จดหมายจากเมืองไทยฉบับที่ 8
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558 รถจากเทศบาลหนองสองห้องได้มาส่งที่หัวสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ด้านทิศตะวันออก จากนั้นคนขับรถก็ขอลากลับไปทำงานต่อที่เทศบาล อาตมากล่าวคำขอบคุณในความเมตตาที่ทั้งสองคนได้สละเวลามาส่งจนถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งไทยอย่างสะดวก
อาตมารับแบบฟอร์มการเข้าออกภายในและภายนอกประเทศมากรอกหนึ่งใบ เจ้าหน้าที่ใจดีขอหนังสือเดินทางไปกรอกให้ด้วยความเรียบร้อย แล้วนิมนต์ไปขึ้นรถบัสที่รับส่งประชาชนเดินทางข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ไปยังฝั่งประเทศลาว
รถบัสนำผู้โดยสารผ่านสะพานสู่ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว แล้วอาตมาเดินตามผู้โดยสารไปเข้าแถวกรอกข้อความในแบบฟอร์มขาเข้าขาออก มีอาสาสมัครที่คอยรับจ้างกรอกข้อความให้ในราคาไม่แพง อาตมาบอกว่าขอกรอกเองเพราะเคยกรอกบ่อยๆ เมื่อกรอกเสร็จแล้วจึงนำไปยื่นให้เจ้าหน้าที่รับไปพิจารณาอนุญาตผ่านด่านตรวจ คนเข้าเมืองด้วยความสะดวก
คุณศรีสมัย คุณศิวิไล คุณหุ้มพันธ์ มายืนรอรับอยู่ตรงหลังห้องด่านตรวจคนเข้าเมือง พออาตมาเสร็จพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว เดินไปขึ้นรถที่จอดไว้ใกล้ๆ แล้วพากันเดินทางเข้าเมืองเวียงจันทร์
ประเทศลาววันนี้ กำลังเดินเข้าสู่ระยะการพัฒนาอย่างเต็มที่ ถนนเข้าเมืองเวียงจันทร์กว้างขวาง ตึกรามบ้านช่องใหม่ๆผุดขึ้นมากมายกว่าที่เคยมาเยือนเมื่อเกือบห้าปีที่แล้ว โรงงานอุตสาหกรรมชนิดต่างๆ กว้างขวางใหญ่โตผุดขึ้นกลางทุ่งนาริมทางเกือบตลอดเส้นทางที่เข้าสู่นครเวียงจันทร์
คุณหุ้มพันธ์ขับรถนำเราตรงไปยังวัดไตยใหญ่ ซึ่งเป็นวัดประจำตระกูลของบ้านคุณศิวิไล ซึ่งคุณศิวิไลมีความคุ้นเคยสนิทสนมกับเจ้าอาวาสและพระที่วัดเป็นอย่างดี
ท่านเจ้าอาวาสอายุพรรษา 20 กว่าปีออกมาต้อนรับ จัดที่พักให้สะดวกสบาย เนื่องจากยังมีอาการไข้อยู่ รู้สึกตัวร้อนและไอตลอดเวลา จึงขออนุญาตคุณศิวิไลและคุณหุ้มพันธ์ว่า ขอนอนพักก่อนเผื่ออาการไข้จะทุเลาเบาลง พร้อมกันนี้ก็ขอให้คุณศิวิไลต้มน้ำตะไคร้และกระเพราผสมกันเพื่อขับไล่อาการไข้
