ชีวิตมนุษย์อยู่ในอำนาจของความเปลี่ยนแปลงตามกระแสแห่งการเกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วสลายไป เหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาแต่ละช่วงแห่งวัยล้วนไม่เหมือนกันเปรียบเหมือนน้ำที่ไหลไป ก็ไหลไปเรื่อย ไม่ไหลกลับ การปรากฏขึ้นของชีวิตเพราะอำนาจพระธรรม การดำรงอยู่แต่ละขณะก็เพราะอำนาจพระธรรม การดับสลายไป ก็เพราะอำนาจพระธรรม พระธรรมนั้น คือ พระไตรลักษณ์ พระอนิจจัง พระทุกขัง และพระอนัตตา สรุปความหมายง่ายๆ ว่า ความเปลี่ยนแปลง
ชีวิตของอาตมาก็เป็นผลผลิตจากกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงที่ไหลไม่หยุดนี้เช่นกัน ชีวิตประกอบด้วยกายกับจิต ทั้งกายและจิตก็ไหลไปไม่เคยหยุด จะช้าบ้าง จะเร็วบ้าง รู้สึกตัวบ้างไม่รู้สึกตัวบ้าง ปกปิดบ้าง เปิดเผยบ้าง ต่างไหลไปไม่เคยหยุด หากจะมองกระบวนการชีวิตผ่านพุทธทรรศนะจะพบว่า พระไตรลักษณ์เป็นผู้ขับเคลื่อนให้ชีวิตมีวิวัฒนาการและเมื่อวิวัฒนาการไปแต่ละขั้นก็จะมีปรากฏการณ์ให้เห็น ทั้งความเกิด ความแก่ และความตาย ปรากฏให้เห็นเป็นระยะๆ ตามเหตุตามปัจจัยที่ประชุมกันเข้าอย่างเหมาะสมในแต่ละขั้นตอน
อาตมาเกิดเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2502 เมื่อพระธรรมนำพามาสู่กาลเวลา วันที่ 2 มกราคม 2563 อาตมามีอายุ 61 ปี วันนั้นตื่นนอนตั้งแต่เวลา 4.00 น. เริ่มฟังธรรมทันทีจนถึงเวลา 4.45 น. เตรียมตัวทำวัตรเช้าและเจริญสมาธิภาวนาตามปกติ คือ ตั้งแต่เวลา 5.00 น.- 6.00 น. จากนั้นก็จัดรายการธรรมทานจากวัดพุทธปัญญาตามปกติ เมื่อจัดรายการจบแล้ว จึงเริ่มฟังธรรมบรรยายชุด ปฏิจจสมุปบาท โดย
หลวงพ่อพุทธทาส เป็นความตั้งใจที่จะเลือกธรรมะชุดนี้เป็นสื่อธรรมสมโภช เพราะเป็นธรรมบรรยายที่กล่าวถึงกระบวนการเกิดขึ้นและดับไปแห่งทุกข์ อันเป็นธรรมะที่มีความเหมาะสมกับการดำรงชีวิตที่เหลืออยู่อย่างยิ่ง เป็นธรรมะเพื่อชีวิตที่กล่าวถึงเสรีภาพจากเครื่องพันธนาการทั้งปวงอย่างแท้จริง
วันคล้ายวันเกิดปีนี้ อาตมายังคงงดอาหารและดื่มเพียงนมจืด เหมือนที่เคยปฏิบัติมาทุกปี ตามแนวทางการจัดวันล้ออายุของหลวงพ่อพุทธทาสบนหลัก 2 ประการคือ
1.เพื่อระลึกถึงวันที่คุณแม่เหน็ดเหนื่อย หิว กระหาย ทุกข์ทรมานจากการคลอดบุตร การที่ได้อดอาหารเพียงมื้อเดียว แม้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยว หากเทียบกับความทุกข์ทรมานในวันที่แม่คลอดก็ตาม แต่ความตั้งใจดีเช่นนี้ทำให้วันนั้นคิดถึงแม่ได้ทั้งวัน เมื่อคิดถึงแม่ผู้ให้ชีวิตได้แล้ว ก็ทำให้ระลึกถึงพ่อและครูอาจารย์ตลอดถึงพุทธศาสนิกชนทั้งหลายผู้มีความเมตตากรุณาเลี้ยงดูมาจนถึงทุกวันนี้ ความรู้สึกซาบซึ้งในพระคุณและปรารถนาจะทำดีตอบแทนคุณต่อท่านผู้มีพระคุณทุกท่านก็เต็มเปี่ยมล้นหัวใจ
