บทเพลงจากขุนเขา
อาตมาเดินทางจากสนามบินนานาชาติ มหานครลอสแอนเจลิสเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2559 มุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานครเพื่อร่วมรายการ มีเทศน์ มีทอล์ค เรื่องความรักของพระพุทธเจ้า ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าวชั้น 5 ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 13.00 น. เดินทางรอนแรมมาเป็นเวลา 18 ชั่วโมงก็ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ จากมาตุภูมิไปปีกว่า ได้กลับมาเยือนก็รู้สึกอบอุ่นปลาบปลื้มใจยิ่งนัก
เนื่องจากเครื่องบินเข้าสนามบินสุวรรณภูมิในเวลาห้าทุ่มกว่า ใช้เวลาตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋าพอสมควร กว่าจะเรียบร้อยก็เกือบจะย่างเข้าสู่วันใหม่ เป้าหมายสุดท้ายของการเดินทางอยู่ที่วัดอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซื้อตั๋วเครื่องบินที่จะไปเชียงใหม่ไว้ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 8.00 น. จึงตัดสินใจพักตรงที่ห้องพักสงฆ์สนามบินสุวรรณภูมิจนสว่าง
การที่พระสงฆ์สามารถพักในห้องพักสงฆ์สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นความรู้ใหม่ เจ้าหน้าที่อธิบายว่า พระสงฆ์ที่จรมาจากทิศทั้งสี่สามารถพักได้ตลอด 24 ชั่วโมง นับเป็น โครงการที่ดีของการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ต้องประกาศให้พระสงฆ์ทั่วสังฆมณฑลได้ทราบกันอย่างทั่วถึงและขออนุโมทนาความเมตตาของการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมา ณ โอกาสนี้ด้วย
เจ้าหน้าที่ที่คอยต้อนรับพระสงฆ์เป็นข้าราชการสังกัดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่หมุนเวียนกันมาทำหน้าที่ต้อนรับพระภิกษุสงฆ์ที่เดินทางผ่านไปมาตลอด 24 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ฝ่ายต้อนรับมีอัธยาศัยดี คอยดูแลความสะดวกจนกระทั่งเดินทางต่อ ขอชื่นชมและอนุโมทนาการถวายความสะดวกอย่างน่าประทับใจมา ณ ที่นี้ด้วย หากต้องเดินทางแรมคืนอีกก็จะขอใช้บริการอีกเป็นแน่แท้
เช้าตรู่เวลา 8.00 น.ขึ้นเครื่องบางกอกแอร์เวย์ถึงสนามบินนานาชาติเชียงใหม่และถึงวัดอุโมงค์เชียงใหม่โดยสวัสดิภาพ
ก่อนจะถึงวันงานมีเทศน์ มีทอล์ค ได้ใช้เวลาทำภารกิจต่างๆ ได้เรียบร้อยตามลำดับ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ทั้งวันได้ใช้เวลาตรวจสุขภาพเพื่อเตรียมตัวผ่าตัดต้อกระจกด้านซ้ายในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 จนได้ใบนัดวันเวลาที่จะทำการผ่าตัด ณ คลีนิคผ่าตัดพิเศษ ศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และในวันเดียวกันนี้ ได้นำเงิน ส่วนหนึ่งจากเงินที่พุทธศาสนิกชนชาววัดพุทธปัญญา ชาววัดพุทธธรรมและชุมชนคนรักธรรมบริจาคถวายค่าอาหาร ค่าเดินทางและค่าผ่าตัด บริจาคแก่มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอกสมทบนิธิสงฆ์อาพาธจำนวน 30,000 บาท ดร.นภาพร วิจารณ์ปรีชามีศัทธาร่วมสมทบด้วยอีก 5,000 บาทรวมเป็นเงิน 35,000 บาท ขออนุโมทนาส่วนกุศลอันยิ่งใหญ่ที่ได้ร่วมกันบริจาคทานเพื่อถวายการบำรุงรักษาภิกษุอาพาธมา ณ โอกาสนี้
รุ่งเช้าวันที่ 11กุมภาพันธ์ 2559 ได้นำเงินที่คุณกลัยา แก่นเรณู จากนครชิคาโกไปมอบแก่กลุ่มทอผ้าอนุรักษ์ผ้าตีนจกอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่สองกลุ่ม จำนวนเงิน กลุ่มละ 4000 บาท
จากนั้นได้เดินทางต่อไปยังชุมชนการเรียนรู้สมเด็จย่าโพธิวิชชาลัย ที่จัดการเรียนการสอนแก่เด็กด้อยโอกาสบนที่สูงโดยเน้นการเรียนรู้ชีวิตที่เกี่ยวกับการประกอบอาชีพที่นำไปเลี้ยงชีพโดยตรง ฝึกให้มีจิตสำนึกรักท้องถิ่นรักชาติศาสนาและองค์พระมหากษัตริย์ ฝึกจิตใจให้มีความพร้อมที่
จะใช้ชีวิตในท้องถิ่นบ้านเกิดและดำรงชีวิตในถิ่นอื่นๆ ได้อย่างดีและมีความสุข หรือมีความพร้อมจะดำเนินชีวิตได้ในทุกสถานการณ์และภาวะแวดล้อม
ที่ศูนย์นี้ได้จัดเงินจำนวน 3,200 บาทปรุงก้วยเตี๋ยว
เลี้ยงครู นักเรียน และชาวบ้านที่มาร่วมงานประมาณ 100 คน ดร.นภาพร วิจารณ์ปรีชาบริจาคค่าไอสครีมหนึ่งถังจำนวน 1,000 บาท
จากนั้นจึงมอบเงินอีกจำนวน 27,000 บาทให้แก่ชุมชนการเรียนรู้แห่งนี้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเสริมค่าอาหาร อุปกรณ์การเรียนการสอนและส่งเสริมการเรียนรู้ตามอุดมการณ์แห่งโพธิวิชชาลัยต่อไป
เมื่อมอบเงินและเลี้ยงก้วยเตี๋ยวแก่เยาวชนและชาวบ้านที่ไปร่วมงานพร้อมฉันเพลแล้วรับฟังเพลงที่นักเรียนได้ร้อง ซึ่งส่วนใหญ่นักเรียนรุ่นพี่ที่จบไปแล้วแต่งและเรียบเรียงคำร้องและทำนองให้น้องๆ รุ่นต่อๆ มาได้ร้องเพื่อเป็นการปลุกเร้าให้ตื่นรู้เห็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์ วัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่สะสมสืบทอดกันมาแต่โบราณ เห็นความสัมพันธ์ของขุนเขาต้นไม้สายธาร สัตว์น้อยใหญ่ที่ต่างอาศัยซึ่งกันและกันอย่างผสมผสานกลมกลืน
เนื้อเพลงมีว่า
เขาลูกหนึ่ง น้ำสายหนึ่ง
เขาลูกหนึ่ง น้ำสายหนึ่ง
ไม่ใช่กบไม่เดินผ่าน
ไม่ใช่ปลาไม่ว่ายผ่าน
เจ้าหนังสือเหย
เจ้าหนังสือเหย
เขาน้อยมีความหวังไปถึงเจ้า
เขาน้อยหวังว่าวันหน้า
เขาน้อยหวังว่าวันหน้า
รอคอยเจ้า
รอคอยเจ้าตลอดเวลา
หุบเขายาว หุบเขายาว
ไม่ใช่นกไม่บินไป
สหายถ้าเจ้ามาท่องเที่ยว
จะมีความรู้สึกดีใจที่สุด
เมื่อวันเวลาผ่านไปทรัพยากรธรรมชาติที่เคยอุดมสมบูรณ์ลดน้อยลง ดินฟ้าอากาศเปลี่ยนไป วิถีดั้งเดิมที่เคยแสวงหาอาหารที่อยู่อาศัยและยารักษาโรคจากผืนป่าขุนเขาก็พลอยเปลี่ยนไปอย่างมาก การรุกฆาตของนายทุนที่ขับเคลื่อนด้วยพลังแห่งโลภะได้แปรสภาพภูเขาที่เคยอุดมสมบูรณ์เขียวขจีด้วยไม้น้อยใหญ่นานาพันธ์ ให้เป็นภูเขาหัวโล้นขึ้นทุกวัน เสียงเรียกร้องของผู้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติที่มีเพียงมันสมอง สองแขนและหนึ่งหัว ไม่เคยมีอำนาจ การเงิน หรืออำนาจการเมืองใดๆ ก็ดังขึ้นผ่านเสียงเพลงว่า
ความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน
ประกอบด้วยทรัพยากรป่าไม้
และทรัพยากรธรรมชาติมากมาย
สิ่งมีชีวิตต่างๆ อยู่ด้วยกันอย่างหลากหลาย
มีแต่ความสงบร่มเย็น
มวลมนุษย์ก็อยู่กันอย่างสงบสันติสุขเช่นกัน
ความร้อนหนาวฝนตกต้องตามฤดูกาล
กาลเวลาปัจจุบันฤดูกาลได้เปลี่ยนไป
เพราะทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม
และป่าไม้ถูกทำลาย