เวลาหนึ่งทุ่มกว่าๆ คุณศิวิไลได้นำญาติจากประเทศฝรั่งเศสเยอรมันและสวิสเซอร์แลนด์มาสนทนาธรรมด้วย ญาติที่มานั้นเป็นแม่ชีหนึ่งคนจากประเทศเยอรมัน ลูกชายติดตามมาด้วย ลูกชายจบวิศวะ บุคลิกภาพดี ท่าทางเรียบร้อยสนใจธรรมะ ตั้งใจฟังดีมาก
ส่วนคุณลุงที่บอกว่ามีบ้านอยู่ใกล้ทะเลสาบเจนีวานั้นสนใจธรรมะ ศึกษางานของท่านอาจารย์พุทธทาสมาก มีความเข้าใจธรรมะขั้นสูงดี จะหาใครที่สนใจธรรมะขนาดนี้ในโลกตะวันตกที่ให้ความสนใจและเข้าใจธรรมะได้ลึกซึ้งขนาดนั้นได้ไม่ง่ายเลย
พวกเราสนทนาธรรมกันประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ลาเดินทางกลับบ้าน ก่อนจะกลับไปพักผ่อนได้ปวารณาไว้ว่า ถ้าพระอาจารย์สนใจจะเดินทางไปเยี่ยมเยือนแสดงธรรมที่สวิสฯเมื่อไรขอให้แจ้งให้ทราบ จะได้เตรียมตัวต้อนรับจัดรายการให้ผู้ใฝ่ธรรมได้มาพบศึกษาธรรมะด้วย ก็ขอบใจในความมีน้ำใจ ว่างเมื่อไรจะไปเยือนตามคำนิมนต์
เมื่อญาติโยมกลับไปแล้ว อาตมาจึงได้เข้านอนและหลับไปด้วยความอ่อนเพลียจากการเดินทางทั้งกลางคืนและกลางวันที่ผ่านมา
เมื่อได้หลับเต็มอิ่ม ตื่นเช้าขึ้นมาอาการดีขึ้นคอยังแหบแห้งจะทวนปาฏิโมกข์ตามปกติก็ยาก จึงได้ฟังจากเครื่องอัดเทปเป็นการทบทวนจนจบ ยามเช้าตรู่ออกมาเดินเล่นบริเวณวัดซึ่งไม่กว้างขวางนัก อุโบสถและศาลาทุกหลังเต็มไปด้วยลวด
ลายลีลาอ่อนช้อยสวยงามมากมาย อุโบสถและศาลาวัดในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ล้วนทำหน้าที่เป็นหอศิลป์ประจำชุมชนเป็นอย่างดี
เมื่อเดินออกกำลังเล็กๆ น้อยๆ แล้ว คุณหุ้มพันธ์มารับไปฉันอาหารเช้าที่บ้านคุณศิวิไล อาหารที่คุณศิวิไลปรุงเป็นอาหารสุขภาพ โดยคุณศิวิไลซื้อผักและผลไม้มาจากตลาดปลอดสารพิษในนครเวียงจันทร์ซึ่งประชาชนนำมาวางขายมากมาย กลายเป็นเศรษฐกิจชุมชนที่ส่งเสริมให้ประชาชนได้ผลิตสินค้าแล้วนำมาขายผู้บริโภคโดยตรง ให้ผู้บริโภคได้บริโภคของสด ของดี ของถูกจากผู้ผลิตโดยตรง
การได้บริโภคอาหารที่สดปรุงง่ายๆ ได้ไวตามินและเอนไซด์ครบถ้วน ทำให้รู้สึกสดชื่นกาย เบากาย เบาจิต
ฉันเช้าเสร็จแล้ว คุณศรีสมัย คุณศิวิไล คุณหุ้มพันธ์ คุณแม่ของคุณศิวิไล ขึ้นรถเดินทางไปบ้านคุณบัวผันซึ่งอยู่ห่างจากเวียงจันทร์ประมาณสามสิบกิโลเมตร นั่งรถผ่านสนามกีฬาที่เคยใช้แข่งซีเกมส์ที่เคยสวยงามไปด้วยไม้ดอก ไม้ประดับนานาพันธุ์ บัดนี้ถูกทิ้งรกร้างต้นไม้ใบหญ้าแห้งเหี่ยว เพราะไม่ได้รับการรดน้ำดูแลเอาใจใส่ วัชพืชที่มิได้รับเชิญเจริญงอกงามปกคลุมจุดต่างๆ ที่เคยเกลี้ยงเกลาเตียนโล่ง