2.การงดอาหาร 1 วันในวันคล้ายวันเกิด เป็นการประหยัดทรัพยากรต่างๆ หลายๆ อย่างที่ใช้ในการปรุงอาหารลงจำนวนหนึ่ง มากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของกระบวนการปรุงอาหารนั้น หากจินตนาการเชิง สมมติว่า ถ้าประชากรจำนวนมากขึ้น เป็นจำนวน 100, 1,000, 10,000, หรือ 10,000,000 คนปฏิบัติการฉลองวันเกิดในแนวทางนี้ ก็จะเป็นการประหยัดอาหารและทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการปรุงอาหารจำนวนมหาศาลในแต่ละปี
การดื่มนมจืดพอประทังความหิว เป็นสัญลักษณ์ว่า วันที่เราเกิดมาวันแรกมิได้รับประทานสิ่งใดนอกจากดื่มนมจากแม่เท่านั้น เมื่อถึงวันคล้ายวันเกิด ก็ไม่ควรลืมอาหารมื้อแรกที่ร่างกายได้รับก่อนสิ่งอื่นใด
การฟังธรรม เรื่องปฏิจจสมุปบาท ดำเนินไปด้วยความเข้าใจ แจ่มแจ้ง เพราะหลวงพ่อพุทธทาส ทราบว่า เรื่องนี้ยากมาก ท่านจึงอธิบายอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยอธิบายศัพท์ทุกศัพท์อย่างละเอียด การอธิบายศัพท์ต่างๆ ก็มีตัวอย่างกำกับหลายๆ ตัวอย่าง เพื่อชี้ให้เห็นว่า เรื่องของปฏิจจสมุปบาท เป็นเรื่องกระบวนการ เกิดและดับทุกข์ที่เกิดเร็วและดับเร็ว เช่น ท่านอธิบายว่า การตักข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวด้วยความอร่อยเพียงคำเดียว กระบวนการเกิดดับแห่งปฏิจจสมุปบาทเกิดดับไปหลายรอบ ความพอใจ และ ความไม่พอใจ ความรู้สึกสุข ทุกข์ ล้วนมาจากกระบวนการเกิดดับของปฏิจจสมุปบาททั้งสิ้น ท่านชี้ประเด็นสำคัญแห่งปฏิจจสมุปบาทว่า เป็นรายละเอียดของอริยสัจ 4 ที่ย่อเหลือเพียง 2 อย่างคือ ความทุกข์กับความไม่ทุกข์ นั่นเอง
ธรรมะที่จะคอยเฝ้าระวังมิให้กระบวนสร้างทุกข์เกิดได้ ต้องใช้ธรรมะตระกูลสติ เช่น อานาปานสติ สติปัฏฐาน สติสัมโพชฌงค์ ล้วนช่วยเฝ้าระวังมิให้กระบวนการสร้างทุกข์ถือกำเนิดเกิดได้ ใจก็จะคงความปกติเรื่อยไป เมื่อใจปกติ เหตุแห่งทุกข์ไม่เกิด ความทุกข์ก็มิเกิด คำคมอีกคำหนึ่งที่จับได้ ท่านกล่าวว่า การเกิดที่ต้องเป็นทุกข์ร่ำไป คือ การเกิดขึ้นของความรู้สึกว่า ตัวกูของกู เมื่อมี กู ก็มีทุกข์ เมื่อไม่เกิดความรู้สึกสำคัญมั่นหมายว่า เป็นตัวกู ของกู ฐานที่จะรองรับ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน อันเป็นเหตุแห่งทุกข์ไม่มี ความทุกข์ก็มีไม่ได้ เพราะความทุกข์ หรือ ความไม่ทุกข์ เกิดจากเหตุปัจจัย เมื่อเหตุปัจจัยแห่งทุกข์มี ความทุกข์ก็มี เมื่อเหตุปัจจัยแห่งทุกข์ไม่มี ความทุกข์ก็ไม่มี สอดคล้องตามหลักของอิทัปปัจจยตาว่า เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ก็มี เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ก็ไม่มี เมื่อรู้ความจริงเช่นนี้ สร้างเหตุปัจจัยให้ถูกต้องแล้วผลที่สอดคล้องกับเหตุปัจจัยจะออกมาอย่างไม่คลาดเคลื่อน ตามหลักของพระพุทธศาสนา ชีวิตจะทุกข์ หรือไม่ทุกข์ มิได้ขึ้นอยู่กับสิ่งใดมาดลบันดาล แต่ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย
นำประเด็นธรรมสำคัญมาแบ่งปันท่านผู้ฟังสั้นๆ แค่นี้ก่อน ท่านที่สนใจปรารถนาจะฟังเสียงบรรยายตรงจากหลวงพ่อพุทธทาส กรุณาไปที่ยูทูปแล้ว เขียนคำว่า ปฏิจจสมุปบาท พุทธทาส ภิกขุ ก็จะได้รับฟังธรรมะชั้นเยี่ยมชนิดดับทุกข์ได้ตามความปรารถนา
ภาคบ่ายเมื่อดื่มนมเสร็จแล้ว ก็มาเดินจงกรมและสมาธิภาวนาร่วมกับพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมภาวนาประจำวันพฤหัสบดี เมื่อเสร็จภาวนาแล้วจึงฟังธรรมต่อจนจบ จัดรายการธรรมะหลายมิติ ได้สนทนากับท่านผู้ฟังท่านผู้ชมทางบ้านจากทั่วโลก เป็นการจบรายการธรรมสมโภชแบบรู้ ตื่น และเบิกบานร่วมกันท่ามกลางญาติธรรมไร้พรหมแดนจริงๆ ขอบคุณญาติธรรม ที่สนิทสนมกันทางสื่อธรรมมา ณ โอกาสนี้
เวลาหนึ่งทุ่ม ได้ทำวัตรสวดมนต์ร่วมกับคณะสงฆ์วัดพุทธปัญญา ได้อาราธนาให้พระสงฆ์ช่วยกันสาธยายธัมมจักกัปปวัตนสูตร อันเป็นการฉลองวันคล้ายวันเกิด แบบโบราณที่ผู้ฉลองวันคล้ายวันเกิดจะต้องได้ฟังธัมมจักกัปปวัตนสูตรจากการสาธยายของพระสงฆ์
วันคล้ายวันเกิดผ่านไปแล้ว สิ่งได้เพิ่มขึ้นมา คือ อายุเพิ่มขึ้น ผ่านพ้นความตายมาได้ 1 ปี ขณะเดียวกันเดินใกล้ความตายเข้าไปอีกกี่ปีก็ยังมิรู้ได้ เพราะเรารู้ได้แต่วันเกิดส่วนวันตายหารู้ได้ไม่ รู้เพียงแต่ว่า ต้องตายแน่ๆไม่วันใดก็วันหนึ่ง การดำรงชีวิตด้วยสติ หรือ ไม่ประมาทดังพระพุทธเจ้าสอน คือ การดำรงชีวิตที่พร้อมจะอยู่อย่างสงบ และไปอย่างสงบ นัตถิ สันติ ปะรัง สุขัง ความสุขอื่น ยิ่งกว่า ความสงบไม่มี เมื่อเกิดมาได้รับความสงบก็ได้พบสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะได้รับแล้ว หากจะต้องจากโลกนี้ไปในเร็ววันตามเหตุปัจจัยก็พร้อมจะไปเสมอ หากพอยังอัตตภาพอยู่ต่อไปต้องตั้งใจสะสมความสงบให้มากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา
วันที่ 7 มกราคม 2563 เวลา 15.38 น.
วัดพุทธปัญญา เมืองโพโมน่า รัฐแคลิฟอร์เนีย
ดร.พระมหาจรรยา สุทฺธิญาโณ