ร้องขอความร่วมมือจากพี่น้องทุกท่าน
ให้ช่วยกันรักษาอย่าทำลาย
ก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นเหมือนทะเลทราย
แล้ววันนั้นเราจะอยู่กันอย่างไร
เสียกเพรียกผ่านเสียงเพลงบอกว่า ทุกคนเห็นภัยแห่งความเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมร่วมกันและต้องมาร่วมมือกันรักษาดูแล
สมเด็จย่าและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยประชาชนบนพื้นที่สูงเสมอมา นอกจากจะนำอาชีพที่สอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมไปมอบให้แล้ว ยังสร้างโรงเรียนและศูนย์เรียนรู้ไว้มาก
มายเพื่อให้เยาวชนและประชาชนได้ใช้เป็นศูนย์เรียนรู้และอนุรักษ์วัฒนธรรม เยาวชนรุ่นแล้วรุ่นเล่าที่ได้
รับแสงสว่างจากการศึกษาที่พระองค์ท่านทรงประทานให้ ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณยิ่งนัก จึงได้แสดงออกถึงความประทับใจและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณผ่านบทเพลง คนดีของฉัน
ขอบพระคุณสมเด็จย่าท่านที่ทรงห่วงใย
ที่ทำให้ทุกวันฉันมีการศึกษา
จากที่อ่านและเขียนไม่เป็น
วันนี้ฉันได้เรียนรู้
จึงทำให้ฉันอ่านออกเขียนได้
ขอบพระคุณในความเมตตาที่ให้ปวงชน
ชาวไทยทุกๆ คนบรรเทาทุกข์ใจ
ในอ้อมอกความรักที่มี อุทิศให้เราหมดกาย
เพื่อให้เราทุกคนนั้นมีสุขใจ
โอ้ความรักแท้ที่พระองค์ทรงให้มา
คือความรักที่ยิ่งใหญ่สุดฟ้า
ท่านทรงดูแลสุขทุกข์เรา
ทั่วทั้งผืนแผ่นดินไทย
เหนือ ใต้ อิสาน ตก ออกท่านทรงไป
ความรักอันนี้ทั้งชีวิตเราหาไม่เจอ
คือความรักแท้ คือความรักที่แสนยิ่งใหญ่
ไม่อาจตอบแทนพระคุณที่ท่านให้มา
นอกจากเป็นคนดีคนดีของท่าน
สมเด็จย่าไม่เคยหวังสิ่งใดตอบแทน
นอกจากให้เราเป็นคนดีก็พอ
อยู่ด้วยกันด้วยความเมตตา
แบ่งปันไมตรีจิตใจ
จับมือใช้ชีวิตด้วยความผูกพัน
คนดีของฉันหรือจะต้องเป็นคนไม่พูดปด
ไม่สอพลอไม่อิจฉาและริษยาและไม่คดโกง
ไม่ทะเยอทะยานบ้าๆ แต่ทำหน้าที่ให้ดี
เมื่อการร้องเพลงเพื่อชีวิตของนักเรียนจบลงครูใหญ่และปราชญ์ชาวบ้านได้ร่วมกันเสวนาแสวงหาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันโดยนำเอาเนื้อเพลงแต่ละท่อนมาสะท้อนถึงวิถีชีวิตและความรู้สึกนึกคิดของชุมชนขาวเขาในมิติต่างๆ เป็นการเติมเต็มภูมิปัญญากันอย่างอิ่มหนำไม่แพ้ก้วยเตี๋ยวและไอสครีมที่รับประทานไปก่อนหน้านี้
การเสวนาเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับท้องถิ่นและความร่วมมือที่จะสื่อความดีงามที่เกิดขึ้น ณ ดินแดนแห่งนี้ให้ได้ทราบทั่วกันเพื่อเป็นกำลังใจให้ได้ช่วยกันรักษาสืบสานสิ่งแวดล้อมวิถีชีวิตและวัฒนธรรมอันล้ำค่าให้ยั่งยืนสืบไป
เวลาบ่ายสามโมงกว่าพวกเราจึงอำลาสหายธรรมและสหายน้อยของพวกเราด้วยสัญญาว่าจะมาเยือนอีกในวันข้างหน้าขอให้เป็นคนดี เป็นคนดีของสมเด็จย่าช่วยพัฒนาแผ่นดีแม่ให้สงบร่มเย็นชุ่มชื่นดั่งที่เคยเป็นมา เพื่อให้ชีวิตที่สงบร่มเย็นได้กลับคืนมาเถิด
วัดอุโมงค์ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 3.25 น.
ดร.พระมหาจรรยา สุทฺธิญาโณ
เจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญา, วัดพุทธธรรมและวัดลอยฟ้า
www.buddhapanya.org & www.skytemple.org