คุณบัวผันรวบรวมญาติธรรมได้ประมาณสามสิบคน มาร่วมกันฟังธรรมที่อพาร์ทเม้นท์ของคุณบัวผัน ได้ทราบมาก่อนว่า คุณบัวผันได้ส่งซีดีของทางวัดพุทธปัญญามาให้ญาติโยมเหล่านี้ได้ฟังกันมาก่อนแล้ว พอทราบว่าอาตมามาแสดงธรรมก็ต่างอยากมาฟังธรรมจากตัวเป็นๆ โดยตรง
อาตมาได้แสดงธรรมทั้งภาคเช้าภาคบ่าย พุทธศาสนิกชนสนใจมากจริงๆ แสดงธรรมไปจนถึงเวลา 14.30 น. จึงพักแล้วไปเยี่ยมวัดที่คุณบัวผันให้ความอุปถัมภ์อยู่ วัดนี้กำลังสร้างอุโบสถที่ภาษาลาวเรียกว่า สิม หรือ ย่อมาจากสีมานั่นเอง คงจะใช้เวลาและงบประมาณอีกไม่น้อยทีเดียว
ได้พบพระภิกษุรูปหนึ่งที่คุณบัวผันถวายความอุปถัมภ์ในการบวช ดูแลงานก่อสร้าง ดูแลกิจกรรมต่างๆ ของวัด และออกมาต้อนรับพูดคุยกันพอสมควร
จากการสอบถามได้ความว่า พระภิกษุสามเณรที่บวชแล้วอยู่นอกกำแพงเมืองเวียงจันทร์ จะไม่มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย เพราะทางคณะสงฆ์ไม่ได้จัดการเรียนการสอนให้ หากใครสนใจเรียนก็ต้องไปเรียนที่ในเมือง
ถามท่านว่า ทำไมไม่ไปเรียนเสียก่อนแล้วจึงมาทำงาน
ท่านตอบว่าหาที่พักในเมืองไม่ได้เลย เพราะไม่มีวัดที่ไหนรับเข้า การที่จะมีโอกาสศึกษาเล่าเรียนได้ต้องมีคนฝากให้อยู่ในเมืองก่อนแล้วการเรียนก็จะมีขึ้นภายหลัง
เมื่อถามว่าจะหาความรู้กันอย่างไร ท่านก็ตอบว่า ต้องขวนขวายหาเรียนกันเอาเองตามมีตามเกิด เช่น วัฒนธรรมประเพณีต่างๆ ต้องทำและประกอบให้พุทธศาสนิกชนได้ อาศัยอุบาสกอุบาสิกาที่เคยทำกันมาแล้วค่อยเรียนรู้สืบทอดกันไป
คุยกับพระท่านแล้วศรัทธาที่ตั้งใจเสียสละบวชและช่วยดูแลงานของวัด จึงถวายปัจจัยท่านไว้ใช้จ่ายส่วนตัวหนึ่งพันบาท ถวายร่วมสร้างอุโบสถสองพันบาทเพื่อเป็นกำลังใจแก่ท่าน
พวกเราอำลาพระไปชมนาเกลือสินเธาว์แล้วเดินทางกลับนครเวียงจันทร์ มาถึงวัดแล้วก็อาบน้ำพักผ่อน คืนนี้ไม่มีการสนทนาธรรม อาการไข้ยังไม่หายสนิทยังมีอาการไอเป็นระยะๆ
ขอจบจดหมายฉบับนี้ไว้แค่นี้ก่อนพบกันฉบับหน้า
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 9.30 น.
วัดอุโมงค์ ต.สุเทพ อ. เมือง จ. เชียงใหม่
ดร.พระมหาจรรยา สุทธิญาโณ
เจ้าอาวาสวัดพุทธปัญญาและวัดลอยฟ้า