสำนักยืนยันตรงกันว่า การล้างมือด้วยสบู่ เป็นวิธีสกัดการแพร่เชื้อที่มีประสิทธิภาพที่สุด ก่อนรับประทานอาหาร หลังรับประทานอาหาร หรือการที่ต้องสัมผัสห่วงประตู ลูกบิดประตูในที่สาธารณะ ต้องล้างมือทันที ในที่แบบนั้นควรมีแอลกอฮอล์แบบสเปรย์พกติดตัวไป ถ้าต้องไปจับหรือสัมผัสอะไรเสร็จแล้วต้องล้างมือเดี๋ยวนั้น การล้างมือ จะมีประสิทธิภาพได้ต้องระลึกไว้เสมอว่า ต้องล้างมือทุกครั้งที่ทำอะไรเกี่ยวข้องกับสาธารณะ เพื่อป้องกันเชื้อ มิให้ติดตนเอง และแพร่ไปยังผู้อื่น           ทุกมาตรการที่รัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญช่วยกันออกมาเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ จะได้รับการปฏิบัติอย่างดีต้องมาจากจิตสำนึกมากกว่าความกลัวกฎหมาย ถ้าจะให้สมบูรณ์ต้องเคร่งครัดทั้งกฎหมายและมีจิตสำนึกที่ดี เพราะมาตรการเหล่านี้ที่ทุกคนปฏิบัติแล้วเพื่อตนเอง เพื่อประเทศชาติและกว้างใหญ่เพื่อมนุษยชาติอันไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ ขอความดีงามเหล่านี้ที่ทุกท่านทำด้วยกุศลเจตนาอันดีงาม จงคุ้มครองรักษาให้ปลอดภัยแคล้วคลาดจากโควิด- 19และสรรพโรค สรรพอันตราย จงได้พบกับความสำเร็จ ความสุข ความสงบตามสมควรแก่ธรรมที่ได้ปฏิบัติดีแล้วนั้นเถิด
วันที่ 7 เมษายน 2563 เวลา 10.57 น.
วัดอุโมงค์ ต.สุเทพ อ. เมือง จ. เชียงใหม่

ดร.พระมหาจรรยา  สุทฺธิญาโณ


Leave a Reply